สารบีพีเอน่า มีผลเสียต่อสารเคลือบฟันในคนและสัตว์

สารบีพีเอน่า มีผลเสียต่อสารเคลือบฟันในคนและสัตว์

ผลการสำรวจโดยสำนักงานควบคุมโรคแห่งสหรัฐในปี 2546-2547 พบระดับสารบีพีเอในระดับหนึ่งในตัวอย่างปัสสาวะของ 25 เปอร์เซ็นต์ของจำนวน 2,500 ตัวอย่าง สารบีพีเอยังอาจจะปนเปื้อนในสิ่งเเวดล้อมด้วยเพราะมีขวดพลาสติกมากมายมหาศาลกลายเป็นขยะเรี่ยราดทั่วไปและในแม่น้ำลำธาร

สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐชี้ว่าผลการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่าสารบีพีเออาจส่งผลเสียต่อสุขภาพหลายอย่าง รวมทั้งยังอาจจะเป็นตัวก่อมะเร็งหลายชนิดด้วย ผลการศึกษานี้ยังชี้เพิ่มเติมว่ามีเหตุผลเพียงพอที่จะสร้างความกังวลในเรื่องนี้เพราะในการศึกษาในสัตว์ทดลองหลายการศึกษาพบว่าสารบีพีเอมีผลเสียต่อตัวอ่อนในครรภ์และลูกๆของสัตว์ที่ได้รับสารบีพีเอ ในขณะนี้การศึกษาว่าสารบีพีเอมีผลกระทบต่อคนแบบเดียวกับที่เกิดกับสัตว์ทดลองยังไม่เสร็จสิ้น

ในหนูทดลองที่ได้รับสารบีพีเอในระดับต่ำหลายๆครั้งจะมีจุดสีขาวที่ฟัน ทีมนักวิจัยรายงานสิ่งที่พบนี้แก่เธอและทีมงาน ซึ่งได้ทำการศึกษาจุดสีขาวบนฟันของหนูทดลองดังกล่าวแล้วพบว่าสารบีพีเอทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของตัวเคลือบฟัน นักวิจัยชี้ว่าสารบีพีเอที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายอาจจะส่งผลเสียต่อเซลล์ที่สร้างตัวเคลือบฟันทำให้ฟันอ่อนแอและเเตกหักง่าย

ความกังวลต่อผลเสียของสารบีพีเอต่อสุขภาพได้นำไปสู่การผลิตพลาสติกที่ไร้สารนี้ ยุโรปได้สั่งห้ามใช้ขวดนมเด็กที่มีส่วนผสมของสารบีพีเอไปเมื่อสองปีที่แล้ว ส่วนสหรัฐเริ่มใช้ข้อห้ามนี้เมื่อเดือนกรกฏาคมปีที่แล้ว ในฝรั่งเศส รัฐบาลสั่งขยายระยะเวลาสั่งห้ามใช้สารบีพีเอในบรรจุภัณฑ์อาหารทุกชนิดไปอีกหนึ่งปีครึ่งต่อจากนี้