แพทย์เตือน ไวรัส อีโบลา กลับมาระบาดหนักอีกรอบ
เชื้อไวรัสอีโบลา จัดเป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่สุดโรคหนึ่งในโลก นับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกที่ประเทศซาอีร์และประเทศซูดานในทวีปแอฟริกา เมื่อปี 2519 โดยการระบาดสองครั้งแรก เป็นการระบาดครั้งใหญ่ ทำให้มีผู้ล้มป่วยมากกว่า 550 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 340 ราย ซึ่งนับเป็นอัตราการตายที่สูงมาก และการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาก่อนหน้านี้ เกิดที่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ระหว่าง เดือนพฤษภาคม ถึงพฤศจิกายน ปี 2555 มีผู้ติดเชื้อ 62 ราย ในจำนวนนี้เสียชีิวิต 34 ราย
ตามที่มีรายงานข่าวพบเชื้อไวรัสอีโบลาระบาดในประเทศสาธารณรัฐกินี องค์การอนามัยโลก สรุปยอดผู้ป่วย ณ วันที่ 27 มีนาคม 2557 ยืนยันพบผู้ป่วย 106 ราย เสียชีวิต 66 ราย คิดเป็นอัตราตายร้อยละ 64 ปัจจุบันโรคนี้ยังไม่มีวัคซีนหรือวิธีรักษา โดยเชื้อไวรัสอีโบล่าสามารถแพร่ระบาดได้จากการสัมผัสเลือด อุจจาระ หรือเหงื่อของผู้ป่วยโดยตรง หรือมีเพศสัมพันธ์ หรือสัมผัสศพผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ โดยไม่มีการป้องกัน
แพทย์ไทยเผยว่า เชื้อไวรัสนี้สามารถติดได้จากการสัมผัสเลือด อุจจาระ หรือเหงื่อของผู้ที่ติดเชื้อ ไวรัสอีโบลานี้ ยังเป็นกลุ่มโรคชนิดเดียวกับไข้เลือดออก วำหรับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสอีโบลานี้แล้ว มีอัตราการเสี่ยงที่จะเสียงชีวิตอย่างสูง อาการเริ่มต้นของผู้ป่วยที่ติดเชื้อนี้คือ มีไข้สูงทันที อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อและปวดศีรษะมาก ตามด้วยอาการเจ็บคอ อาเจียน ท้องเสีย และมีผื่นนูนแดงขึ้นตามตัว ในรายที่รุนแรงหรือในบางรายที่เสียชีวิตจะมีอาการเลือดออกง่าย โดยมักเกิดร่วมกับภาวะตับถูกทำลาย ไตวาย มีอาการทางระบบประสาทส่วนกลางและช็อก อวัยวะหลายระบบเสื่อมหน้าที่ ขณะนี้องค์การอนามัยโลกยังไม่มีคำแนะนำห้ามเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง อย่างไรก็ดี ผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาดโรคชนิดนี้ หากมีอาการป่วยคล้ายอาการที่กล่าวมา ขอให้รีบพบแพทย์และแจ้งประวัติการเดินทางให้แพทย์ทราบด้วย เพื่อให้การดูแล ป้องกันการเสียชีวิต
Leave a Reply