อาการของผู้ที่แพ้อาหาร

อาการของผู้ที่แพ้อาหาร

ผู้ที่เผลอไปทานอาหารที่ตัวเองแพ้เข้า หรือไปสัมผัสอาหารชนิดนั้น ๆ อาจเกิดอาการแพ้ขึ้นในทันทีหรือราวไม่เกิน 2 ชั่วโมงหลังจากการทานอาหาร แม้จะแตะต้องเพียงแค่นิดเดียวก็ตาม ซึ่งจะแสดงอาการออกมาดังต่อไปนี้

มีผื่นลมพิษ คันและบวมบริเวณผิวหนัง เกิดอาการบวมบริเวณปาก ลิ้น คอ ใบหน้าและส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย รู้สึกคัดจมูก หายใจหวีดเสียงดังเหมือนคนหอบหืด หายใจลำบาก ท้องร่วง ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียนเวียนหัว หน้ามืดเป็นลม แต่ในส่วนที่มีอาการรุนแรงที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตนั้นจะแสดงอาการได้แก่ หลอดลมหดเกร็งลม เพราะคอและหลอมลมบวม ทำให้หายใจลำบาก ความดันโลหิตต่ำลงจนถึงระดับที่ทำให้ช็อกได้ ชีพจรเต้นเร็ว หน้ามืดเป็นลมได้

แต่ถ้าจะแยกอาการที่เกิดขึ้นตามอวัยวะก็สามารถแยกได้ดังนี้
– บริเวณผิวหนัง อาจจะแสดงออกด้วยอาการคัน แดง เป็นลมพิษ ตัวร้อน มีอาการบวมที่หนังตาและปาก
– บริเวณทางเดินอาหาร จะคันปาก ปวดท้อง อาเจียน ท้องเดิน
– ทางเดินหายใจ จะคัดจมูก น้ำมูกไกล ไอ เสียงแหบ คันในคอ กลืนลำบาก หายใจเสียงดัง หายใจลำบาก ปากเขียว จนถึงหยุดหายใจได้
– ทางระบบหัวใจและหลอดเลือด จะมีอาการหัวใจเต้นเร็ว ใจสั่นในระยะแรก ต่อมาความดันโลหิตจะลดลง หัวใจเต้นผิดปกติ และอาจทำให้หัวใจหยุดเต้นได้
– ทางระบบประสาท อาจทำให้มึนงง หนักหัว และหมดสติได้
– ส่วนอาการอื่น ๆ เช่น ขมปาก ปวดกระเพาะปัสสาวะ กลั้นปัสสาวะไม่ได้เลย

โดยส่วนมากแล้วผู้ป่วยร้อยละ 90 จะแสดงอาการทางผิวหนัง ร้อยละ 70 แสดงอาการทางระบบทางเดินหายใจ ส่วนในเด็กมักจะแสดงอาการทางระบบทางเดินหายใจ ผู้ใหญ่จะเกิดทางหัวใจและหลอดเลือด

หากเรารู้ตัวว่าแพ้อาหารชนิดใดแล้วก็ไม่ควรไปเผลอรับประทานเข้า ควรเคร่งครัดกับอาหารก่อนตักเข้าปาก แต่ถ้าหากพลาดไปแล้วก็รีบพาตัวเองไปโรงพยาบาลโดยด่วนก่อนที่จะเกิดอาการรุนแรงขึ้นค่ะ