บริหารกล้ามเนื้อหลัง วันละ 150 วินาที คลายอาการปวด
ผู้เขียนบันทึกนี้มีโรคประจำตัวคือโรคปวดหลังจากหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาทมาย 20 ปี เคยผ่าตัดมาแล้วสองหน ส่วนครั้งที่สามที่โรงพยาบาลเลิดสินหมดไม่ผ่าให้เพราะไม่รุนแรงมากถึงขั้นดำรงชีวิตไม่ได้ ไปรับคำปรึกษาและหาหมอมาหลายท่านตลอดเวลาที่ปวด แม้จะเป็นหมอที่มือชื่อเสียงโด่งดังแต่ก็ไม่สามารถหยุดอาการปวดได้ วันนี้พอมีอาการดีขึ้นแล้วจึงมาเขียนเรื่องราวเล่าให้ผู้ที่เป็นโรคนี้เช่นได้อ่านบ้าง
ตอนแรกที่เป็นโรคนี้เกิดจากยกของไม่ถูกจึงเจ็บแปลบขึ้นที่กระดูกสันหลังบริเวณบั้นเอว แล้วก็ขยับขาสองข้างไม่ได้ พอคลายบ้างจึงเริ่มขับรถไปหาหมอ แต่ก็ต้องลากขาเบา ๆ หมอที่คลินิกบอกว่ากล้ามเนื้อักเสบจึงฉีดยาและจ่ายยาให้กลับบ้านแต่ก็ต้องหยุดงานไปสามวัน
หลังจากนั้นก็จะมีอาการแปลบ ๆ ปีละสองสามครั้งอยู่หลายปี ต้องหยุดงานครั้งละสามสี่วัน เมื่อไปพบหมอทางออร์โธปีดิคของจังหวะก็เริ่มรักษาตั้งแต่ ยากิน ยาฉีด และ Ctscan จนไปทำ MRI ที่ รพ.บำรุงราษฎร์ ก็พบว่าหมอนรองกระดูกมันปลิ้นออกมาและดันไขสันหลังและเส้นประสาทจนชาไปถึงหลังเท้า หมอจึงตัดสินใจผ่าตัดเพื่อขูดหมอนรองกระดูกที่แตกออก โดยเปิดแผลหนึ่งคืบที่หน้าท้อง แล้วตัดเอากระดูเชิงกรานมาแว่นหนึ่งเท่ากับหมอนรองกระดูที่ขูดออกไปแล้วอัดเข้าช่องว่างระหว่างข้อกระดูกสันหลังแทน เมื่อเวลาผ่านไปก็จะเชื่อมข้อต่อบนและล่างเข้าด้วยกัน การผ่าตัดนี้ต้องหยุดงานไปร่วมเดือน
หลังผ่าตัดก็ยังดูเหมือนไม่หายขาดแต่ก็ดีกว่าเก่ามาก หมอจึงขอแก้มือด้วยการผ่าตัดจากด้านหลัง เปิดแผลช่วยกระดูกสันหลังที่มีปัญหา แล้วยึดโยงข้อกระดูกสันหลังบนและล่างด้วยโลหะ เพื่อให้แข็งแรงไม่ให้เกิดเสียดสีหรือกดทับเส้นประสาทอีก หนนี้หยุดงานไปสามอาทิตย์ แต่ก็ยังคงชาหลังเท้าอยู่ดี เลยปลงละ เพราะนานปีจะเจ็บหนักสักหนหนึ่ง ก็เลยยอมรับเลยว่าร่างกายคงเป็นแบบนี้ไปอีกนาน
ช่วงปี 2544 เริ่มปวดหลังมากจนถี่ขึ้นจึงพบแพทย์ประจำโรงพยาบาลเลิดสิน ที่เชี่ยวชาญเรื่องกระดูกมา เอกซเรย์ก็แล้ว CTScan ก็แล้ว ก็ไม่ชัดก็ทำ MRI ก็เกิดภาพสะท้อนจากโลหะด้านใน คุณหมอจึงฉีดสีเข้าไขสันหลังจึงมองเห็นได้ชัดขึ้น ปรากฏว่ามีหมอนรองกระดูกดทับเส้นประสาทเพิ่มอีกสองจุด คือข้อบนและล่างของข้อที่เคยมีปัญหามาก่อน คุณหมอบอกว่าเกิดจากข้อที่เสียไปไม่ยืดหยุ่นจึงเพิ่มภาระให้กับข้อบนและข้อล่าง
