ประสบการณ์ตกบันไดข้อเท้าแพลง และความสำคัญของการปฐมพยาบาล

ประสบการณ์ตกบันไดข้อเท้าแพลง และความสำคัญของการปฐมพยาบาล

วันนี้ขอนำประสบการณ์ของผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุระหว่างการท่องเที่ยวต่างประเทศ ของคุณผู้หญิงท่านหนัง ที่ได้เกิดเหตุตกบันไดลงมาจนข้อเท้าแพลง และการปฐมพยาบาลเพื่อดูแลตัวเองในขั้นต้นที่ถูกต้องมาฝากกันค่ะ เริ่มอ่านกันเลย…

ตอนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น ตกบันไดลงมาก็ไม่ได้สูงมากแค่ 3-4 ขั้นเอง ไม่ได้ไถลลื่น แต่เป็นการกลิ้งตก ตกลงมาหน้าแข้งก็ถลอกหมดทั้งที่ใส่กางเกงยีนส์อยู่ ส่วนข้อเท้าขวาแพลง เจ็บมาก ๆ และบวมประมาณมะนาวลูกเล็ก สามีก็รีบวิ่งไปหาน้ำแข็งมาประคบเย็นก่อนในช่วง 48 ชั่วโมง ซึ่งความรู้นี้ได้มาจากหนังสือวิ่ง ซึ่งความรู้ที่อ่านก็ได้มามีประโยชน์ที่นี่ ทั้งที่ตอนนั้นก็แค่อ่านเอาเป็นความรู้เท่านั้น

อาการของข้อเท้าด้านขวาตอนนั้นก็คือเจ็บมาก ต้องไปซื้อร่มมาไว้ใช้แทนเป็นไม้เท้า แต่ก็เดินไม่ได้เพราะปวดไปหมด ตอนแรกจะไปโรงพยาบาล แต่คิดว่าคงยุ่งยากมากแน่ เลยตัดสินใจไม่ไปเพราะไม่ได้ฉุกเฉิน เลยจะรอดูอาการก่อนอีกสักวัน ระหว่างนั้นก็เอาน้ำแข็งประคบข้อเท้าด้านขวาไว้ นอนก็ประคบไว้แต่ยกเท้าสูงขึ้น แล้วก็งดเว้นการเที่ยวไปเลยเพราะเดินไม่ได้ไหว จะหารถเข็นก็คงลำบาก

พอตื่นเช้ามาวันรุ่งขึ้น จากตอนแรกที่เจ็บแต่ข้อเท้าด้านขวาตรงเอ็นร้อยหวายก็เจ็บ ข้อพับด้านหน้าก็เจ็บทั้งที่ตอนแรกไม่มีอาการเลย เลยได้รู้ว่าจริง ๆ ควรแช่ทั้งเท้าไปเลยเย็น ๆ เพราะยังมีบางส่วนที่อาจไม่แสดงอาการ สำหรับจุดที่ประคบไว้เมื่อคืนยุบลงนิดหน่อย หน้าเท้าด้านขวาเป็นสีเขียวช้ำ เช้าวันนี้สามีไปซื้อเทปพันข้อเท้ามาทำการ Tapping ขาเพื่อไม่ให้มันขยับ ซึ่งก็หาซื้อตามร้านขายยา แล้วบนกล่องก็มีวิธีการ Tapping อย่างละเอียดด้วย พอพันเสร็จก็ประคบเย็นต่อ แล้วเราก็พักไป ให้สามีพาลูกไปเที่ยว เราก็นอนอยู่โรงแรมเพื่อพักขา

ช่วงบ่ายขาเริ่มดูดีขึ้นแต่ก็ยังเจ็บอยู่ แต่เราก็ซ่าส์น่ะแหล่ะ เจ็บแต่อยากขยับ แม้จะโดนยึดด้วย Tapping อยู่ แต่ค่อย ๆ เดินไปไหน ๆ ก็คงพอได้ ใช้ร่มเป็นไม้เท้าเขยกขึ้นรถไฟไปชมสวน ก็พอเดินไปเป็นกิโลอยู่เพราะมีลูกช่วยประคอง พอตอนเย็นก็กลับมาประคบเย็นต่อ

