การออกกำลังกายที่พอเหมาะ…สำหรับคนเป็นเบาหวาน

การออกกำลังกายที่พอเหมาะ…สำหรับคนเป็นเบาหวาน

การออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานเป็นเรื่องที่สำคัญในการควบคุมโรคด้วยเช่นกัน ทำให้ระดับของน้ำตาลในกระแสเลือดลดลง แต่จะลดมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ ระยะเวลาที่ออกกำลังกาย ความหนัก และระดับน้ำตาลก่อนการออกกำลังกาย รวมทั้งการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอด้วย ซึ่งการออกกำลังกายของผู้ป่วยเบาหวานทั้งสองชนิด นั้นมีวิธีการที่แตกต่างกัน เพราะเป็นผลมาจากการนำพลังงานไปใช้และเผาผลาญพลังงานที่แตกต่างกันนั่นเอง

การออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 หรือชนิดที่พึ่งอินซูลิน หากมีสุขภาพทั่วไปดีอยู่ ให้ออกกำลังกายวันละ 20 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง แต่ต้องควบคุมโรคและใช้ยาอินซูลินให้ดีก่อนออกกำลังกาย ผู้ป่วยควรสามารถวัดระดับน้ำตาลในเลือดของตนเองได้หากต้องการออกกำลังกายหนัก ๆ และเข้าใจการปรับเปลี่ยนการใช้หรืออินซูลินของตนเองด้วย ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ควรออกกำลังกายในช่วงเวลา บ่ายสามถึงห้าโมงเย็น หลังทานอาหารว่างแล้วประมาณครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง วันเว้นวัน และไม่ควรออกกำลังกายขณะที่อินซูลินออกฤทธิ์สูงสุด หากออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องแล้วแพทย์อาจแนะนำให้ลดการการใช้อินซูลินลง

ส่วนการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ชนิดที่ยังต้องพึ่งอินซูลิน ควรออกกำลังกายแบบเหนื่อยปานกลางอย่างต่อเนื่องประมาณครึ่งชั่วโมงต่อวัน เช่น การเดินเร็ว การว่ายน้ำ การเดินในน้ำ โยคะ รำมวยจีน หรือปั่นจักรยานอยู่กับที่ เพื่อให้ชีพจรเร็วขึ้น ควรอบอุ่นร่างกายก่อนเสมออย่างน้อย 5-10 นาที แล้วจึงค่อย ๆ เพิ่มการออกกำลังกายขึ้นแต่ไม่ควรหักโหมเกินไป เมื่อต้องการหยุดออกกำลังกายให้ค่อย ๆ ผ่อนลงเรื่อย ๆ เรียกว่าคูลดาวน์ ประมาณ 5-10 นาทีเช่นกัน หากออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเช่นนี้ได้ 4-6 เดือนขึ้นไป จะช่วยส่งผลดีต่อร่างกาย ลดความเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ด้วย

สำหรับผู้ป่วยทั้งสองประเภท หากมีระดับน้ำตาลอยู่ในเลือดระหว่าง 200-400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ควรออกกำลังกายภายในการดูแลของแพทย์ แต่หากมากกว่า 400 ขึ้นไปแล้วไม่ควรออกกำลังกายเพราะอาจเกิดอันตรายจากภาวะเลือดเป็นกรดได้ สำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมโรคดีแล้วไม่ควรออกกำลังกายมากเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้ ไม่ควรออกกำลังกายที่มีท่ากระแทกเท้ามากเกินไป อาจทำให้เกิดเป็นแผ่นขึ้นได้ และหากมีอาการผิดปกติเช่น หิว เหงื่อออก แน่นหน้าอก หรือเหนื่อยมากกว่าปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ด่วนค่ะ