อันตรายของมะเฟืองที่มีต่อผู้ป่วยโรคไต

อันตรายของมะเฟืองที่มีต่อผู้ป่วยโรคไต

การกินมะเฟืองมากเกินไป มีผลต่อร่างกายถึงขั้นทำให้ไตวายเฉียบพลันได้ ซึ่งนี่เป็นข้อมูลจาก รศ.นพ. ม.ล. ชาครีย์ กิติยากร ซึ่งเป็นอายุรแพทย์หน่วยโรคไต คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้กล่าวว่า ปัจจุบันนี้มีบทความที่เผยแพร่ผ่านเสื่อต่าง ๆ มากมาย ชักชวนให้มากินมะเฟืองสดกัน โดยระบุว่าช่วยรักษาโรคและลดน้ำตาลในเลือดได้ ทำให้มีผู้คนหลงเชื่อและซื้อมากินกันมากมาย บางคนกินมากจนเกิดผลเสียต่อร่างกาย และที่อันตรายกว่านั้นคือพบผู้ป่วยอยู่ในภาวะไตวายเฉียบพลันเป็นจำนวนมากหลังการกินมะเฟืองสด หรือนำมะเฟือง โดยผู้ป่วยจะมีอาการปัสสาวะออกน้อย บวมน้ำ ความดันสูง อ่อนเพลีย น้ำท่วมปอด บางรายอาจมีอาการสะดึก ต้องรักษาด้วยการฟอกเลือดล้างไต หากเป็นผู้ป่วยที่เดิมมีไตปกติอยู่แล้ว ไตจะสามารถกลับมาทำงานตามปกติได้ แต่อาจต้องใช้เวลา 3-4 อาทิตย์ แต่ถ้าเป็นผู้ป่วยที่มีโรคไตอยู่ก่อน การรักษาอาจทำให้การทำงานของไตดีขึ้นบ้าง แต่ไม่เท่าเดิม อาจต้องได้รับการฟอกไตตลอดไป

เพราะว่าในมะเฟืองนั้นมีสารออกซาเลตสูงมาก เมื่อถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายจะถูกขับออกทางไต ทำให้ไตวายเฉียบพลันได้ และเพราะออกซาเลตไปจับตัวกับแคลเซียมในร่างกายเกิดเป็นผลิตออกซาเลต เมื่อตกผลึกเป็นจำนวนมากในเนื้อไตก็จะทำให้เกิดการอุดตัน ไตสูญเสียการทำงานหรือไตวายได้ในที่สุด นอกจากนี้ยังทำให้พิษต่อระบบประสาท ทำให้สมองบวม ผู้ป่วยมีอาการคลื่นไส้ สะอึก อาเจียน แล้วตามด้วยภาวะซึมและชักได้ จนตอนนี้ก็มีรายงานพบผู้ป่วยเสียชีวิตจากการกินมะเฟืองไปแล้วด้วย

พิษจากการกินมะเฟืองนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง
– ความแข็งแรงของผู้ป่วย หากเป็นผู้ป่วยโรคไตอยู่แล้วอาจเกิดภาวะไตวายเฉียบพลันได้ แม้กินมะเฟืองไปเล็กน้อยก็ตาม
– มะฟืองเปรี้ยวมีโอกาสเกิดโรคมากกว่ามะเฟืองหวาน เพราะมีกรดออกซาลิคสูงมากกว่า การดื่มน้ำคั้นหรือทานสด ๆ ก็มีผลต่อร่างกายมากกวามะเฟืองแปรรูปด้วย
– หากผู้ป่วยดื่มน้ำมะเฟืองหลังจากทำงานหนัก ออกกำลังกาย หรือเสียเหงื่อมาก ยิ่งทำให้เกิดโรคได้มากขึ้น เพราะผลึกแคลเซียมออกซาเลตจะอิ่มตัวและตกผลึกในเนื้อไตได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

รวมไปถึงในปัจจุบันนี้ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ ที่ระบุถึงประโยชน์ของมะเฟือง ดังนั้นการกินควรกินอย่างระมัดระวัง อย่ากินมากเกินไปจนทำร้ายร่างกายตนเองเลยนะคะ ยิ่งโดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไตอยู่แล้วยิ่งควรหลีกเลี่ยงเลยค่ะ