การแต่งงาน สามารถช่วยส่งเสริมสุขภาพ และความสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้ดีขึ้น
รายงานจากมหาวิทยาลัย Brigham Young ในสหรัฐ สรุปว่าความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพื่อนสนิท เพื่อนบ้าน เพื่อนที่ทำงานและสมาชิกในครอบครัว จะช่วยเพิ่มโอกาสของการมีอายุยืนยาวได้ถึง 50% โดยรายงานชิ้นนี้เปรียบเทียบผู้ที่ขาดความสัมพันธ์กับคนรอบข้างว่า มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นในระดับเดียวกับผู้ที่สูบบุหรี่วันละ 15 มวน หรือผู้ที่เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง
รายงานอีกชิ้นหนึ่งของมหาวิทยาลัย Oxford ในอังกฤษระบุว่า การที่ผู้ชายได้พบเจอเพื่อนฝูงเป็นประจำสม่ำเสมอจะทำให้มีร่างกายแข็งแรงขึ้น โดยรายงานชิ้นนี้เจาะจงด้วยว่าการพบปะในหมู่เพื่อนฝูงผู้ชายอย่างมีนัยสำคัญ คือมีการพบปะอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้งและต้องมีเพื่อนร่วมกลุ่มอย่างน้อย 4 คนขึ้นไป จะช่วยให้ร่างกายของคุณผู้ชายแข็งแรงขึ้นได้
รายงานจากสถาบันโรคมะเร็ง Dana-Farber ค้นพบว่าคนที่แต่งงานแล้ว มีโอกาสรอดชีวิตจากโรคมะเร็งมากกว่าคนโสดหรือคนที่หย่าร้าง โดยได้เก็บข้อมูลจากผู้ป่วยโรคมะเร็ง 700,000 คน พบว่าคนที่แต่งงานแล้วมีโอกาสตรวจพบมะเร็งได้เร็วกว่าคนโสด ทำให้สามารถรักษาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ จึงมีโอกาสรอดชีวิตมากกว่า เคล็ดลับเรื่องนี้คือคู่สามีภรรยานั้นมักจะกระตุ้นกันและกันให้ไปตรวจร่างกายเป็นประจำมากกว่าคนที่ยังไม่มีคู่
นอกจากนี้รายงานร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัย Rice กับมหาวิทยาลัยรัฐ Pennsylvania ชี้ว่า คนที่หย่าร้างมีโอกาสที่จะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่ป้องกันได้มากกว่าคนที่แต่งงานอยู่ถึง 2 เท่า เช่นเหตุไฟไหม้ การถูกสารพิษ หรือการสูดดมควันพิษภายในบ้าน รายงานชิ้นนี้สรุปว่าคู่สามีภรรยามักจะคอยตักเตือนและระวังภัยให้กันและกัน รวมถึงเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ
รายงานจากมหาวิทยาลัย Michigan ระบุว่าคูสมรสที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงมีโอกาสสูงที่ชีวิตสมรสจะแข็งแรงตามไปด้วย แต่ประโยชน์ด้านสุขภาพที่ว่านี้อาจไม่รวมถึงคู่สมรสหรือคู่รักเพศเดียวกัน
สุดท้ายเป็นรายงานด้านลบต่อการใช้ชีวิตคู่ โดยงานวิจัยของ Lafayette College ระบุว่าคู่รักที่แต่งงานแล้วมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเป็นโรคอ้วน ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
Leave a Reply