Tag: WHO

  • องค์การอนามัยโลกชี้ มนุษย์มีเซ็กซ์วันละ 100 ล้านครั้ง!!

    องค์การอนามัยโลกชี้ มนุษย์มีเซ็กซ์วันละ 100 ล้านครั้ง!!

    องค์การอนามัยโลกชี้ มนุษย์มีเซ็กซ์วันละ 100 ล้านครั้ง!! เป็นความจริงค่ะ! ที่ล่าสุดมีผลการศึกษาจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO มาแล้วว่าในหนึ่งวันนั้น มนุษย์ทั่วทั้งโลกมีเซ็กซ์กันถึงวันละ 100 ร้อยล้างครั้ง!  ซึ่งจากสถิตินี้ทำให้ทั่วโลกมีการตั้งครรภ์ขึ้นวันละกว่า หนึ่งล้านคน  ทำให้ในอนาคตอาจเกิดวิกฤตการณ์มนุษย์ล้านโลก ทรัพยากรไม่พอเลี้ยงหรือดูแลคนทั้งโลกได้  ซึ่งนั่นก็ทำให้ WHO คิดค้นพัฒนาวิธีการคุมกำเนิดให้ดีขึ้น  มิแช่นนั้นแล้วในอนาคตอาจเกิดการขาดแคลนทรัพยากรมนุษย์อย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีสถิติของประเทศที่มีเซ็กซ์มากที่สุดในโลก  ซึ่งวัดจากยอดขายถุงยางอนามัยดูเร็กซ์  พบว่าโดยเฉลี่ยแล้วคนทั่วโลกมีเซ็กซ์กันประมาณ 112 ครั้งต่อปี  ประเทศที่ครองแชมป์มีเซ็กซ์มากที่สุดในโลกคือประเทศฝรั่งเศสคือประมาณ 151 ครั้งต่อปี  ส่วนคนอเมริกันมีเซ็กซ์เฉลี่ย 148 ครั้งต่อปี  ในขณะที่คนไทยมีเพศสัมพันธ์เพียง 69 ครั้งต่อปี หรือประมาณ 1.3 ครั้งต่อสัปดาห์นั่นเอง

  • อาหารเพื่อสุขภาพ หรือ Healthy Food หมายถึงอะไร

    อาหารเพื่อสุขภาพ หรือ Healthy Food หมายถึงอะไร

    อาหารเพื่อสุขภาพ หรือ Healthy Food หมายถึงอะไร ปัจจุบันนี้ที่การดำเนินชีวิตของผู้คนมีความเร่งรีบมากขึ้น ไม่ค่อยมีใครมาทำอาหารทานกันเองสักเท่าไรแล้ว อีกทั้งกระแสอาหารเพื่อสุขภาพมาแรงมากขึ้น อาหารที่จำหน่ายในทั่วโลกและประเทศไทยตอนนี้จึงเน้นอาหารเพื่อสุขภาพ หรือ Healthy Food กันมากขึ้นนั่นเอง แล้วอาหารเพื่อสุขภาพ.. นี่มีความหมายว่าอะไรบ้าง คำ ๆ นี้มีการให้ความหมายไว้อย่างกว้าง ๆ หลายแหล่ง แต่รวม ๆ แล้วก็คล้าย ๆ กันว่า อาหารเพื่อสุขภาพ ก็คือ อาหารที่ดีและมีคุณค่าต่อร่างกาย ไม่มีการปนเปื้อนจากสารเคมี หรือสารที่ไม่ได้มาจากธรรมชาติ รวมไปถึงอาหารที่ปราศจากน้ำตาลหรือปราศจากไขมัน (หรือมีแต่น้อยได้ด้วย) ในด้านขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ระบุไว้ว่า การทานอาหารที่ไม่มีคุณภาพ รวมไปถึงการไม่ออกกำลังกายล้วนเป็นบ่อเกิดของโรคได้ทั้งสิ้น หรืออาจกล่าวได้ว่าสุขภาพที่ดีก็คือการทานอาหารให้ครบห้าดังปิรามิดอาหารนั่นเอง สรุปได้ว่า อาหารเพื่อสุขภาพก็คือ อาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มีคุณค่าทางโภชนาการ บริโภคแล้วสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ อีกทั้งยังต้อง สะอาด ปลอดสารปนเปื้อน รวมไปถึง มีปริมาณน้ำตาล ไขมัน และโซเดียวแต่น้อย แต่อาหารเพื่อสุขภาพจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคลด้วย อาทิเช่น…

  • ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลา พุ่งเป็น 86 รายแล้ว

    ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลา พุ่งเป็น 86 รายแล้ว

    ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลา พุ่งเป็น 86 รายแล้ว ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลา ในประเทศชายฝั่งทวีปแอฟริกาตะวันตกยังพุ่งไม่หยุด เพิ่มเป็น 86 รายแล้ว องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสไข้เลือดออกอีโบลา ในทวีปแอฟริกาทางตะวันตกเมื่อ 5 เม.ย.ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 86 รายแล้ว จากจำนวนผู้ป่วยที่ต้องสงสัยติดเชื้ออีโบลาทั้งหมด 137 ราย ที่น่าวิตกคือ การระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาดำเนินไปอย่างรวดเร็วมาก นับตั้งแต่พบการระบาดในภูมิภาคนี้ครั้งแรกที่เมืองกูเกดัว ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศกินี ใกล้ชายแดนติดกับประเทศเซียร์รา ลีโอน และไลบีเรีย ตามรายงานของ WHO ระบุด้วยว่า มีผู้ป่วยติดเชื้ออีโบลา ในกรุงโกนากรี เมืองหลวงของสาธารณรัฐกินี เสียชีวิตเพิ่มอีก 5 ราย ด้วยเหตุนี้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ทางการกินีต้องรีบแจ้งเตือนประชาชนในเมืองหลวงและเมืองต่างๆ ถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสอีโบลาในเวลานี้ ทั้งนี้ ที่ประเทศไลบีเรีย มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสอีโบลา ซึ่งจัดเป็นหน่ึ่งในไวรัสที่อันตรายที่สุดในยุคนี้แล้ว 7 ราย จากจำนวนผู้ป่วยที่ต้องสงสัยติดเชื้อ 14 ราย ขณะที่ประเทศเซียร์รา ลีโอน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย

  • จีน จับตาดูการระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ H7N9 อย่างใกล้ชิด

    จีน จับตาดูการระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ H7N9 อย่างใกล้ชิด

    จีน จับตาดูการระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ H7N9 อย่างใกล้ชิด นับตั้งแต่ไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ แพร่ระบาดในนครเซี่ยงไฮ้ตอนต้นเดือนมีนาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 คน จากจำนวนผู้ล้มป่วยที่มีรายงาน 24 คน ทางการจีนได้จับตาดูการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้อย่างใกล้ชิด ในขณะที่นักวิจัยกำลังทำงานเพื่อระบุชี้ให้ได้ว่าเชื้อไวรัสที่ว่านี้แพร่ออกไปได้อย่างไร องค์การอนามัยโลก หรือ WHO กล่าวยืนยันในที่ประชุมแถลงข่าวร่วมกับประธานคณะกรรมการอนามัยแห่งชาติและการวางแผนครอบครัวของจีนที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันจันทร์ว่า เท่าที่ปรากฎ ผู้ป่วยเป็นไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 ค่อนข้างกระจัดกระจาย และอาจคงสภาพเช่นนั้นอยู่ต่อไป เพราะฉะนั้นจึงยังไม่ควรตื่นตระหนกกัน  อย่างไรก็ตาม ทางการจีนกำลังจับตาดูโรคนี้อย่างใกล้ชิดหลังจากที่ให้ปิดตลาดสัตว์ปีกที่เซี่ยงไฮ้ในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งกำจัดสัตว์ปีกในสต๊อคหลังจากพบเชื้อไวรัสดังกล่าวในนกพิราบที่นั่น และแม้เจ้าหน้าที่ของ WHO จะบอกว่า ไม่ควรตื่นตกใจ Laurie Garrett นักวิจัยอาวุโสทางด้านสาธารณสุขโลกของ Council on Foreign Relations กล่าวเตือนว่า ถ้ายังมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสเชื้อพันธุ์ใหม่นี้เพิ่มขึ้นต่อไปอีก ก็อาจจะต้องเริ่มเตรียมตัวจัดการกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นมา โดยยกตัวอย่างไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในปีค.ศ. 2009 ซึ่งทำให้แต่ละประเทศหาทางป้องกันตนเองด้วยการปิดท่าอากาศยาน กักกันตัวคนเดินทาง และกว้านเก็บยาและวัคซีนอย่างไรก็ตาม นักวิจัยของมหาวิทยาลัย Hong Kong พยายามปลอบขวัญกำลังใจของผู้คน ด้วยการประกาศว่าจะกลับไปศึกษาการแพร่ระบาดของปีค.ศ. 2009  เพื่อยืนยันว่า…

