ทำไมต้องจัดฟัน ???

ทำไมต้องจัดฟัน

  1. 1. ทำไมต้องจัดฟัน

การจัดฟัน (Orthodontics)

ช่วยป้องกันและรักษาปัญหาที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของขนาดของฟัน หรือขากรรไกร ซึ่งมีผลต่อโครงสร้างรูปหน้า และการบดเคี้ยวอาหาร เช่น ฟันยื่น ฟันห่าง ฟันซ้อน หรือฟันเก การจัดฟันจะช่วยให้การเรียงตัวของฟันและการสบฟันดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการเคี้ยวอาหาร รวมทั้งช่วยลดปัจจัยเสี่ยง ในการเกิดฟันผุ หรือโรคเหงือก อันเนื่องมาจากความยากลำบาก ในการทำความสะอาดฟันและเหงือกในบริเวณที่ฟันเรียงตัวผิดปกติ และที่สำคัญ ยังช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพและเพิ่มความมั่นใจจากการมีฟันที่เรียงตัวสวยงามอีกด้วย

  1. ขั้นตอนในการเตรียมตัวก่อนจัดฟัน

ต้องพบกับทันตแพทย์เพื่อทำการตรวจสุขภาพช่องปาก วิเคราะห์ปัญหาของฟันและกระดูกขากรรไกร ดังรายละเอียดต่อไปนี้

2.1 เอ็กซเรย์ฟันและกระดูกขากรรไกร พิมพ์ปากสร้างแบบจำลองฟัน เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการวางแผนการรักษา ประเมินเวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษา

2.2 ฟังการอธิบายผลการรักษาจากทันตแพทย์ ผู้ป่วยควรซักถามข้อสงสัยต่างๆเกี่ยวกับแผนการรักษา ผลข้างเคียงและผลของการรักษาให้ชัดเจนก่อนการตัดสินใจ

2.3 เตรียมสุขภาพช่องปากให้อยู่ในสภาพดีเยี่ยมก่อนการติดเครื่องมือจัดฟัน ฟันผุทุกซี่จะต้องได้รับการอุดให้เรียบร้อย รวมไปถึงการรักษา โรคเหงือก ขูดหินปูน และการเคลือบหลุมร่องฟันที่มีความเสี่ยงที่อาจจะผุ

2.4 ทันตแพทย์อาจพิจารณาถอนฟันบางซี่ออกในกรณีที่ฟันซ้อนเก หรือยื่นมา การถอนฟันจะทำให้มีช่องว่างเพื่อเรียงฟันที่ซ้อนเก หรือดึงฟันปรับลดมุมที่ยื่นให้ลดลง มักจะพิจารณาถอนฟันกรามน้อยที่อยู่ด้านหลังฟันเขี้ยว

  1. ข้อแนะนำในการปฏิบัติตัวเมื่อติดเครื่องมือจัดฟัน

3.1 แปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ เพื่อรักษาความสะอาดของฟัน เครื่องมือจัดฟันและช่องปากให้ดี เพื่อลดการสะสมคราบแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของฟันผุในระหว่างการจัดฟัน

3.2 หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็ง เหนียว และกรอบทั้งหลาย เช่น ปลาหมึก ถั่ว ลูกอม และหมากฝรั่ง เพราะจะทำให้เครื่องมือจัดฟันบิดเบี้ยว หรือหลุดได้

3.3 การรับประทานผัก ผลไม้ ควรตัดแบ่งเป็นชิ้นพอดีคำ เคี้ยวด้วยฟันกรามหลัง และควรเลือกรับประทานอาหารที่อ่อนนุ่ม

3.4 ในระยะแรกของการจัดฟันมักจะเจ็บฟันและอาจมีแผลเกิดขึ้นในช่องปาก ซึ่งอาการจะค่อยๆดีขึ้นในสัปดาห์ที่ 2 การลดการระคายเคืองโดยนำขี้ผึ้งที่ได้รับจากทันตแพทย์ ทาปิดทับบริเวณที่แหลมคม และการดื่มน้ำมากๆ จะทำให้แผลหายเร็วขึ้น หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด แสบร้อน

3.5 ถ้ามีลวดเส้นเล็กๆ งอมาแทงริมฝีปากหรือกระพุ้งแก้ม ให้ใช้ของไม่มีคม เช่น ยางลบปลายดินสอเช็ดแอลกอฮอล์ กดปลายลวดกลับเข้าไป

3.6 ในระหว่างการจัดฟันควรพบทันตแพทย์เพื่อขูดหินปูน ทำความสะอาดฟัน และตรวจฟันผุทุกๆ 3-6 เดือน

  1. ปัญหาที่มักพบในขณะจัดฟัน

4.1 รอยด่างขาวบนผิวฟัน รอบๆหมุดจัดฟัน (White spot Leison-WSL) เกิดจากกรดแบคทีเรียในคราบพลัคที่ตกค้างอยู่ ซึ่งมักพบในผู้ป่วยที่รับประทานอาหารที่มีน้ำตาลมากเกินไป หรือไม่ทำความสะอาดฟันอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ

4.2 ฟันผุ เป็นปัญหาต่อเนื่องจากรอยด่างขาวที่ขาดการดูแลอย่างเหมาะสมและทันท่วงที คราบพลัคที่สะสมอยู่นาน ยิ่งทำให้เกิดกรดแบคทีเรียที่เข้มข้ม ทำลายผิวฟัน และลุกลามกลายเป็นโพรงฟันผุ

4.3 เหงือกอักเสบ เกิดจากคราบพลัคที่สะสมบริเวณของเหงือก เชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดการบวมอักเสบ

