หลักการใช้ยาอย่างพอเพียงในผู้สูงอายุ
ยิ่งอายุมากขึ้น โรคภัยก็เพิ่มมากขึ้น ระบบการทำงานของร่างกายก็เปลี่ยนแปลงไป ร่างกายเสื่อมลง ประสิทธิภาพก็เริ่มถดถอยลง ยาต่าง ๆ เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เพื่อประคองร่างกายและรักษาสภาพไว้ให้ดีที่สุด บางคนมีโรคเรื้อรังหลายโรค หาหลายหมอ กินหลายยา ในยาเหล่านี้แม้จะมีคุณอนันต์แต่ก็มีโทษมหันต์ได้ เมื่อกินหลายชนิดรวมกัน บางทีก็ยังทำให้เกิดโรคที่เรียกว่าโรคยาทำได้อีกด้วย การกินยาจึงจำเป็นต้องเลือกกินแต่พอเพียง โดยมีหลักการดังต่อไปนี้ค่ะ
1. กินยาให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น รวมไปถึงจำนวนชนิดของยาและระยะเวลาการใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรผู้สั่งจ่ายด้วยว่า ยาแต่ละชนิดมีข้อบ่งใช้อย่างไร แล้วควรใช้ยาได้นานขนาดไหน อีกทั้งยาบางชนิดนั้นถ้าไม่มีอาการก็ไม่ควรใช้ด้วยค่ะ
2. นำเอายาทั้งหมดที่ผู้ป่วยใช้อยู่ไปให้แพทย์ได้รับรู้ด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายยาซ้ำซ้อน ลดผลเสียของยาและยาตีกัน รวมไปถึงสมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อาจส่งผลต่อยาและความรุนแรงของโรคที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไปหาหมอหลาย ๆ คนจะมีโอกาสได้ยาซ้ำซ้อนจนเกินขนาดและเกิดอันตรายได้
3. การรับยาควรตรวจเช็คยาทุกครั้งทันที เช่น ชื่อผู้ป่วย ชนิดของยา วิธีใช้และข้อควระวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งยาใหม่ ๆ ที่ไม่เคยใช้มาก่อน
4. จัดเตรียมทานยาให้พร้อมและให้เป็นเวลาเช่น หักครึ่งเม็ดเอาไว้ หรือกดยาจากเม็ดฟอยด์เตรียมไว้ จัดยาใส่กล่องไว้ตามเวลาเป็นต้น เพื่อให้ผู้ป่วยได้ทานยาได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน ยาจะได้มีประสิทธิภาพในการรักษาที่ครบถ้วน
ในผู้สูงอายุนั้นการใช้ยาจะเป็นการเสี่ยงอันตรายมากกว่าผู้ป่วยในวัยอื่น ๆ จึงควรใช้ยาให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น และควรทำความเข้าใจถึงข้อบ่งใช้ของยา วิธีใช้ที่ถูกต้อง เตรียมความสะดวกต่อใช้กับ รวมไปถึงการให้กำลังใจกับผู้สูงอายุเพื่อการรักษาและคุณภาพชีวิตที่ดีเป็นสำคัญ อีกทั้งหากมีข้อสงสัยเรื่องยาหรืออาการป่วยควรรีบหาความกระจ่างด้วยการปรึกษาแพทย์ เภสัชกร หรือพยาบาลเพื่อทำความเข้าใจ การใช้ยาจะได้มีความปลอดภัยต่อสุขภาพไปตลอดค่ะ
Leave a Reply