5 อาหารบำรุงสายตาชัดแจ๋ว
ตอนนี้ในท้องตลาดมีน้ำสกัดจากผลเบอร์รี่ที่มีสรรพคุณในการบำรุงสายตาออกมาจำหน่ายกันอยู่แล้ว แต่เราไม่จำเป็นต้องหาซื้อน้ำสกัดดังกล่าวมาทานก็ได้ หากรู้จักเลือกอาหารสดที่สามารถหาได้ง่าย ๆ มารับประทานแทน อร่อย อิ่ม ประหยัดและยังได้คุณค่าบำรุงสายตาเหมือนกันอีกด้วย แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับส่วนประกอบของดวงตาของเราเสียก่อน
1. ส่วนของเยื่อบุดวงตา เป็นส่วนอกสุดที่หุ้มดวงตาเอาไว้ ที่เห็นได้มากที่สุดก็คือส่วนที่หุ้มตาขาว ดังนั้นเวลาตาแดงก็จะดูแดงก่ำขึ้นมาเลย ซึ่งสิ่งที่ระคายเคืองเยื่อบุดวงตาได้มากที่สุดก็คือ แดด ลม และฝุ่น ที่อาจทำให้เกิดต้อขึ้นได้
2. กระจกตา เป็นส่วนด้านหน้าที่โค้งสวยเหมือนกระจก มีความบอบบางและไม่มีเลือดมาหล่อเลี้ยง ดังนั้นผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์จึงจำเป็นต้องระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับกระจกตาได้
3. เลนส์ตา อยู่ถัดเข้าไป มีลักษณะเป็นเลนส์นูน มีความหยุ่นและใสพอประมาณ ประกอบด้วยเส้นใยคอลลาเจนที่เรียงกันเป็นแนวสวย และต้องระวังโรคต้อกระจกด้วยที่จะทำให้เลนส์ตาขุ่นได้
4. วุ้นในตา มีลักษณะเป็นน้ำวุ้นเหลวใส ที่ช่วยหักเหแสงให้เรามองเห็นภาพได้ วุ้นนี้นั้นเมื่ออายุมากขึ้นจะเกิดอาการเสื่อมได้ โดยอาการเสื่อมก็คือ เห็นภาพมีฝุ่นผงเห็นจุด ๆ ลอยไปลอยมา
5. จอตา หมายถึงขยุ้มกระจุกเส้นเลือดและเส้นประสาทที่เป็นร่างแฟอยู่ที่จอตา คอยช่วยในการรับภาพเหมือนกับจอหนังที่เราดูนั่นเอง
ส่วนประกอบทั้ง 5 นี้คือสิ่งที่ประกอบกันขึ้นเป็นอวัยวะที่ทำให้เรามองเห็นได้ ซึ่งหากไม่บำรุงรักษาให้ดีแล้วก็อาจเสื่อมหรือสูญเสียไปได้ก่อนวัย ซึ่งวิธีการดูแลดวงตาให้มีสุขภาพดีแบบง่าย ๆ นั้นก็เริ่มต้นได้ด้วยการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตาได้แก่
1. โกจิเบอรี่ หรือชื่อภาษาจีนว่า เก๋ากี้ เป็นลูกเบอรี่ที่มีสารบำรุงดวงตาอยู่มาก อีกทั้งยังมีวิตามินที่ช่วยเป็นเกราะป้องกันจอตาจากรังสียูวี และมีวิตามินซีมากอีกด้วย การเลือกมาทานให้เลือกชนิดสีเข้ม ๆ ยิ่งเข้มมากก็ยิ่งดี สามารถซื้อหามาทานได้ง่าย อาจจะเป็นการใส่ลงไปในน้ำซุป หรือตุ๋นกับเนื้อสัตว์หรือผักอื่น ๆ หรือจะนำมาชงดื่มเป็นชาเก๋ากี้ก็ยังได้อีกด้วย
2. ผักปวยเล้ง มีแร่ธาตุที่สำคัญต่อดวงตาก็คือลูทีน ซึ่งได้รับการยืนยันจากการผลการวิจัยของจักษุแพทย์แล้วว่า การทานผักชนิดนี้จะช่วยบำรุงสุขภาพของจอตาได้อย่างแท้จริง ยิ่งโดยเฉพาะการทางปวยเล้งพร้อมกับไข่ด้วย
3. ผักคะน้า หาทานได้ง่ายมากในประเทศไทย ยิ่งมีสีเขียวมากเท่าไรก็ยิ่งมีแร่ธาตุที่ดีต่อดวงตามากเท่านั้น แร่ธาตุดังกล่าวก็คือ ลูทีนและซีซานทีน ช่วยบำรุงสุขภาพของนัยน์ตา หากช่วงไหนคะน้าแพงสามารถเปลี่ยนมาทานผักตำลึง หรือบร๊อกโคลีแทนบ้างก็ยังได้ เพราะเป็นผักที่มีสีเขียวเข้มเช่นเดียวกับคะน้า ดังนั้นจึงมีลูทีนและซีซานทีนมากเกินกันไปด้วย ยิ่งหากได้ทานแบบดิบไม่ผ่านความร้อน ดวงตาของคุณก็จะยิ่งได้รับสารอาหารที่เต็มเปี่ยมเลยทีเดียว
4. ลูกหม่อนและลูกหว้า และผลไม้ที่มีสีม่วงจัด ๆ ทั้งหลาย เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินเป็นจำนวนมากที่มีประโยชน์ต่อการบำรุงดวงตา โดยเฉพาะสารกลุ่ม OPCs ทั้งหลาย ซึ่งเป็นสารความเสื่อมของร่างกายได้ดีกว่าวิตามินอีถึงร้อยเท่าตัว
5. น้ำมันปลาและสาหร่ายชนิดต่าง ๆ ให้น้ำมันมันดี ๆ กับดวงตาเพื่อป้องกันอาการตาอักเสบ, ตาแห้ง ยิ่งโดยเฉพาะในกลุ่มของผู้ที่ใช้ดวงกับคอมพิวเตอร์ค่อนข้างมาก
หากคุณผู้อ่านทานอาหารเหล่านี้สลับสับเปลี่ยนชนิดไปเรื่อย ๆ อยู่บ่อย ๆ ก็จะเท่ากับเป็นการดูแลดวงตาของคุณให้มีสุขภาพแข็งแรง และอยู่กับเราไปได้นาน ๆ โดยไม่เสื่อมสภาพไปเสียก่อน
Leave a Reply