ดูแลร่างกายตนเองยามเมื่อเป็นหวัด

ดูแลร่างกายตนเองยามเมื่อเป็นหวัด

ในช่วงที่ฤดูหนาวหรือมีอากาศที่เย็นลงจะทำให้คนเป็นหวัดกันได้ง่าย เพราะการสูดอากาศเย็น ๆ ผ่านเข้าสู่บริเวณโพรงจมูกทำให้อุณหภูมิลดต่ำลง เส้นเลือดฝอยที่เยื่อบุเมือกหดตัว เซลล์ต้านทานโรคจึงทำงานได้ไม่เต็มที่ เชื้อโรคที่หายใจเข้าหรือมีอยู่แล้วจึงเพิ่มจำนวนและเกิดอาการอักเสบของเยื่อจมูกและลำคอขึ้น ซึ่งก็คือเป็นหวัดนั่นเอง

ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำมักจะเป็นกลุ่มที่เป็นหวัดได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เป็นโรคประจำตัวอยู่แล้ว เด็ก หรือผู้สูงอายุ สามารถหากจากหวัดชนิดหนึ่งแล้วไปติดหวัดอีกชนิดมาแทนก็ได้ บางคนก็เป็นกันปีละหลายครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก ๆ ที่อยู่เนอสเซอรี่หรือโรงเรียนอนุบาลและสถานเลี้ยงเด็ก เพราะติดต่อกันได้ง่าย อาการสำหรับผู้ที่เป็นหวัด จะไอ จาม มีน้ำมูลไหล เจ็บคอ มีเสมหะ ปวดหัว มีไข้ต่ำ ๆ อย่างมากจะเป็นอยู่ในระยะเวลาประมาณ 1-2 วันแล้วจะค่อย ๆ หายไปในหนึ่งอาทิตย์ โดยบางรายอาจมีน้ำมูกและไอต่อไปอีก 2-3 อาทิตย์ ผู้ที่ปล่อยให้ตัวเองเป็นหวัดนาน ๆ ลุกลามไปเป็นโรคอื่น รวมทั้งภูมิแพ้ได้ด้วย

วิธีการปฏิบัติตัวเมื่อเป็นหวัด
– อย่าสั่งน้ำมูกแรง ๆ เพราะจะทำให้โพรงจมูกมีแรงดันสูงขึ้น เชื้อโรคจะถูกดันเข้าไปสู่โพรงอากาศรอบจมูก หรือ ไซนัส เกิดการอักเสบลุกลามได้
– รักษาร่างกายตนเองให้อบอุ่นโดยเฉพาะบริเวณลำคอ
– ทานอาหารที่ย่อยง่าย แล้วพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ภูมิต้านทานแข็งแรงขึ้น
– การอมสมุนไพรและยาอมช่วยลดอาการระคายคอได้
– หากมีไข้ไม่ต้องกังวลเพราะเป็นกลไกตามธรรมชาติของร่างกายเพื่อฆ่าเชื้อดรค
– ควรทำให้ร่างกายเหงื่อออกเพื่อหยุดการติดเชื้อหวัดได้
– หากมีไข้สามารถทานยาลดไข้ตามขนาดที่ระบุได้
– จิบน้ำอุ่นบ่อย ๆ ลดอาการระคายคอและละลายเสมหะให้เหลวขับออกง่ายขึ้น และช่วยชำระล้างเชื้อโรคบริเวณลำคอได้ด้วย
– หากภายในสองสัปดาห์อาการไม่ดีขึ้น หรืออ่อนเพลียมากรวมทั้งหายใจลำบากควรรีบไปพบแพทย์

เชื้อหวัดนั้นสามารถติดต่อได้ตั้งแต่วันที่แสดงอาการจนถึงวันที่สุดท้ายที่เป็น มีชีวิตอยู่ได้หลายชั่วโมงในอากาศ หรือการปนเปื้อนตามมือ ลูกบิดประตู ราวบันได โทรศัพท์ ปุ่มกดลิฟท์ ฯลฯ ดังนั้นการป้องกันเชื้อหวัดก็คือ การหลีกเลี่ยงการไปอยู่ในที่แออัด เช่น โรงหนัง โรงพยาบาล รถเมล์ หรือที่ชุมชนอื่น ๆ ควรสวมหน้ากากอนามัยในช่วงที่มีหวัดแพร่ระบาดและล้างมือให้บ่อย ๆ ด้วยค่ะ