อสุจิ.. คุณรู้จักดีแค่ไหน?
ไม่รู้จะโทษใครดี ที่ความรู้ที่เกี่ยวกับด้านเพศศึกษานั้น ในเมืองไทยมักจะรู้กันไม่จริงกันเสียเป็นส่วนมาก จึงทำให้มีข่าวลือแปลกพิศดารมากมายอยู่เนือง ๆ บางข่าวลือเกิดขึ้นมานานแล้วแต่ก็ยังไม่ถูกแก้ไขหรือยังคงเป็นข่าวลือที่เชื่อเป็นตุเป็นตะกันอยู่ หนึ่งในหัวข้อข่าวลือดังกล่าวก็คือเรื่องของ อสุจิ นั่นเอง
ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่า อสุจิ นั้นมีส่วนประกอบเป็นอะไรบ้าง
ในน้ำอสุจิที่ผู้ชายหลั่งออกมานั้นจะประกอบไปด้วยส่วนของตัวอสุจิ และส่วนที่เป็นน้ำที่มีส่วนประกอบเป็นโปรตีนนิดหน่อย น้ำตาลฟรุคโตสเล็กน้อย และมีแร่ธาตุสังกะสีอยู่พอประมาณ ส่วนตัวของอสุจินั้นจะถือกำเนิดขึ้นในลูกอัณฑะที่ภายในมีท่อเล็ก ๆ ขดงออยู่เหมือนสายพานของการผลิต ซึ่งมีความยาวประมาณสิบเซนติเมตร และใช้เวลาการผลิตอสุจิกว่าจะสมบูรณ์เพียงพอนั้นก็อยู่ในราว ๆ 72-74 วัน ซึ่งเมื่อสร้างตัวอสุจิสมบูรณ์แล้วก็จะเคลื่อนมาอยู่ที่ต่อมเก็บเชื้อที่ชื่อว่า Seminal Vesicle และในต่อมดังกล่าวนี้ก็จะผลิตน้ำอสุจิออกมาเป็นสารประกอบดังกล่าวนั่นเอง
มาทำความเข้าใจกับกรรมวิธีทางธรรมชาติในการกำจัดน้ำอสุจิอย่างฝันเปียกกัน
อสุจินั้นเมื่อถูกส่งลงมาเก็บไว้ในต่อม Seminal Vesical มากขึ้นไม่นานก็จะเต็มเหมือนแทงค์น้ำ ก็ย่อมจะล้นออกมาได้ ร่างกายก็จัดการให้ชายหนุ่มไม่ว่าจะอยู่ในวัยใดได้มีการหลั่งอสุจิออกมาจากร่างกายที่เรียกกันว่า ฝันเปียก เพราะจิตใจจะควบคุมให้ร่างกายที่มีน้ำอสุจิเต็มต่อมเก็บได้นอนหลับไปแล้วฝันถึงเรื่องราวที่แสนจะวาบหวาม และเมื่อถึงจุดสุดยอดในฝันก็จะหลั่งน้ำอสุจิส่วนเกินออกมา เพื่อให้เกิดที่ว่างสำหรับอสุจิล็อตใหม่ที่จะมาเก็บแทนที่
ยิ่งหากเป็นเด็กหนุ่มที่ยังแข็งแรงยังมีประสิทธิภาพในการผลิตอสุจิอยู่สูง หากไม่ได้มีการใช้เป็นประจำด้วยกิจกรรมทางเพศทางใดทางหนึ่ง ก็มักจะฝันเปียกอยู่บ่อย ๆ ซึ่งอันที่จริงจะลองพึ่งฝันเปียกดูบ้างก็ได้ เพราะจินตนาการในฝันเปียกนั้นมักบรรเจิดกว่าความเป็นจริงเสมอ ๆ ค่ะ
แล้วน้ำอสุจิมีประโยชน์จริงๆ หรือเปล่า?
