หลังการรณรงค์ต่อต้านมาลาเรียอย่างเข้มข้น ยังมี ชาวแอฟริกา 184 ล้านคนที่เสี่ยงต่อโรคมาลาเรีย
การศึกษานี้เป็นภาพสะท้อนผลของการรณรงค์ต่อต้านมาลาเรียของโครงการ Roll Back Malaria Campaign และโครงการปรามปรามมาลาเรียอื่นๆ โครงการ Roll Back Malaria นี้เป็นการระดมความร่วมมือในหลายระดับจากองค์กรเอกชนและหน่วยงานพัฒนาเอกชนเพื่อมุ่งลดจำนวนคนเสียชีวิตจากมาลาเรียลงครึ่งหนึ่งให้ได้ภายในปีพุทธศักราช 2553 ที่ผ่านไปแล้ว โครงการดังกล่าวเริ่มต้นไม่ราบรื่นนักและถูกวิจารณ์ว่าไม่มีความคืบหน้าหลังจากการเริ่มต้นโครงการผ่านไปได้หลายปี
ในบรรดาชาติแอฟริกาที่มีอัตราการติดเชื้อมาลาเรียสูงอยู่หรือยังไม่เปลี่ยนแปลงเลย ได้แก่ คองโก ยูกันดา มาลาวี และเซ้าท์ซูดาน
แม้ว่ายังจะมีคนในแอฟริกาจำนวนมากที่ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อมาลาเรีย Dr. Noor เน้นว่าโครงการปราบปรามมาลาเรียมีความก้าวหน้าในการลดปัญหาสุขภาพนี้ลงในทวีปแอฟริกา ซึ่งช่วยลดจำนวนคนติดเชื้อมาลาเรียลงได้ถึง 34 ล้านคนจากปีพุทธศักราช 2543 ถึงปี 2553
นอกจากนี้ Dr. Noor ยังชี้ว่าความพร้อมของระบบสาธารณสุขในแต่ละประเทศมีส่วนในการลดการแพร่ระบาดของมาลาเรีย หากระบบสาธารณสุขไม่เข้มเเข็ง เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีคนติดเชื้อมาลาเรียกี่คนหรือเสียชีวิตจากการติดเชื้อมาลาเรียจำนวนเท่าไหร่
ทีมวิจัยชี้ว่าตลอดระยะเวลาสิบปีของโครงการ Roll Back Malaria ที่ทีมงานศึกษา พบว่ามีการเพิ่มงบประมาณสนับสนุนโครงการอย่างต่อเนื่องจาก 100 ล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อปีเป็นสองพันล้านดอลล่าร์ต่อปี
Dr. Noor หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่านี่ถือว่าเป็นการลงทุนที่สูงมาก แต่กลับยังไม่เพียงพอและเขาประมาณว่าโครงการต่อต้านมาลาเรียระดับโลกที่เสร็จสิ้นไปก่อนหน้าโครงการ Roll Back Malaria ประมาณว่าต้องใช้งบประมาณถึงห้าพันล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อปีในการปราบปรามมาลาเรียในทวีปแอฟริกา
ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังหดตัว งบประมาณสนับสนุนโครงการต่างๆลดลง Dr. Noor หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่าประชาคมโลกไม่ควรลดงบประมาณสนับสนุนโครงการปราบปรามมาลาเรียเพราะยังจำเป็นต้องลดการแพร่ระบาดเเละการเสียชีวิตจากมาลาเรียลงมาอีก
มาถึงขณะนี้ โครงการ Roll Back Malaria ประมาณว่าทุกนาที มีเด็กเสียชีวิตจากมาลาเรียหนึ่งคน
Leave a Reply