  • องค์กรอนามัยโลก เผยการศึกษาเรื่อง ไวรัส H7N9 ในจีน ว่ายังระบุที่มาไม่ได้

    องค์กรอนามัยโลก เผยการศึกษาเรื่อง ไวรัส H7N9 ในจีน ว่ายังระบุที่มาไม่ได้

    องค์กรอนามัยโลก เผยการศึกษาเรื่อง ไวรัส H7N9 ในจีน ว่ายังระบุที่มาไม่ได้ องค์กรอนามัยโลกชี้ว่า ไวรัสไข้หวัดนก  H7N9 ที่พบในประเทศจีน เป็นไวรัสที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์มาก แต่ยังบอกไม่ได้อย่างแน่นอนว่าแหล่งที่มาของเชื้อไวรัสนี้คืออะไร ไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่นี้ แพร่ระบาดไปถึง 7 จังหวัดในประเทศจีน และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 22 คนจากจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 100 คน องค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) กล่าวว่า ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่แสดงให้เห็นว่า เชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่จากมนุษย์สู่มนุษย์ได้ แต่เตือนว่าเชื้อไวรัสนี้เป็นอันตรายอย่างมากต่อมนุษย์ และจากหลักฐานที่ได้เห็น เชื้อไวรัส H7N9 แพร่จากสัตว์ปีกสู่มนุษย์ได้ง่ายกว่าเชื้อไวรัส H5N1 เชื้อไวรัส H5N1 เป็นเชื้อไข้หวัดนกที่ปรากฎขึ้นในปีค.ศ. 2003 และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ได้แพร่ระบาดออกไปถึงสามทวีป และมีผู้เสียชีวิตเพราะไวรัสนี้มากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อ 622 คน มีปัจจัยหลายอย่างที่ยังระบุไม่ได้ รวมทั้งแหล่งที่มาของเชื้อไวรัส การกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ตัวที่ทำให้เกิดโรค พิษ การเคลื่อนย้ายที่ อาการของโรค และสถานภาพของการระบาดของโรค ซึ่งหมายความว่า จะต้องศึกษาหาความรู้กันอีกมาก นักวิทยาศาสตร์ของ WHO และของทางการจีนมีความเห็นร่วมกันว่า…

  • WHO จับตาดูผู้ป่วยและเสียชีวิตด้วย Coronavirus สายพันธุ์ใหม่ ที่เชื่อกันว่าเกี่ยวกับโรค SARS

    WHO จับตาดูผู้ป่วยและเสียชีวิตด้วย Coronavirus สายพันธุ์ใหม่ ที่เชื่อกันว่าเกี่ยวกับโรค SARS

