ความรู้เกี่ยวกับโรคไมเกรน หรือโรคลมตะกัง
สาเหตุของโรคไมเกรน หรือโรคลมตะกัง นั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ทุกครั้งที่อาการกำเริบจะมีการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมอง ทำให้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดและประสาทบนใบหน้า ทำให้หลอดเลือดภายในกะโหลกศรีษะหดตัว แต่หลอดเลือดภายนอกศีรษะ พองตัว ประสาทไวมากขึ้น จึงมีอาการปวดศรีษะและอาการอื่น ๆ ตามมา กว่าร้อยละ 70 นั้นโรคนี้จะถ่ายทอดทางพันธุกรรมด้วย
สาเหตุหรือปัจจัยที่กระตุ้นให้โรคกำเริบ มักจะมีอาการปวดหัวเป็นครั้งคราว และทุกครั้งจะมีการกระตุ้นล่วงหน้าเป็นชั่วโมงถึงสองวันเสมอ ผู้ป่วยควรสังเกตตัวเองว่ามีสาเหตุกระตุ้นอะไรบ้าง ซึ่งอาจมีมากกว่าแค่หนึ่งอย่าง ตัวกระตุ้นก็อาทิ แสงแดด แสงจ้า แสงระยิบระยับ หรือการใช้สายตานาน ๆ เสียงดัง เสียงจอแจต่าง ๆ , กลิ่นฉุน ควันบุหรี่ กลิ่นน้ำหอม , อาหารบางชนิด เช่น เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล ช็อกโกแลต กล้วยหอม ชูรส น้ำตาลเทียม แอลกอฮอล์ กาแฟ ยาคุมกำเนิด ยานอนหลับ, อากาศที่ร้อนจัด เย็นจัด หิวจัด อิ่มจัด อดนอน หรือนอนมากเกินไป รวมไปถึงความเครียด ซึมเศร้า คิดมาก และอื่น ๆ อีกมากมาย
อาการปวดที่โดดเด่น จะมีอาการปวดตุบ ๆ ตามจังหวะชีพจรที่ขมับข้างเดียว หรือสองข้าง ปวดติดต่อกันนานเกิน 4-72 ชั่วโมง ซึ่งการนอนหลับจะทุเลาได้ชั่วคราว แต่ตื่นนอนก็จะปวดต่อ อาการจะทุเลาไปเองแม้ไม่ได้กินยา แต่หากรีบทานยาเมื่อเริ่มมีอาการ ก็จะทุเลาได้เร็วมากขึ้น ผู้ป่วยมักจะมีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย และจะปวดมากขึ้นหากได้รับสิ่งกระตุ้น เช่น เห็นแสงจ้า ได้ยินเสียงดัง ฝืนทำงาน ขึ้นลงบันได ผู้ป่วยควรหยุดพักแล้วนอนในที่อากาศสบาย ๆ เงียบ ๆ สลัว ๆ อาการจะดีขึ้น บางคนก่อนปวดจะมีอาการเตือนทางสายตาก่อน เช่น ตาพร่า ตาลาย เห็นแสงสีรุ้ง เห็นดวงขาว ๆ เห็นภาพผิดเพี้ยนจากปกติประมาณ 15-30 นาทีนำมาก่อนเลย และจะหายไปเมื่อปวดหัว
โรคนี้มักเริ่มเป็นตั้งแต่วัยรุ่นหรือวัยหนุ่มสาว อาจเป็นเดือนละครั้งหรือหลายครั้ง หรือนาน ๆ ปี มักกำเริบไปตลอดชีวิต แต่อาจหายขาดไปเมื่อพันวัย 55 ปีไปแล้ว รวมทั้งอาจมีอาการโรคซึมเศร้าตามมาด้วย แต่โรคนี้ก็ไม่มีภาวะแทรกซ้อนหรืออันตรายใด ๆ ยกเว้นแต่หญิงที่มีอาการทางสายตามาก่อนหากสูบบุหรี่หรือกินยาคุมกำเนิด อาจทำให้เป็นโรคเส้นเลือดสมองตีบตันได้
การรักษาโรคไมเกรน ให้รีบกินยาพาราเซตามอลแก้ปวด ทันทีที่มีอาการอย่ารอเกิน 30 นาทีจะไม่ค่อยได้ผล ผู้ป่วยควรพกยาแก้ปวดไว้ตลอดจะได้กินทันทีเมื่อมีอาการ แล้วหาที่นอนพัก หลีกเลี่ยงที่เสียงดัง แสงจ้า ไม่ควรขึ้นลงบันไดหรือออกแรง หากคลื่นไส้ให้กินยาแก้คลื่นไส้อาเจียนด้วย ตามแต่ที่หมอแนะนะ
Leave a Reply