ใบย่านาง.. พืชพื้นบ้านมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
ใบย่านาง เป็นทั้งอาหารและยามาแต่โบราณแล้วนะคะ บางท้องที่ก็เรียกว่า จ้อยนาง จอยนาง ผักจอยนางบ้าง ตามท้องถิ่น ใบย่านางนี้สามารถเก็บยอดอ่อนทานได้ตลอดปี ยิ่งในฤดูฝนแล้วแล้ว จะแตกยอดอ่อนเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว ยอดอ่อนนี้อร่อยมาก สามารถนำมากินแนมกับอาหารเผ็ดได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะนำเอาใบย่านางมาคั้นน้ำปรุงอาหาร ทำให้มีความข้นหนืดขึ้น ยกตัวอย่างอาหารที่ปรุงจากน้ำใบย่านางก็ได้แก่ แกงหน่อไม้ ซุปหน่อไม้ เป็นต้น ที่นำมาปรุงกับหน่อไม้ก็เพราะใบย่านางช่วยลดกรดยูริคในหน่อไม้ได้ จึงลดความขม แต่เพิ่มเบต้าแคโรทีนและคลอโรฟิลล์ให้กับอาหาร นอกจากหน่อไม้แล้วก็ยังนำน้ำใบย่านางไปปรุงกับแกงเห็ด แกงเปอะ แกงขี้เหล็ก แกงขนุน อีกด้วย ฯลฯ
ซึ่งสิ่งสำคัญสำหรับน้ำย่านางก็คือต้องทำให้สุกก่อนทาน สาเหตุที่ทำให้น้ำย่านางมีความข้นหนืดก็เป็นเพราะ มีน้ำตาลไซโลสเป็นส่วนประกอบสำคัญของน้ำตาลโพลีแซกคาไรด์จากใบย่านาง เมื่อคั้นน้ำออกมาแล้วนำไปอุ่นให้ร้อนจะได้สารเหนียวคล้ายไซแลนที่ได้จากสาหร่ายทะเล ซึ่งน้ำตาลโพลีแซกคาไรด์นี่แหล่ะคือสารเพิ่มความหนืดเหนียดให้กับอาหารที่ใช้น้ำคั้นใบย่านางไปต้ม
ในใบย่านางนั้น มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก ที่โดดเด่นมาก ๆ ก็ได้แก่ เส้นใยไฟเบอร์ในอาหาร แคลเซียม เหล็ก เบต้าแคโรทีน และวิตามินเอ รวมไปถึงยังเป็นสมุนไพรที่มีวิตามินซีสูงที่สุดในจำนวนผักพื้นบ้านทั้งหมดของภาคอีสานด้วย
นอกจากนี้แล้วยังมีการนำเอาน้ำย่านางคั้นบีบเย็นมาดื่มเพื่อรักษาโรคต่าง ๆ ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น การลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต ลดอาการตกเลือก รักษาโรคเกาต์ได้ ฯลฯ และอีกมากมาย นอกจากนี้ยังทำมาเป็นยาสระผม ช่วยให้ผมดกดำ นำมาผสมกับดินสองพองหรือปูนเคี้ยวหมาก ทาสิว ฝ้า ตุ่ม ผื่นคัน พอกฝีหนอง ได้อีกด้วย แม้จะไม่มีรายงานสนับสนุนจากต่างประเทศ แต่จากการศึกษาพิษวิทยาในประเทศไทยพบว่าสารสกัดจากใบย่านางไม่มีพิษต่อหนูทดลองในระยะสั้น การดื่มเครื่องดื่มน้ำย่านางไม่ผสมน้ำตาลจึงเป็นทางเลือกใหม่อีกทาง ที่ช่วยในการรักษาสุขภาพได้ด้วยสมุนไพรในประเทศไทยเรานี่เอง
Leave a Reply