    WHO จับตาดูผู้ป่วยและเสียชีวิตด้วย Coronavirus สายพันธุ์ใหม่ ที่เชื่อกันว่าเกี่ยวกับโรค SARS องค์การอนามัยโลก เฝ้าจับตามองไวรัส  Coronavirus สายพันธุ์ใหม่ในตะวันออกกลาง ที่ได้คร่าผู้คนไปทั่วโลกเมื่อปี 2003 ไป 800 คน ซึ่งแพทย์และนักวิจัยค้นพบว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้คือชนิดที่คล้ายกับไข้หวัด SARS แพทย์กล่าวว่า ตอนนี้กำลังจับตามองในเรื่องของการแพร่เชื้อไวรัสนี้อยู่ แต่ก็ยังไม่พบว่าเชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่สู่คนได้อย่างไร แต่ได้สมมุติฐานในเรื่องนี้ไว้ว่า ผู้ป่วยที่ติดเชื้อนั้น คงได้ไปสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อกันมา โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่เท่าที่รู้ก็คือ เชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่เข้าสู่คนได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และแม้จำนวนผู้ป่วยจะยังไม่มาก นายแพทย์ผู้นี้บอกว่าไม่ควรวางใจ และเปรียบเทียบให้ฟังว่า ไข้หวัดใหญ่โดยทั่วไป ซึ่งผู้คนนับล้านๆคนติดเชื้อนั้น อัตราการเสียชีวิตน้อยมาก ไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ Mers มีผู้เสียชีวิต 30 คนจากจำนวนผู้ป่วย 50 คน หรือราวๆ 60% ซึ่งนับว่าสูงมาก ดังนั้นองค์การอนามัยโลกจึงได้เฝ้าจับตามองในเรื่องนี้ เพื่อจะได้หาทางควบคุม และแนวทางป้องกัน ร่วมมือกับแพทย์ช่วยหาวิธีการรักษา และยาต้านไวรัส ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีใช้ในทางการรักษา แต่มั่นใจว่าในอนาคตจะสามารถค้นพบวิธีป้องกันและยารักษา ยาต้านไวรัสได้อย่างแน่นอน  

  • องค์การอนามัยโลก ชี้เรื่องสุขภาพของผู้หญิงในวัยต่างๆ

    องค์การอนามัยโลก ชี้เรื่องสุขภาพของผู้หญิงในวัยต่างๆ

    องค์การอนามัยโลก ชี้เรื่องสุขภาพของผู้หญิงในวัยต่างๆ รายงานขององค์การอนามัยโลกชี้ว่า สุขภาพของผู้หญิงทั่วโลกที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นโดยเฉลี่ยแล้ว ดีขึ้น แต่ช่องว่างของช่วงอายุระหว่างผู้หญิงในประเทศร่ำรวยกับประเทศยากจนกลับห่างมากขึ้น รายงานขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) ระบุว่า โรคร้ายที่ทำให้ผู้หญิงวัย 50 ปีขึ้นไปทั่วโลก เสียชีวิตมากกว่าโรคอื่นๆ คือ โรคหัวใจ โรคเส้นโลหิตอุดตัน หรือ Stroke และมะเร็ง และเป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้หญิงในประเทศกำลังพัฒนาเสียชีวิตเพราะโรคเหล่านี้ในขณะที่อายุน้อยกว่าผู้หญิงในประเทศร่ำรวย เจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลกผู้นี้ให้ความเห็นว่า บางทีประเทศที่เป็นผู้ให้เงินช่วยเหลือประเทศยากจน อาจเปลี่ยนเป้าหมายจากการลดอัตราการเสียชีวิตของมารดาในประเทศต่างๆในแอฟริกา มาเป็นการบำบัดรักษาโรคที่ไม่ติดต่อเหล่านี้บ้างก็ได้ ในเมื่ออัตราการเสียชีวิตของมารดาลดลง แต่อัตราการเสียชีวิตในกลุ่มผู้หญิงวัยสูงกว่า 50 ปี กำลังเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม รายงานการศึกษาวิจัยฉบับนี้ขององค์การอนามัยโลก พบว่า โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงวัย 50 ปีขึ้นไปมีช่วงอายุยาวขึ้น 3.5 ปี ในช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมา