เสียงร้องไห้ของเด็กทารกหมายถึงอะไร?

เสียงร้องไห้ของเด็กทารกหมายถึงอะไร?

การร้องไห้ของเด็กทารกนั้นบางครั้งก็เป็นดั่งเสียงสวรรค์สำหรับพ่อแม่ แต่บางครั้งเด็กร้องมาก ๆ ก็ทำให้เกิดความรำคาญ หงุดหงิดทั้งคนเลี้ยงและผู้อื่นได้ การร้องไห้ของเด็กนั้นเป็นวิธีการสื่อสารอย่างหนึ่ง มีความหมายดังต่อไปนี้

– ร้องเพราะหิว เด็กทารกจะหิวทุกสองชั่วโมง ถ้าตื่นแล้วไม่ได้กินอาจร้องไห้ได้

– ร้องเพราะแน่นท้อง หากให้เด็กกินนมแล้วนอนทันทีอาจทำให้อึดอัดแน่นท้อง ปวดท้องได้ ควรอุ้มให้เรอก่อนเอาเข้านอน

– ร้องเพราะง่วงนอน แต่ก็นอนไม่ได้ เพราะสิ่งแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย เช่น สว่างเกินไปหรือมีเสียงดังเกินไป

– ร้องเพราะอากาศร้อนหรือหนาว ทารกจะมีความไวกับอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไปของอากาศมากกว่าผู้ใหญ่

– ร้องเพราะผ้าอ้อมเปียก

– ร้องเพราะป่วย จะร้องเสียงดังและโทนเสียงสูงเหมือนหวีดร้อง เพราะประกาศว่าตัวเองกำลังป่วย ขอให้พ่อแม่ช่วยที

– ร้องเพราะเหงา เสียงจะร้องไห้แบบกระซิก ๆ ออดอ้อน เพื่อเรียกคุณมาเล่นด้วย มาอุ้มมากอดหรืมากล่อมนอน

– ร้องเพราะอาการโคลิก ร้องคล้ายจะมีอากาณปวดท้อง ยิ่งร้องไห้ท้องก็ยิ่งแข็งเพราะลมเข้าท้องมาก มักร้องเวลาเย็นเวลาเดิม ร้องนานครั้งละ 3-4 ชั่วโมงและต่อเนื่องนาน 2-3 เดือน หลังจากนั้นก็จะหยุดไปเอง ไม่มีอันตรายแต่ไม่ได้เกิดขึ้นกับเด็กทุกคน
– ร้องเพราะอารมณ์ไม่ดี อาจเพราะพื้นนิสัยทารกเป็นเด็กใจร้อนขี้หงุดหงิด หรือชอบไม่ชอบอะไรบางอย่าง คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตให้ดี

วิธีการทำให้ทารกหยุดร้องก็ทำได้โดย การอุ้มนำลูกมาแนบตัวเราให้มากที่สุด พร้อมกับลูบหลังและโยกตัวเป็นจังหวะเหมือนกล่อม และพูดคุยกับลูกไปด้วย จะทำให้เด็กน้อยหยุดร้องได้ง่าย หรือจะอาบน้ำอุ่น ๆ และใส่เสื้อผ้าให้ใหม่ก็จะสบายตัวมากขึ้น หรือจะนำเอาทารกมานอนคว่ำบนลำตัวคุณแม่แล้วนวดหลังลูกเบา ๆ ช้า ๆ ให้ลูกได้ยินเสียงหัวใจแม่จะช่วยสงบสติอารมณ์ได้เร็วขึ้น หรือจะลองเปลี่ยนบรรยากาศพานั่งรถเย็นออกไปรับลม ชมวิว จะได้เพลินหยุดร้องไห้ได้ อย่างเขย่าตัวอย่างรุนแรงเพราะเด็กอาจได้รับความกระทบกระเทือนรุนแรงจนทำให้พิการและตายได้