แพทย์ติง ดื่มนมมากเกิน อาจย่อยสลายมวลกระดูกได้
การดื่มนมนั้นจำเป็นต้องดื่มแต่พอดีเพื่อให้ร่างกายได้รับแคลเซียมแต่พอที่ร่างกายที่ต้องการ เพราะแคลเซียมที่อยู่ในนมนั้นมาพร้อมกับฟอสฟอรัส ซึ่งมีคุณสมบัติในการย่อยสลายมวลกระดูกได้ จึงทำให้เกิดภาวะโรคกระดูกพรุน ทำให้กระดูกหักและเปราะได้ง่าย
ซึ่งโรคกระดูกพรุนนี้ มักคุกคามผู้สูงวัยอย่างเงียบ ๆ แต่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นในผู้สูงวัยชาวไทย อีกทั้งการรับรู้ข่าวสารที่ไม่สมบูรณ์มากพอ ทั้งนี้การดื่มนมนั้นสามารถป้องกันภาวะกระดูกพรุนได้ แคลเซียมในนั้นนั้นมีคุณสมบัติในการยับยั้งการผุกร่อนของกระดูก และการสลายตัวของมวลกระดูก แต่ต้องดื่มในปริมาณที่เหมาะสม โดยแคลเซียมที่ควรได้รับมาจากนมน้ำไม่ควรเกิน 500 ซีซีต่อวัน จะทำให้ได้รับแคลเซียมประมาณ 500 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ในน้ำนมนั้นจะประกอบไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัสในอัตรา 3 ต่อ 2 ส่วน หากเราดื่มนมมากกว่าครึ่งลิตรต่อวัน ก็อาจทำให้ร่างกายได้รับฟอสฟอรัสมากเกินความต้องการของร่างกาย ซึ่งจะไปกระตุ้นการทำงานของต่อมพาราไทรอยด์ให้หลั่งฮอร์โมนออกมาจนสลายกระดูกจนเป็นเหตุให้กระดูกพรุน กระดูกเปราะ เพราะเนื้อหรือมวลกระดูกบางลงนั่นเอง
ในแต่ละช่วงอายุนั้นร่างกายมีความต้องการแคลเซียมที่แตกต่างกันไป
– วัยเด็ก ควรได้รับแคลเซียม 600 มิลลิกรัมต่อวัน
– วัยรุ่น ควรได้รับแคลเซียม 1,000-1,500 มิลลิกรัมต่อวัน
– ผู้ใหญ่ ควรได้รับแคลเซียม 800-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
– หญิงตั้งครรภ์ ควรได้รับแคลเซียม 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน
– ผู้สูงอายุหรือวัยทอง ควรได้รับแคลเซียม 1,500-2,000 มิลลิกรัมต่อวัน
แต่ร่างกายของคนเราสามารถรับแคลเซียมจากนมได้เพียง 500 มิลลิกรัมต่อวัน แคลเซียมที่ขาดไปนั้นจึงควรทดแทนด้วยอาหารอื่น ๆ ที่มีแคลเซียมสูง ไม่ว่าจะเป็น ปลาเล็กปลาน้อย กุ้งแห้ง กะปิ ปลาป่น ฯลฯ หมั่นออกกำลังกายกลางแจ้งให้โดนแดดอ่อน ๆ เพื่อให้ได้รับวิตามินดีจากแสงแดดที่จะสังเคราะห์กลายเป็นแคลเซียมได้, และใช้การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มมวลกระดูก รวมทั้งงดเว้นคาเฟอีนและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย จึงจะทำให้ร่างกายได้รับแคลเซียมได้อย่างเต็มพิกัด
สำหรับผู้ที่ไม่สามารถดื่มนมได้ ก็ควรหาแคลเซียมในรูปแบบอื่น ๆ มาทานแทน หากเป็นแคลเซียมเม็ดให้เคี้ยวให้ละเอียดก่อนการกลืน เพื่อให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารดูดซึมแคลเซียมได้มากที่สุดนั่นเองค่ะ
Leave a Reply