ประจำเดือนไม่มา สาเหตุ วิธีแก้ ทำไงดี
“ประจำเดือน“ หรือ “รอบเดือน” ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่อยู่กับสาวๆในทุกๆเดือน ในทุกๆหนึ่งเดือน ผู้หญิงก็จะต้องมีประจำเดือน ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่..ว่าถ้าไม่มาภายในหนึ่งเดือนนี่สิ ถือว่าผิดปกติหรือเปล่า?
การที่ประจำเดือนไม่มา มาช้า หรือมาผิดปกตินั้น มีสาเหตุและปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความเครียด เครียดจากเรื่องเรียน เครียดจากการทำงาน หรือ การทำงานหนัก ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกดึก นอนน้อย หรือ อาจจะเกิดขึ้นได้ในผู้หญิงที่ลดน้ำหนัก ทำให้ขาดสารอาหาร และบางทีก็เกิดขึ้นกับ ผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์ หรือผู้หญิงที่มีอายุมาก รังไข่ก็จะทำงานไม่ปกติ ไม่มีการตกไข่ ก็จะทำให้ประจำเดือนน้อยลง และมาน้อยจนกระทั่งหมดไป
แม้ว่าการที่ประจำเดือนจะมาช้า มาผิดปกติ จะไม่เป็นอันตราย แต่หากประจำเดือนขาดหายไปนาน และตรวจดูแล้วว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์ ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
ส่วนมาก ผู้หญิงที่ประจำเดือนมาช้า มาไม่ปกติ เกินหนึ่งเดือน ที่ต้องเข้าพบแพทย์นั้น มักจะมีสาเหตุจะอยู่ 2 ประเภท คือ
1.เกิดขึ้นจาก ความผิดปกของฮอร์โมนของรังไข่ และเยื่อบุโพรงมดลูก หรืออาจจะเป็นโรคบางอย่างที่เกี่ยวกับทางสมอง ที่มีหน้าที่ควบคุมรังไข่
2. เกิดขึ้นได้จากการที่เป็นโรคเลือดบางชนิด จะมีอาการเลือดแข็งตัวช้า หยุดไหลได้ยาก หรืออาจจะเกิดจากการติดเชื้อบางอย่างในโพรงมดลูก
วิธีสังเกตประจำเดือนผิดปกติแบบง่ายๆ
ขั้นแรกให้ลองเปรียบเทียบกับประจำเดือนปกติ ซึ่งมีลักษณะดังนี้
1. ระยะเวลาเลือดประจำเดือนออกจะอยู่ในราว 4 – 6 วัน หากนานกว่า 7 วันถือว่าผิดปกติแล้ว
2. ปริมาณเลือดประจำเดือนในแต่ละเดือนประมาณ 30 มล.ขึ้นไป แต่ถ้ามากกว่า 80 มล. ถือว่าผิดปกติ
3. ระยะห่างระหว่างประจำเดือนจะมีเวลาประมาณ 24 – 35 วัน
หากมีลักษณะของประจำเดือนผิดไปจากที่กล่าวมาข้างต้น เช่น มีปริมาณมากกว่าปกติ, รอบของประจำเดือนมีระยะเร็วกว่า 24 วัน หรือช้ากว่า 35 วัน, มีประจำเดือนมากและนาน หรือมีไม่เสมอต้นเสมอปลาย ก็ให้ถือว่าเข้าข่ายประจำเดือนมาไม่ปกติแล้ว
วิธีที่ช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ
– ดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
– รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
– ทำอารมณ์ให้ปกติ ไม่เครียดและคิดมากจนเกินไป เพราะความเครียดเป็นสาเหตุของการผิดปกติของฮอร์โมน
– ประจำเดือนสม่ำเสมอทุกเดือน แต่ ปริมาณของประจำเดือนน้อยมาก
ก็ไม่ได้หมายความว่าร่างกายผิดปกติ หรือมีปัญหาอะไร สาเหตุอาจเกิดจากร่างกายมีการตกไข่ในปริมาณที่น้อย แต่ตกไข่ปกติ มักเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่ใช้ยาคุมกำเนิด หรือ ในผู้หญิงที่มีอายุมาก แต่สำหรับคนที่มีประจำเดือนน้อยมาก ทั้งๆที่อายุยังน้อย และยังไม่ได้มีการใช้ยาคุมกำเนิด ก็มีความเป็นไปได้ว่า จะเกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมน
– ประจำเดือนมามากกว่าเดือนละหนึ่งครั้ง
สำหรับผู้หญิงที่มีประจำเดือนมามากกว่าเดือนละหนึ่งครั้ง สาเหตุอาจเกิดจากความเครียด และทำให้ฮอร์โมนเกิดการแปรปวน ทำให้มีเลือดออกในช่วงกลางเดือน หรือช่วงตกไข่ แต่หากมีอาการปวดบริเวณเชิงกรานหลังร่วมเพศด้วย ให้รีบไปพบแพทย์ เพราะอาจจะเกิดปัญหาเยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ผิดที่
– ประจำเดือนมาหลายวัน เกินกว่าปกติที่เคยเป็น
ปกติแล้ว ผู้หญิงส่วนมากจะมีประจำเดือนโดยประมาณ 5-7 วัน โดยในวัน-สองวันแรกนั้น จะมีปริมาณประจำเดือนออกมาเป็นจำนวนมาก แต่หากมีประจำเดือนเกินกว่า 8 วัน และยังมีปริมาณที่มากอยู่ ให้รีบไปพบแพทย์ เพราะอาจจะเป็นไปได้ว่า เกิดจากการที่มีเนื้องอกอยู่ในมดลูก
สำหรับการมีเพศสัมพันธ์ ในช่วงเวลาที่มีประจำเดือนนั้น ในความเป็นจริงก็ไม่ได้มีข้อห้ามแต่อย่างใด แต่ก็ไม่สมควรมี เนื่องจากช่วงที่มีประจำเดือนนั้น จะเป็นช่วงที่ปากมดลูกเปิด เพื่อให้ประจำเดือนไหลออกมา และในประจำเดือนในก็มีเชื้อแบคทีเรียเป็นจำนวนมาก
การที่มีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลานี้ จึงจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย แต่หากว่ามีอารมณ์รักกันในช่วงนี้ ก็ขอแนะขำให้ใส่ถุงยางอนามัย เพื่อความปลอดภัย และสามารถป้องกันเชื้อแบคทีเรียได้ด้วย สำหรับคนที่เข้าใจว่า การที่มีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีประจำเดือนนั้น ปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์นั้น ไม่ได้เป็นจริงอย่างนั้นเสมอไป หากคนนั้นมีประจำเดือนๆละ 2 ครั้ง ซึ่งจะมีเลือดออกในช่วงไข่ตก หรือในช่วงกลางรอบเดือน และส่วนมากจะเข้าใจผิดว่านั่นคือประจำเดือนที่เกิดจากการลอกตัวของเยื่อบุโพรงมดลูก แล้วเมื่อมีเพศสัมพันธ์กันในวันนั้น ก็จึงมีโอกาสท้องได้มากทีเดียว เพราะเป็นระยะที่มีการตกไข่ ดังนั้นเพื่อความมั่นใจและปลอดภัยควรใช้ถุงยางอนามัยจะดีกว่านะค๊ะ ^__^
Leave a Reply