สุดท้ายหมอนัดให้นอนรอที่เลิดสินเพื่อผ่าตัด แต่ก็ยกเลิกเพราะหมอบอกว่าไม่คุ้มที่จะเสี่ยงเพราะผ่าจุดเดิมซ้ำหลายครั้งแล้ว เลยจำใจอดทนกับความเจ็บปวดปีละหลายครั้ง จนปี 46 ต้องย้ายไปประจำที่จีน ดีที่ไม่เกิดอาการปวดรุนแรงบ่อยมากนั แต่ทุกครั้งที่กลับเมืองไทยก็ต้องตุนยาไว้เกือบหมื่นทุกหน และกินยากันไว้ก่อน ระหว่างที่กลับมาบ้านก็ได้รับคำแนะนำให้ไปหาหมอคนนั้นคนนี้ ก็ไปหมด จนสุดท้ายแล้วหมอจากโรงพยาบาลจุฬา สรุปให้ฟังว่าโรคนี้มันรักษาไม่หาย จะทุเลาได้ด้วยการบริหารกล้ามเนื้อหลังให้แข็งแรงเพื่อยึดโยงกระดูกสันหลังให้มั่นคง ซึ่งหมอก็สอนท่าการบริหารให้มาขี้เกียจทำเพราะใช้เวลาเป็นชั่วโมง
ต่อมากลับจากจีนก็ไปพบคุณหมอสมศักดิ์ที่ประจำอยู่ รพ.กรุงเทพ ก็บอกให้ทำกายภาพบำบัดหลังกายผ่าตัดเพื่อบริหารกล้ามเนื้อหลังจะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซากอีก และต้องบริหารทุกวัน จึงเริ่มทำมาได้สองสามเดือนแล้ว แผ่นหลังแข็งแรงขึ้น หน้าท้องเฟิร์มขึ้น มีอาการเจ็บแปล็บ ๆ แต่ไม่รุนแรง ซึ่งคุณหมอขู่ว่าถ้าบริหารแล้วไม่แข็งแรงขึ้นก็จะผ่า แต่ปรากฏว่าเกือบหายเหมือนปลิดทิ้งอย่างนี้ก็ต้องยกความดีกับท่าบริหารกล้ามเนื้อหลังนี่ล่ะเป็นพระเอกตัวจริง ซึ่งคุณผู้อ่านสามารถทำตามได้ดังต่อไปนี้
ตื่นเช้าทุกวันให้ทำดังนี้
1. นอนหงายยืดเท้าตรงหลังชิดกัน
2. ยกปลายเท้าลอยสูงขึ้น ประมาณหนึ่งฟุต (ไม่ควรยกให้สูงกว่านี้)
3. แล้วเกร็งค้างไว้นับ 1-10
4. ครบแล้วลดปลายเท้าวางลงพัก นับ 1-5 คือหนึ่งเซ็ท
5. ทำติดต่อกันรวมสิบเซ็ท นั่นหมายถึงใช้เวลาไปรวมร้อยห้าสิบวินาทีต่อวันเท่านั้น
Tips
1. แต่ละสัปดาห์ให้เพิ่ม น้ำหนักครึ่งกิโลกรัมถ่วงไว้ (อาจใช้ถุงทรายที่มีขายทั่วไป) น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจะ ค่อยๆสร้างความแข็งแกร่งให้กล้ามเนื้อหลังเพื่อแก้ปัญหาที่เหตุ
2. น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจะ สิ้นสุดที่เท่าใดเหรอครับ คุณหมอบอกว่าจนกว่ายกไม่ไหว…แต่
3. น้ำหนักขั้นต่ำที่แต่ ละคนต้องยกให้ได้มีวิธีคำนวณดังนี้ครับ
น้ำหนักขั้นต่ำที่ต้องยกได้ = น้ำหนักตัว – น้ำหนักท่อนขาสองข้าง / 10
ซึ่งปกติน้ำหนักของขาทั้งสองข้างเราจะมีน้ำหนักประมาณสิบกิโลกรัม จะอ้วนผอมกว่านี้ก็ปรับเพิ่มหรือลดเอาเอง ขอให้การบริหารหลังที่นำมาเสนอเป็นวิทยาทานวันนี้จะช่วยให้ผู้ที่กำลังเป็นโรคปวดหลังอยู่ได้คลายความปวดในเร็ววันและอย่าให้เจ็บให้ป่วยอีกเลยนะครับ
Leave a Reply