ไม่ต้องตกใจ.. เลือดกำไหลหยุดได้ง่าย ๆ
ยิ่งในหน้าร้อนด้วยแล้ว ภาวะเลือดกำเดาไหลพบได้บ่อยยิ่งขึ้นและพบได้ทุกเพศทุกวัย ทั้งในเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่และวัยชรา มักทำให้ตนเองและคนรอบข้างตกใจได้ง่าย ๆ สาเหตุของเลือดกำเดาไหลอาจเกิดจากหลอดเลือดที่เลี้ยงเยื่อบุจมูก ซึ่งในเด็กอายุน้อยมากเกิดจากส่วนหน้าของจมูก ส่วนผู้สูงอายุมักเกิดจากส่วนหลังของจมูก แบ่งสาเหตุออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ได้แก่
1. มาจากบริเวณจมูก เช่น ได้รับการกระแทกซึ่งพบได้บ่อยมากที่สุด หรือเกิดจากการถูก แคะ, สั่งน้ำมูกแรง ๆ, ความกดดันอาการเปลี่ยนแรงอย่างกระทันหัน เช่น การขึ้นเครื่องบิน การอักเสบในจมูก เนื้องอกในจมูกบริเวณไซนัสและโพรงหลังจมูก รวมไปถึงการได้รับอุบัติเหตุบริเวณหัวและกระดูกใบหน้าด้วย ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีเลือดกำเดาไหลปริมาณมากและเป็นซ้ำ ๆ รวมไปถึงอาจเกิดจากการผิดรูปของผนังกั้นช่องจมูกและภาวะอากาศเย็น ความชื้นต่ำได้ด้วย เยื่อบุจมูกจึงแห้งมีเลือดไหลออกมาได้ง่าย
2. เกิดจากโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาวะเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, โรคไต ไตวายเรื้อรังทำให้เกร็ดเลือดทำงานผิดปกติ , ผู้ป่วยที่กินยาบางประเภท เช่น ยาสลายลิ่มเลือด แอสไพริน ซึ่งยาเหล่านี้จะทำให้เลือดไหลได้ง่ายกว่าปกติ รวมไปถึงผู้ป่วยด้วยโรคตับแข็งและโรคเลือดต่าง ๆ ที่มีภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติได้อีกด้วย
การบรรเทาอาการเลือดกำเดาไหลและการดูแล
– ให้ผู้เงยหน้าขึ้น บีบจมูกด้วยนิ้วชี้และนิ้วโป้งทั้งสองข้างให้แน่นประมาณ 5-10 นาทีจนกว่าเลือดจะหยุดไหล ระหว่างนี้ให้ผู้ป่วยนอนหายใจทางปากแทน
– นำน้ำแข็งประคบบริเวณหน้าผากหรือดั้งจมูก ประมาณ 10 นาที หากเลือดไม่หยุดไหนให้พาไปโรงพยาบาล
– ภายใน 1-2 วันห้ามกระทบกระเทือนจมูก รวมไปถึงการยกของหนัก เล่นกีฬาหนัก ๆ หรืออยู่กลางแดดร้อน ๆ เพราะอาจทำให้เลือดไหลได้อีก
– หลีกเลี่ยงการทานยาแก้ปวดพวกแอสไพริน หรือยาละลายลิ่มเลือด เพราะยาเหล่านี้อาจทำให้เลือดไหลง่ายกว่าปกติ
– ทานอาหารที่มีวิตามินเคสูง เพราะช่วยให้เลือดแข็งตัวได้ ไม่ว่าจะเป็นผักใบเขียวทุกชนิด แครอท ผักกาดขาว ตับ น้ำมันตับปลา ไข่ขาว เนยแข็ง รวมทั้งกินผักและไม้สดที่มีวิตามินซีจะช่วยให้เลือดแข็งตัวได้เร็วขึ้นด้วย
Leave a Reply