4.4 บาดแผลจากการเสียดสีกับอุปกรณ์จัดฟัน

4.5 กลิ่นปาก

 

เพราะช่องปากของคนจัดฟัน ต้องการการดูแลที่แตกต่าง

 

  1. วิธีการดูแลสุขภาพในช่องปาก เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้น

ขั้นแรกต้องเลือกแปรงสีฟันที่ออกแบบเป็นพิเศษ มีลักษณะที่เป็น V-Cut ใช้ร่วมกับยาสีฟันสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ โดยแปรงฟันในแต่ละครั้งให้นานขึ้น และทั่วถึงทั้งช่องปาก และที่สำคัญต้องแปรงทำความสะอาดทุกครั้งหลังอาหาร

5.1 วางขนแปรงแถวนอกที่บริเวณคอฟัน ทำมุม 45 องศากับแนวแกนฟัน ดังภาพ A ซึ่งร่องรูปตัว V จะคร่อมลงบนหมุดและลวดจัดฟัน ขยับขนแปรงไปมาในช่วงสั้นๆ อย่างน้อยซี่ละ 10 ครั้ง

5.2 เอียงแปรงทำมุมดังภาพ B ให้ขนแปรง V Slim สอดเข้าระหว่างลวดกับผิวฟัน ขยับให้ขนแปรงปัดตามแนวลูกศร ดังภาพ B

5.3 วางขนแปรงตั้งฉากกับผิวฟัน ให้ร่องตัว V คร่อมลงบนลวดจัดฟัน ขนแปรงในร่องตัว V จะทำความสะอาดบนลวดและหมุดจัดฟัน ขนแปรง V Slim แถวริมสุดจะทำความสะอาดผิวฟันและเหงือกโดยไม่ระคายเคือง

5.4 สำหรับการแปรงฟันส่วนใน วางขนแปรงที่บริเวณคอฟัน ด้านในของฟัน โดยจรดขนแปรงระหว่างขอบเหงือกและคอฟัน แล้วขยับขนแปรงตามแนวลูกศรดังภาพ D

5.5 การแปรงฟันด้านบดเคี้ยว ให้วางขนแปรงไว้ด้านบนของฟันกราม และแปรงโดยการขยับแปรงเข้าและออกตามแนวฟัน ดังภาพ E

เพื่อสุขภาพอนามัยช่องปากที่ดีหลังการจัดฟัน

– ควรตรวจดูความสะอาดหลังการแปรงฟันทุกครั้ง โดยดูจากความสะอาดแวววาวของเครื่องมือจัดฟัน

– ใช้ไหมขัดฟัน + แปรงซอกฟัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขจัดคราบพลัค (ภาพ F)

– ควรใช้น้ำยาบ้วนปาก ฟลูโอคารีล ออร์โธ 123 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดช่องปาก (ภาพG)

แปรงสีฟันฟลูโอคารีล ออร์โธ 123 ขนแปรง 3 ระดับ สำหรับคนจัดฟัน

ขนแปรงรอบนอก

ระดับที่ 1 ขนแปรงปลายเรียวแหลม เพิ่มความยาว ซอกซอนอย่างนุ่มนวล ทำความสะอาดในร่องเหงือกที่แคบ

ระดับที่ 2 ขนแปรงปลายตัด เพิ่มการสัมผัสบนผิวฟัน จึงช่วยขจัดคราบพลัค ต้นเหตุของหินปูน

ขนแปรงด้านใน

ระดับที่ 3 ขนแปรงรูปตัว V ทำมุมพอดีกับความสูงของหมุดและลวดจัดฟัน ลดแรงต้านขณะแปรง จึงช่วยทำความสะอาดได้ง่ายยิ่งขึ้น

 

“ควรหมั่นพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจฟัน ขูดหินปูน และทำความสะอาด ทุกๆ 3-6 เดือน”

 

ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากฟลูโอคารีล ออร์โธ 123

ด้วยสูตรที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ ช่วยป้องกันและลดปัญหาช่องปาก ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการจัดฟันโดยเฉพาะ ด้วยคุณสมบัติที่สำคัญ 3 ประการ ดังนี้

  1. CPC (Cetylpyridinium Chloride 0.05% w/w สารลดคราบแบคทีเรีย) : Anti Bacterial Agent

ช่วยลดคราบพลัคและแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาต่างๆในช่องปาก

  1. Active Fluoride

ช่วยป้องกันฟันผุในขณะแปรงฟันและซ่อมแซมฟันผุระยะเริ่มต้น ซึ่งอาจเห็นเป็นรอยด่างขาว (White Spot)

  1. Natural Essence : Aloe Vera, Centella

ช่วยดูแลและถนอมเหงือก และเยื่อบุช่องปาก ที่มักเกิดการเสียดสีกับอุปกรณ์จัดฟัน

 

SLS Free : ปราศจากสารที่ทำให้เกิดฟองชนิดเข้มข้น ทำให้ปริมาณฟองไม่มากเกินไป ไม่ทำให้ปากแห้งที่เกิดจากการแปรงฟัน ทำให้สามารถใช้เวลาในการแปรงฟันได้นานขึ้นและทั่วถึง ไม่ว่าจะมีแผลในช่องปากหรือไม่ก็ตาม เพื่อประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ควรใช้คู่กับน้ำยาบ้วนปาก ฟลูโอคารีล ออร์โธ 123 ด้วยสูตร 0% แอลกอฮอล์ อ่อนโยนต่อช่องปากและมีส่วนผสมของฟลูโอไรด์ 2 ชนิด ช่วยป้องกันฟันผุ