Tag: DHA
-
ความจริงเกี่ยวกับ DHA และ ARA ในนมผสมของทารก
ความจริงเกี่ยวกับ DHA และ ARA ในนมผสมของทารก ปัจจุบันนี้มีนมผสมที่ใช้เลี้ยงทารกออกมาจำหน่ายกันหลายยี่ห้อมาก บางยี่ห้อก็อวดอ้างว่ามีส่วนผสมของ DHA และ ARA ที่ช่วยพัฒนาสมองของลูกน้อยได้ แล้วยังทำให้พ่อแม่เชื่อจนไปควานหาซื้อมาให้ลูกได้กินเสียด้วย แล้ว DHA และ ARA มันคืออะไรกันแน่ สารทั้งสองตัวนี้กรดไขมันอิ่มตัวโอเมก้า 3 และกรดไขมันโอเมก้า 6 นั่นเองค่ะ ช่วยพัฒนาทั้งสมองและสายตาของทารกได้ เพราะในสมองของเด็กนั้น ร้อยละ 60 จะเป็นไขมัน และร้อยละ 15-20 จะเป็นกรดไขมันสองชนิดนี้ DHA ยังกระจายอยู่ทั่วไปในเซลล์ประสาทสมองและจอตา ในขณะที่ ARA ยังกระจายอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอีกต่างหาก ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตได้ แต่ว่า.. เด็กทารกที่มีอายุ 4-6 เดือนนั้น ยังมีน้ำย่อยไม่พอเพียงในการสังเคราะห์กรดไขมันทั้งสองชนิด ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนสารตั้งต้นในนมผสมให้กลายเป็น DHA ได้อย่างเต็มที่ แต่ธรรมชาติก็จัดสรรไว้ให้แล้ว เพราะกรดไขมันทั้งสองชนิดนั้นทารกสามารถได้รับจากน้ำนมแม่ได้อย่างเต็มที่ ช่วยปรับสมดุลระบบภายในของทารกได้ ทำให้เซลล์ประสาทและระบบการทำงานทุกส่วนเกิดการพัฒนาไปอย่างสมบูรณ์เต็มที่ ในนมผสมที่โฆษณาว่าเติมสาร DHA และ ARA เข้าไปนั้น…
-
LabDoor วิจัยพบว่า น้ำมันปลา ในตลาดสหรัฐหลายยี่ห้อ มีระดับกรดไขมัน omega-3 ต่ำกว่าที่อ้างบนฉลาก
LabDoor วิจัยพบว่า น้ำมันปลา ในตลาดสหรัฐหลายยี่ห้อ มีระดับกรดไขมัน omega-3 ต่ำกว่าที่อ้างบนฉลาก การวิจัยชิ้นใหม่โดยบริษัท LabDoor วิเคราะห์น้ำมันปลาเสริมยี่ห้อดังในสหรัฐ 30 ยี่ห้อด้วยกันเพื่อวัดดูระดับกรดไขมัน omega-3 บริษัทวิจัยพบว่ามีน้ำมันปลาเสริมอย่างน้อย 6 ยี่ห้อที่มีปริมาณกรดไขมันชนิดนี้โดยเฉลี่ยต่ำกว่าระดับที่ระบุไว้บนฉลากถึง 30 สิบเปอร์เซ็นต์ การวิจัยนี้พบปัญหาเพิ่มขึ้นหลังจากแยกวัดระดับกรดไขมัน omega-3 สองชนิดเป็นการเฉพาะคือกรดไขมัน DHA กับกรดไขมัน EPA ผลการวิเคราะห์นี้พบว่าน้ำมันปลาเสริมมากกว่า 10 ยี่ห้อมีระดับกรดไขมัน DHA โดยเฉลี่ยต่ำกว่าปริมาณที่ระบุไวับนฉลากถึง 14 เปอร์เซ็นต์และบางยี่ห้อไม่ระบุปริมาณกรดไขมัน EPA ไว้บนฉลากเลย Dr. Joseph C. Maroon นักประสาทวิทยาที่ศูนย์การแพทย์แห่งมหาวิทยาลัย Pittsburgh กล่าวว่ากรดไขมัน omega-3 เสริมเป็นหนึ่งในบรรดาอาหารเสริมสำคัญชนิดหนึ่งที่คนทั่วไปควรรับประทานเพราะเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกายหลายส่วนรวมทั้งสุขภาพของสมองและระบบประสาทด้วย อย่างไรก็ตาม การวิจัยยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดถึงประโยชน์ของการรับประทานน้ำมันปลาเสริม มีการศึกษาบางชิ้นในสหรัฐที่ชี้ว่าการรับประทานน้ำมันปลาเสริมในปริมาณมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก ในขณะที่การศึกษาบางชิ้นชี้ว่ากรดไขมัน omega-3 ไม่มีประโยชน์แต่อย่างใดต่อผู้ป่วยที่มีประวัติว่าเป็นโรคหัวใจ ทางด้านหน่วยงานเอกชนไม่หวังผลกำไร Rock Health ชี้ว่าผลการวิเคราะห์ระดับสารโลหะหนักที่ปนเปื้อนในน้ำมันปลาเสริมหลายยี่ห้อพบว่าทุกยี่ห้อที่ศึกษามีระดับสารปรอทตั้งแต่ 1 – 6…