ครอบครัวอบอุ่น สังคมน่าอยู่ ด้วยการมีน้ำใจให้กัน
หากมนุษย์เราสามารถมีชีวิตอยู่คนเดียวได้จริง ๆ โลกนี้คงไม่ต้องสร้างมาให้เราเกิดมาในสังคมที่มีคนอื่นอยู่หรอก นั่นเพราะความจริงก็คือเราจำเป็นต้องใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น เกิดมาก็ต้องมีครอบครัวช่วยเหลือดูแลให้ข้าวให้น้ำ โตมาหน่อยก็ต้องเข้าโรงเรียนเรียนหนังสือให้ครูสอน เรียนจบออกมาก็ต้องเข้าไปทำงานร่วมกับผู้อื่น แล้วอย่างนี้เราจะเกิดมาคนเดียวได้อย่างไร ดังนั้นการมีชีวิตอยู่นั้นก็ควรต้องคิดถึงคนอื่น และให้ความช่วยเหลือบ้าง เมื่อผู้อื่นมีทุกข์เราก็ให้ความช่วยเหลือกัน เวลาที่เรามีทุกข์เราก็ต้องการความช่วยเหลือจากผู้อื่นด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเอื้อเฟื้อ ร่วมสุขร่วมทุกข์ รับฟังปัญหาซึ่งกันและกัน ช่วยกันแก้ไขปัญหา ให้กำลังใจกันและกัน คือสิ่งที่เราและทุกคนในสังคมต้องการมากที่สุดนั่นเอง
แม้ทุกคนจะพยายามแก้ไขปัญหาให้ตัวเอง จัดการกับความทุกข์ของตนเอง แต่บางครั้งปัญหาของเราก็อาจจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นบ้าง ดังนั้นในชุมชนหรือครอบครัวก็จำเป็นต้องให้ความเห็นใจและความช่วยเหลือกันและกัน ดังต่อไปนี้
1. ไถ่ถามและให้ความเอาใจใส่กับคนใกล้ชิดบ้าง เมื่อสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็น ใบหน้าที่อาจดูเศร้าหมอง หรือแม้แต่การไต่ถามสารทุกข์สุกดิบของครอบครัวหรือการทำงานว่าเป็นอย่างไร ฯลฯ
2. ช่วยหาต้นเหตุแหล่งปัญหา และทำให้ผู้ที่กำลังเผชิญทุกข์อยู่เข้าใจถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น
3. ช่วยกันคิดหาทางออกให้กับปัญหานั้น ๆ อาจช่วยกันหาหลาย ๆ ทาง ชั่งน้ำหนักของปัญหา และแก้ไขปัญหาตามลำดับความสำคัญ และความยากง่าย แล้วใครบ้างที่จะให้ความช่วยเหลือในแต่ละปัญหาได้บ้าง รวมไปถึงจะเตรียมตัวในการแก้ไขปัญหาและขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นได้อย่างไร ฯลฯ เหล่านี้เป็นการดูแลกัน แม้จะยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ แต่ก็ได้ช่วยให้ผู้ที่ประสบปัญหามีกำลังใจสู้ชีวิตได้มากขึ้นแล้ว
การให้ความช่วยเหลือนั้นแม้จะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาทั้งหมด แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย หรือแม้กระทั่งทำอะไรกับปัญหาไม่ได้เลย การคอยให้กำลังให้ คอยปลอบโยนให้ผู้ประสบปัญหายอมรับความจริงที่เกิดขึ้น จนกระทั่งเป็นผู้ที่สามารถยอมรับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตได้อย่างมีความสุข แต่หากผู้ประสบปัญหามีความเครียดและทุกข์ใจจนเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า ควรแนะนำให้ไปพบกับแพทย์หรือจิตแพทย์ช่วยแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือด้วยจะดียิ่งขึ้นค่ะ
Leave a Reply