สมาธิแนวผสมผสาน เพื่อการลดระดับความดันโลหิต และน้ำตาลในเลือด

สมาธิแนวผสมผสาน เพื่อการลดระดับความดันโลหิต และน้ำตาลในเลือด

การทำสมาธิเพื่อการควบคุมประสาทสัมผัสทั้งหก ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น การสัมผัส และการเคลื่อนไหวนั้น จะทำให้มีผลต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง และส่วนปลาย ระบบประสาทอัตโนมัติ รวมไปถึงอารมณ์ ภูมิต้านทาน ระบบไหลเวียนเลือด และระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้นด้วย ซึ่งในเรื่องนี้นั้น รศ.ดร. สมพร กันทรดุษฎี เตรียมชัยศรี คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้นำเอาความรู้เกี่ยวกับเรื่องการปฏิบัติสมาธิ ชี่กง โยคะ การออกกำลังกายแบบ Stretching มาทำสมาธิด้วยเทคนิคการหายใจ ควบคุมประสาทสัมผัสทางตาและหูไปพร้อมกัน จนเป็นรูปแบบของสมาธิบำบัดแบบใหม่ ที่เรียกว่า SKT1-7 ช่วยเยียวยาผู้ป่วยโรคเรื้อรังให้มีสุขภาพดีขึ้นได้ ซึ่งพื้นฐานนั้นให้ลองปฏิบัติตามวิธีดังนี้นะคะ จะนั่งหรือนอนก็ได้ทั้งสิ้น

1. เตรียมท่าทางโดยหากใช้ท่านั่งให้หงายฝ่ามือทั้งสองข้างบนหัวเข่า หากนอนให้วางแขนหงายมือไว้ข้างตัว หรือคว่ำไว้ที่หน้าท้องก็ได้

2. หลับตาลงช้า ๆ สูดลมหายใจเข้าทางจมูกลึก ๆ ช้า ๆ นับ 1-5 กลั้นไว้นับ 1-3 ช้าๆ แล้วเป่าทางปากพร้อมกับนับ 1-5 ช้า ๆ ถือว่าครบ 1 ครั้ง ทำแบบนี้ทั้งหมด 40 ครั้งแล้วค่อย ๆ ลืมตาขึ้น

การปฏิบัติสมาธิแบบนี้ให้ทำวันละ 3 ครั้ง เช้า กลางวัน และเย็น จะช่วยลดความดันโลหิต ผ่อนคลายกลามเนื้อ ลดน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวานได้ ควรทำเป็นประจำทุกวัน การฝึกไม่ควรกดข่ม ไม่บังคับ ปล่อยตัวตามสบายค่ะ ผู้เรียบเรียงเองก็นำเอาเทคนิคนี้มาทำเป็นประจำทุกวัน นอกจากจะทำให้สุขภาพดีขึ้นแล้ว จิตใจยังแจ่มใจ สมองปลอดโปร่งอย่างไม่น่าเชื่อด้วย อยากให้คุณผู้อ่านได้ลองนำไปทำบ้างนะคะ