ตกขาว… อาการน่ากลุ้มใจของหญิงสาว แต่รักษาไม่ยาก
>> วันนี้มาไขข้อข้องใจของสาว ๆ หลายคนกันเกี่ยวกับอาการของตกขาวกันนะคะ <<
ตกขาวหรือระดูขาว นั้นเกิดจากการทำงานของฮอร์โมนเพศในเพศหญิง เป็นโรคที่ไม่รุนแรง แต่ก็อาจกลับเป็นรุนแรงได้ ดังนั้นสำหรับแพทย์ อาการตกขาวหรือระดูขาวจึงมีความสำคัญไม่แพ้โรคอื่น ๆ
ซึ่งลักษณะของตกขาวนั้น จะมีของเหลวไหลออกมาจากช่องคลอดเป็นเมือกใส สีขาวขุ่น ไม่ใช่ประจำเดือน และลักษณะของตกขาวจะขึ้นอยู่กับสภาวะโรค และสภาวะของแต่ละคนไป
สาเหตุของตกขาวเกิดได้จากสาเหตุดังนี้
1. เกิดจากการติดเชื้อ เชื้อแบคทีเรีย เชื้อราหรือพยาธิในช่องคลอดก็ได้ โดยตกขาวประเภทนี้จะมีลักษณะเด่นเฉพาะตัวซึ่งสามารถแยกแยะได้
2. เกิดจากเชื้อไวรัส มีที่มีการติดต่อกันผ่านการมีเพศสัมผัสกับผู้ที่มีเชื้ออยู่แล้ว มีอาการที่แตกต่างกันไปแล้วแต่โรค เช่น โรคเริม ก็มีลักษณะตุ่มใสๆ ขนาดเล็ก แต่ถ้าตุ่มแตกจะแสบ และตกขาวก็มีกลิ่นด้วย
3. เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ทำให้มีอาการคันในบางราว และมีกลิ่นคาวหลังจากมีเพศสัมพันธ์ มีสาเหตุมาจากโรคหนองในที่เกิดกับเพศชาย ทำให้คู่นอนมีอาการปัสสาวะแสบหรือคันได้ ฯลฯ
4. เกิดจากเชื้อรา เป็นเชื้อราจากการใช้ยาปฏิชีวนะ หรือผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ป่วยเป็นโรคเบาหวาน อาการของตกขาวนั้นจะมีสีเหลืองหรือสีขาว ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย มีก้อนเล็ก ๆ หรือมีกลิ่นคล้ายนมบูด เหม็นอับ ปัสสาวะแล้วเคืองหรือคันช่องคลอดถึงขาหนีบ ตกขาวแบบนี้จะไม่พบในการติดต่อทางเพศสัมพันธ์เท่าไร
5. เกิดจากพยาธิในช่องคลอด เป็นสาเหตุใหญ่เลยก็ว่าได้ มักเกิดกับผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้ว เพราะในวัยนี้ฮอร์โมนจะลดลงทำให้ผนังช่องคลอดบาง จึงติดเชื้อได้ง่าย สำหรับกรณีที่มีบาดแผลในช่องคลอดจากการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การใช้กระดาษชำระที่หยาบหรือแข็งเกินไป ก็อาจบาดช่องคลอดให้เป็นแผลได้ และหากเกิดการติดเชื้อก็อาจทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูกได้ด้วย
ซึ่งวิธีการดูแลรักษาอาการตกขาวหรือระดูขาวด้วยตนเองนั้น ก็ให้เลือกทานอาหารที่มีจุลินทรีย์สูงเข้าไปในร่างกาย หรือดื่ม “ยาคูลท์” เข้าไปเพื่อทำลายเชื้อแบคทีเรียต้นเหตุของอาการตกขาว อีกทั้งยังช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ของจุดซ่อนเร้นได้ด้วย อีกทั้งยังควรสวมกางเกงในที่มีเนื้อผ้านุ่ม ไม่คับแน่นหรืออับร้อนมากเกินไป เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ เพราะการใส่เป็นเวลานานอาจทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้ และควรรักษาความสะอาดด้วยการใช้สบู่หรือครีมอาบน้ำ ตลอดจนน้ำยาทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่มีความอ่อนโยน หากใช้ชนิดที่มีความรุนแรงอาจแพ้สารเคมีจนทำให้ช่องคลอดติดเชื้อเป็นแผลได้ และทำให้อยู่ในสภาวะที่เสี่ยงต่อการเป็นตกขาวที่รุนแรง อีกทั้งหลังการมีเพศสัมพันธ์ควรทำความสะอาดทุกครั้ง เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์และดื่มน้ำมาก ๆ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง รวมทั้งดูแลบริเวณจุดซ่อนเร้นให้แห้งสะอาดอยู่เสมอ
ตกขาวที่มีอันตรายคือตกขาวในปริมาณมาก และมีกลิ่นเหม็น มีสีอื่น ๆ ปะปนเช่น สีเขียว น้ำตาล เหลือง ขาว และเป็นฟอง และมีอาการปัสสาวะแสบคัน บางรายมีอาการลุกลามถึงขาหนีบ หากมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
ซึ่งการรักษาด้วยการใช้ยานั้นจะมีอยู่ 2 ประเภทคือ
1. การใช้ยาเหน็บช่องคลอด ร่วมกับยาทาภายนอก จะทำให้หายเร็วกว่าการกินยาเพียงอย่างเดียว ระหว่างนี้ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์เพราะอาจทำให้ติดเชื้อได้อีก
2. รับประทานยาปฏิชีวนะ สำหรับรักษาอาการตกขาว หรือเรียกง่าย ๆ ว่ายาฆ่าเชื้อ มีจำหน่ายตามร้านขายยาท่วไป แต่ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ก่อนดีกว่า อาการจะได้ไม่รุนแรงไปกว่าเดิม
สำหรับคุณสาว ๆ อาการตกขาวหรือระดูขาวไม่ควรเป็นเรื่องน่าอาย เพราะหากไม่ยอมไปพบแพทย์อาจลุกลามถึงขั้นเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ ดังนั้นหากมีอาการแล้วควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อดูแลตัวคุณเองและชีวิตสมรสของคุณนะคะ
Leave a Reply