ก็สารพัดข่าวลือต่าง ๆ ที่นำเอาน้ำอสุจิมาประโคมว่ามีประโยชน์ในแง่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสระผมด้วยแชมพูที่มีส่วนผสมของน้ำอสุจิจะช่วยให้ผมดกดำ การนำเอาน้ำอสุจิมาทาหน้าจะทำให้ผิวหน้าเต่งตึง อยู่อ่อนกว่าวัย การทานน้ำอสุจิเป็นประจำจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรง และประจำเดือนผู้หญิงจะไหลอย่างเป็นปกติแถมยังลดอาการปวดประจำเดือนได้อีกด้วย ฯลฯ
ซึ่งความจริงแล้ว จากการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ ขอยืนยันว่า น้ำอสุจิมีประโยชน์อยู่เพียงประการเดียวเท่านั้นก็คือทำให้ไข่ของฝ่ายหญิงเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นมาได้ ส่วนข่าวอื่น ๆ เป็นเรื่องที่ยังไม่มีการศึกษาความจริงแต่อย่างใด
การกินน้ำอสุจิจะบ้างเป็นครั้งคราวจะอันตรายหรือไม่?
ขอตอบแบบชัดเจนไปเลยว่า ไม่น่าจะมีอันตราย ถ้าน้ำอสุจินั้นไม่มีเชื้อโรคที่สามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ และในปากไม่มีแผลหรือไม่มีฟันผุ ก็ไม่มีทางที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายได้ เพราะเมื่อน้ำอสุจิไหลลงสู่กระเพาะอาหารก็จะถูกกรดในกระเพาะย่อยสลายไปหมดอยู่แล้ว
แล้วทำอย่างไรน้ำอสุจิของแต่ละคนจะมีรสชาติที่ดีขึ้น?
รสชาติและกลิ่นของน้ำอสุจินั้นจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ถูกเก็บเอาไว้ เพราะอย่างที่กล่าวไปแล้วคือมีโปรตีน น้ำตาลผสมอยู่ด้วย หากถูกกักเก็บไว้นาน ๆ ก็อาจมีกลิ่นที่บูดเสียขึ้นได้ แล้วก็ยังขึ้นอยู่กับอาหารที่เจ้าตัวทานเข้าไปด้วย ซึ่งหากชายท่านใดอยากให้น้ำอสุจิของตนเองมีรสชาติที่หวานหอมแล้ว ก็ควรงดเว้นอาหารหมักดอง ทุกชนิด ลดอาหารประเภทเนยนม หรือชีส และปลาร้าปลาหมักที่บูดง่าย แต่ให้หันมาดื่มน้ำให้มาก ทานผักผลไม้ เพื่อเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ รวมไปถึงทานอาหารจำพวกโปรตีนบ้าง และใช้งานเป็นระยะ ๆ เพื่อให้น้ำอสุจิสดใหม่อยู่เสมอ
แล้วถ้าไปทำหมัน จะทำให้มีน้ำอสุจิเหมือนเดิมไหม?
การทำหมันจะทำเพียงการผูกท่อการผลิตตัวอสุจิมิให้ลงมาในต่อมเก็บน้ำของน้ำอสุจิเท่านั้น แต่การผลิตน้ำอสุจิ ที่ไม่มีตัวอสุจิปนยังมีอยู่เหมือนเดิม สรุปว่ายังคงถึงจุดสุดยอดได้เหมือนเดิม แต่อาจมั่นใจกว่าเดิมเพราะไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น
สำหรับคำถามที่ว่า ถ้าตัวอสุจิไม่ได้ออกมาแล้วจะไปอยู่ที่ไหน คำตอบก็คือเมื่อร่างกายพบว่าตัวอสุจิไม่มีช่องทางออก ไม่นานก็จะหยุดการผลิตไปเอง และตัวอสุจิที่ได้รับการผลิตแต่ไม่ได้ส่งออกก็จะได้รับการดูดซับกลับไปเองตามธรรมชาติ ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เพียงแต่คุณต้องมั่นใจก่อนว่าจะไม่มีลูกอีกแล้วถึงไปทำหมัน ไม่เช่นนั้นเมื่อต่อท่อกลับมาแล้ว การผลิตอาจจะไม่เกิดขึ้นอีกก็ได้
Leave a Reply