เช้าวันที่สองรอยช้ำเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีม่วงแล้ว แต่ก็ยัง Tapping mกเช้า วันนี้เดินได้ไกลเป็นกิโล เริ่มเดินตั้งแต่สาย ๆ จรค่ำ เท้าเริ่มยุบ แต่ยังเจ็บอยู่ถ้าขยับ วันนี้จึงเริ่มอาบน้ำอุ่น หลัง 48 ชั่วโมงไปแล้วเท้าเริ่มเป็นสีม่วง ยังใช้ร่มต่างไม้เท้าอยู่ แต่ไม่ค่อยดีเพราะลื่น

วันต่อมาต้องเดินทางไกล ข้อเท้ายุบเกือบหมดแล้วแต่กดยังเจ็บอยู่ ขยับพอได้นิดหน่อย สีม่วงเริ่มเข้มขึ้น ขาเริ่มแพ้ Tapping เลยหยุดพันแล้วใส่รองเท้าปกติ

สรุปทริปญี่ปุ่นหนนี้เดินได้เยอะ ได้ตลอดทริป แม้จะไม่อึด แต่ก็พอโอเค เพราะยังไงสุขภาพก็ต้องมาก่อน แล้วก็ไม่ต้องนอนปวดเท้าที่โรงแรม ไม่ต้องไปหาหมอด้วย จบทริปไป 14 วันก็เดินได้ทุกวัน หลังจากผ่านมาสองอาทิตย์นับจากวันที่ตกบันได้ แม้เท้ายังเจ็บ ๆ อยู่บ้าง แต่ก็ค่อย ๆ ดีขึ้น และคงจะหายสนิทในเร็ววัน ส่วนเท้าด้านซ้ายมีอาการเจ็บฝ่าเท้าด้วย ก็ใช้การประคบเย็นกับการยืดเส้นช่วยเอา

ดังนั้นจะขอสรุปการปฐมพยาบาลเท้าแพลง เผื่อคุณผู้อ่านจะเก็บไว้เป็นความรู้ไว้ช่วยเหลือตนเองและคนใกล้ชิดในเวลาฉุกเฉินนะคะ

1. หลังจากเกิดอุบัติเหตุ ให้ประคองขึ้นมานั่งหรือนอนให้เหมาะสมแล้วประคบเย็นให้เร็วที่สุด ประคบต่อเนื่องตลอดในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
2. การประคบเย็นให้ประคบให้ทั่วเท้าที่ไม่พลิก ไม่เฉพาะจุดที่เจ็บเท่านั้น เพราะบางจุดอาจจะยังไม่แสดงอาการออกมา ซึ่งอาจเกิดการอักเสบในภายหลังได้ ดังนั้นควรประคบให้ทั่วทั้งขาไว้ก่อน ยิ่งประคบเร็วก็จะลดการอักเสบได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น
3. อย่าใช้เท้า พักการเดิน การลงน้ำหนัก เพื่อมิให้บาดเจ็บมากยิ่งขึ้น
4. ทำการ Tapping เพื่อยึดข้อเท้าไม่ให้ขยับเขยื้อน ลดการบาดเจ็บและช่วยให้หายเร็วขึ้น
5. เมื่อผ่าน 48 ชั่วโมงแรกไปแล้ว และหายบวมให้ทำการประคบร้อน หรืออุ่นเท่าที่พอไหว (แต่นักกายภาพแนะนำว่าถ้ายังไม่ยุบให้ประคบเย็นต่อไปก่อน)
6. เท้าแพลงห้ามนวดเด็ดขาด จะทำให้ยิ่งอักเสบหนักขึ้น

หวังว่าเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันคุณผู้อ่านจะนำเอาความรู้จากประสบการณ์เหล่านี้ไปปฐมพยาบาลตัวเองในเบื้องต้นก่อน แล้วค่อยไปพบแพทย์นะคะ