แค่แกว่งแขนก็ลดโรคและลดพุงยื่นได้อีกด้วยนะ

แค่แกว่งแขนก็ลดโรคและลดพุงยื่นได้อีกด้วยนะ

การแกว่งแขนลดพุงที่ทาง สสส. ออกมารณรงค์กันอยู่พักใหญ่นั้น ให้ผลดีต่อสุขภาพจริง ๆ นะคะ ซึ่งศาสตร์นี้เป็นของแพทย์แผนจีนที่มีมาช้านานแล้ว เป็นการออกกำลังกายที่ง่ายทำได้บ่อย ไม่ต้องมีอุปกรณ์ใด ๆ ด้วย สาเหตุที่การแกว่งแขนรักษาโรคได้ก็เป็นเพราะว่าบริเวณใต้หัวไหล่ที่เรียกว่ารักแร้นั้น คือชุมทางของต่อมน้ำเหลือง หากเราขยับบริเวณนี้ต่อมน้ำเหลืองก็จะขยับไปด้วย ช่วยให้อวัยวะและระบบต่าง ๆ ของร่างกายสะอาดมากขึ้น ขจัดสารพิษ สารเม็ดเลือดขาว สร้างภูมิคุ้มกัน กรองเชื้อโรคได้สารพัดชนิด ซึ่งการทำให้ต่อมน้ำเหลืองทำงานได้อย่างดีไม่มีสะดุดนั้นต้องอาศัยการขยับร่างกายเข้าช่วย หากต่อมน้ำเหลืองติดขัดก็จะทำให้เกิดการอักเสบขึ้นตามจุดต่าง ๆ และเกิดอาการบวมตามจุดที่น้ำเหลืองไหลเวียน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องนำเอาขยับแขนมาช่วยกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองนั่นเอง

การแกว่งแขนมีประโยชน์มาก เพียงแค่ทำวันละ 10 นาทีก็ได้ผลเป็นการออกกำลังกาย ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น สุขภาพแข็งแรงขึ้น อารมณ์ดี แจ่มใส เบิกบาน ยิ่งทำทุกวันก็ยิ่งดี ช่วยลดการสะสมของไขมัน หากเราควบคุมอาหารไปด้วยก็จะช่วยลดพุงได้ ลดความดันโลหิต ช่วยให้ผ่อนคลาย กระปรี้กระเปร่าเพราะได้ยืดเส้นยืดสาย ลดอาการปวดบ่า คอ ไหล่ อาการออฟฟิศซินโดรมทั้งหลายได้ด้วย รวมไปถึงลดน้ำตาลในเลือด ลดโอกาสการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยชะลอการเสื่อมของเข่า เพราะการแกว่งแขนนั้นไม่มีน้ำหนักกระแทกส่วนเข่าหรือข้อเท้าเหมือนการออกกำลังกายแบบอื่น

ขั้นตอนการแกว่งแขนอย่างถูกวิธี ให้ปฏิบัติดังนี้นะคะ เพื่อผลลัพท์ที่เห็นได้ชัดเจนและถูกต้อง

1. ยืนยืดตัวตรง เข่าตรง เท้าแยกห่างกันพอประมาณ

2. ปล่อยมือตามธรรมชาติไม่เกร็ง หุบนิ้วมือติดกัน หันอุ้งมือไปด้านหลัง

3. หดท้องน้อยไปเล็กน้อย เอาตั้งตรง เหยียดหลัง ผ่อนคลายกระดูกลำคอ กระดูกศีรษะและปาก

4. จิกปลายเท้ายึดพื้นไว้ ส้นเท้าออกแรงเหยียบพื้นให้แน่น ให้แรงจนกล้ามเนื้อโคนเท้า โคนขา และท้องตึง ๆ ก็ใช้ได้

5. งอบั้นท้ายขึ้นเล็กน้อย เพราะการบริหารต้องหดก้น หรือขมิบก้นด้วย

6. ตามองไปที่จุดใดจุดหนึ่ง แล้วทำใจให้สบาย ๆ ไม่ฟุ้งซ่าน ทำสมาธิให้อยู่ที่เท้า

7. แกว่งแขนไปข้างหน้าเบาหน่อยทำมุม 30 องศากับลำตัว หายใจเข้าแล้วแล้วแกว่งไปข้างหลังแรงหน่อยประมาณ 60 องศา กับลำตัว จะเกิดแรงเหวี่ยงแล้วหายใจออกขณะแกว่งไปข้างหลัง นับเป็นหนึ่งครั้ง โดยปล่อยน้ำหนักตัวให้มือเป็นเหมือนลูกตุ้มและต้องสะบัดมือทุกครั้งให้เลือดหมุนเวียนไปถึงปลายนิ้วด้วย

8. ทำแบบนี้ต่อเนื่องกันอย่างน้อย 10 นาที ในหนึ่งวันควรทำรวมกันให้ได้ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 ครั้งขึ้นไป อย่างน้อย 45 วันก็จะเห็นผลตามที่ต้องการแล้ว


Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *