Tag: ไวรัสโรต้า
-
พึงระวังโรคไวรัสลงลำไส้ ในเด็กอายุ 1 ขวบ
พึงระวังโรคไวรัสลงลำไส้ ในเด็กอายุ 1 ขวบ อาการท้องเสียในเด็กวัย 2-3 เดือนแรกนั้นมักจะเกิดจากการปนเปื้อนของเชื้อโรค จากการดูแลขวดนมไม่สะอาดเพียงพอ เช่น ไม่ได้ต้มขวดนมหรือจุกนม แต่ในช่วง 4-6 เดือน มักจะเกิดจากการที่เด็กมักชอบหยิบของเข้าปาก หรือชอบดูดนิ้วมือ แต่ในเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไปนั้น อาการท้องเสียมักมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสที่เรียกกันว่า โรคไวรัสลงลำไส้ ซึ่งเกิดจากอาหารเป็นพิษ โดยมีต้นเหตุคือไวรัสโรต้า โดยเด็กจะมีอาการดังต่อไปนี้ – มีไข้ตัวร้อนสูงมาก – คลื่นไส้อาเจียน – ถ่ายเป็นน้ำ ร่างกายขาดน้ำ – ผิวหนังบริเวณก้นอักเสบ เนื่องเด็กไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลกโทสได้ เชื้อไวรัสโรต้านี้เป็นสาเหตุให้เด็กที่อายุน้อยกว่าห้าขวบเป็นโรคท้องเสีย สามารถพบได้บ่อยทั้งปี แต่จะพบได้ถี่ขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธุ์ ส่วนเชื้ออื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นอหิวาห์ บิด ไทรอยด์ ที่ทำให้ท้องเสียได้นั้น ในปัจจุบันพบได้น้อยลงแล้วเนื่องจากมีสุขอนามัยที่ดีขึ้น การดูแลรักษาอาการไวรัสลงลำไส้นี้ ควรดูแลในเรื่องของอาการขาดน้ำและรักษาตามอาการ ให้เด็กได้ทานอาหารอ่อน ๆ ดื่มนมและดื่มน้ำเกลือแร่เพื่อเติมน้ำคืนสู่ร่างกายของเด็ก หากอาการของเด็กไม่ดีขึ้นควรรีบพาไปพบพบแพทย์ก่อนที่เด็กจะเสียชีวิตเพราะการขาดน้ำได้
-
ป้องกันเด็ก ๆ จากไวรัสโรต้าในฤดูหนาว
ป้องกันเด็ก ๆ จากไวรัสโรต้าในฤดูหนาว โรคถ่ายอุจจาระร่วงแบบเฉียบพลัน นั้นสาเหตุสำคัญส่วนใหญ่เกิดจากไวรัสโรต้า พบมากในเด็กเล็กที่อายุน้อยกว่าห้าขวบ และยิ่งพบได้มากที่สุดในกลุ่มเด็กที่มีอายุ 6-12 เดือน เพราะเด็กวัยนี้ชอบหยิบสิ่งของเข้าปาก เชื้อไวรัสโรต้าจึงมักชอบแฝงตัวปนเปื้อนอยู่ตามสิ่งของเหล่านั้น โดยทั่วโลกนั้นมีเด็กที่อายุต่ำกว่าห้าขวบต้องเสียชีวิตด้วยเชื้อไวรัสชนิดนี้ถึงปีละกว่า 4-6 แสนคนต่อทั่วโลก เป็นปัญหาระดับโลกเลยทีเดียว เพราะการแพร่ระบาดไม่สามารถคาดเดาได้ และจัดการได้ยาก เพราะเชื้อจะเปลี่ยนแปลงไปตามเวลาและสถานที่ สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดี พบได้ทั้งปียิ่งโดยเฉพาะช่วงที่มีอากาศเย็นลงในช่วงเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ ทำให้เด็ก ๆ ป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงกันมากขึ้น ยิ่งโดยเฉพาะเด็กที่ยังไม่มีภูมิต้านทานต่อเชื้อมากเพียงพอ อาการจากไวรัสโรต้าได้แก่ – ถ่ายเป็นน้ำร่วมกับเป็นไข้และอาเจียน หลังจากได้รับเชื้อประมาณ 24-48 ชั่วโมง – อาการถ่ายเป็นน้ำจะหายได้เองภายใน 3-7 วัน ส่วนไข้และอาเจียนจะหายได้เองใน 2-3 วันแรก ซึ่งการดูแลควรรักษาตามอาการ และให้สารน้ำทดแทนอย่างเพียงพอ เพราะหากเด็กถ่ายและอาเจียนมากก็อาจทำให้เด็กมีภาวะขาดน้ำได้ผู้ปกครองจึงต้องดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งหากเด็กอาเจียนและถ่ายมากเกินไปจะทำให้เด็กมีภาวะที่สังเกตได้ง่ายคือ ริมฝีปากแห้ง กระหายน้ำ ฉี่น้อยลง ควรรีบพบแพทย์ก่อนที่จะช็อคและเสียชีวิตได้ การป้องกันเชื้อไวรัสโรต้าได้แก่ – กินนมแม่หรืออาหารตามวัยอย่างเหมาะสม – ล้างมือบ่อย ๆ ทั้งมือคุณแม่ที่ป้อนข้าวลูก และมือของเด็กที่หยิบจับสิ่งต่าง…
-
ดูแลเด็ก ๆ ให้ห่างไกลโรคหวัดลงกระเพาะ
ดูแลเด็ก ๆ ให้ห่างไกลโรคหวัดลงกระเพาะ โรคไวรัสโรต้า หรือโรคหวัดลงกระเพาะนั้น มักจะทำให้เด็กเล็ก ๆ ที่มีอายุน้อยกว่าห้าขวบ มีอาการไข้สูง ท้องเสีย ปวดท้อง ถ่ายเป็นน้ำ จนทำให้ร่างกายขาดน้ำและเสียชีวิตจากโรคนี้กันได้ปีหนึ่งเป็นแสนรายจากทั่วโลกเลยทีเดียว และในเมืองไทยก็มีเด็กที่เสียชีวิตจากเชื้อนี้เป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยมากเด็กมักจะติดโรคนี้ในช่วงที่มีอากาศเย็น โรคนี้มีชื่อเรียกกันว่า หวัดลงกระเพาะ หรือ ไวรัสลงลำไส้ เพราะว่าในผู้ป่วยบางรายนั้นจะมีแสดงอาการคล้ายไข้หวัดนำมาก่อนนั่นเอง โรคนี้นั้นพบได้มากที่สุดในเด็กทารกและเด็กเล็ก ๆ ที่อายุน้อยกว่าสองขวบ หากอายุมากกว่านี้ก็จะพบได้น้อยลง ส่วนในวัยผู้ใหญ่หรือเด็กโตแล้วนั้นมักจะมีภูมิคุ้มกันโรค เรียกได้ว่าเด็กเล็ก ๆ ที่เข้าโรงพยาบาลเพราะอาการท้องเสียนั้นเกือบครึ่งนั้นมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสโรต้า นี้ได้เลย และเรียกได้ว่าเด็กทารกแทบทุกคนนั้นเคยติดเชื้อนี้อย่างน้อยก็หนึ่งครั้งในชีวิต เชื้อนี้ติดต่อกันได้ง่ายมากเพราะแพร่กระจายได้จากน้ำมูก น้ำลาย ปัสสาวะ อุจจาระที่ปนเปื้อนอยู่กับ พื้นบ้าน ของใช้ สิ่งของ ของเล่นต่าง ๆ และเชื้อนี้ก็ยังแข็งแรงมากพอที่จะอยู่ได้เป็นวัน ๆ เมื่อเด็กได้รับเชื้อเข้าไปก็จะมีระยะเวลาฟักเชื้อที่ค่อนข้างน้อยคือเพียงแค่ 1-2 วันเท่านั้น แล้วจึงแสดงอาการปวดท้อง อาเจียน ไข้ขึ้นสูง จนเกิดอาการชัก ร่วมกันถ่ายเหลว เด็กบางคนได้รับเชื้อรุนแรงมาก อาจถ่ายได้ถึงวันละ 20 ครั้งเลยทีเดียว ในปัจจุบันนี้ยังไม่มียาใดที่รักษาเชื้อไวรัสโรต้านี้ได้ ดังนั้นหากเด็ก ๆ…