Tag: โลหิตจาง

  • ประโยชน์ของข้าวกล้องที่ดีกว่าข้าวขาว

    ประโยชน์ของข้าวกล้องที่ดีกว่าข้าวขาว

    ประโยชน์ของข้าวกล้องที่ดีกว่าข้าวขาว ตั้งแต่โบราณมาแล้วที่ปู่ย่าตายายเราทานแต่ข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือกัน จึงทำให้คนในสมัยก่อนแข็งแรง และไม่ค่อยเจ็บป่วยได้ง่าย แต่ในสมัยปัจจุบันกลับทานข้าวขาวที่มีคุณภาพด้อยกว่าทุกด้านกันวันละสามมื้อ เราจึงแข็งแรงสู้บรรพบุรุษเราไม่ได้ อีกทั้งการกินข้าวกล้องยังอิ่มอยู่ท้องได้นาน มีวิตามินและเกลือแร่มหาศาล ระบบการขับถ่ายก็ดี อีกทั้งเวลาเคี้ยวในปากยังหวานและกรุบกรอบนิด ๆ มากกว่าข้าวขาวอีกด้วยนะคะ ข้าวซ้อมมือหรือข้าวกล้องเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับคนทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือคนชรา เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่กำลังฟื้นฟูสภาพด้วย และเป็นอาหารที่ดีสำหรับผู้ที่ป่วยเรื้อรัง หากในครอบครัวใดมีคนป่วยลองนำสูตรครีมข้าวกล้องนี้ไปทำทานดู เพียงเลือกใช้ข้าวกล้องที่เม็ดสมบูรณ์ ล้างให้สะอาดแล้วใส่หม้อสเตนเลสเติมน้ำ 3-5 ส่วนแล้วปิดฝาตั้งไฟปานกลางจนข้าวเดือด 15 นาทีใส่เกลือทะเล 1 ก้อนเล็กแล้วหรี่ไฟอ่อนนาน 1 ชม. หลังจากนั้นนำมาครูดกับกระชอนก็จะได้ครีมข้าวกล้องที่อร่อยและมีประโยชน์มาก สามารถทานคู่กับซุปผักก็ได้ เป็นอาหารที่ทานง่ายสบายท้องมาก แล้วในข้าวกล้องมีประโยชน์อะไรบ้างล่ะ 1. ในข้าวกล้องมีโปรตีนมากว่าร้อยละ 20-30 แต่มีแป้งน้อยกว่าข้าวขาว จึงช่วยลดความอ้วนได้ดี และคนที่รูปร่างซูบผอมจะสมบูรณ์แข็งแรงขึ้นได้ด้วยสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ 2. ข้าวกล้องมีวิตามินบีมากกว่าในข้าวขาว ป้องกันโรคเหน็บชา มีวิตามินบีสองป้องกันโรคปากนกกระจอก และวิตามินบีรวมป้องกันและบรรเทาอาการอ่อนเพลีย ปวดขา ปวดน่อง ลิ้นแตก ปลายประสาทอักเสบและโรคทางระบบประสาท ช่วยบำรุงสมอง ทำให้ความจำดีและเจริญอาหารมากขึ้น 3. มีธาตุเหล็กมากว่าในข้าวขาวถึงสองเท่า จึงช่วยป้องกันโลหิตจางได้ 4. มีฟอสฟอรัสและแคลเซียมมากกว่า…

  • ดูแลตัวเอง…ไม่ให้หน้ามืดวิงเวียนบ่อย ๆ

    ดูแลตัวเอง…ไม่ให้หน้ามืดวิงเวียนบ่อย ๆ

    ดูแลตัวเอง…ไม่ให้หน้ามืดวิงเวียนบ่อย ๆ โดยทั่วไปแล้วความดันปกติของคนเราจะอยู่ที่ 90 – 130 (ตัวบน) / 60 – 90 (ตัวล่าง) มิลลิเมตรปรอท แต่ถ้ามีค่าความดันโลหิตต่ำกว่า 90 / 60 ก็ถือว่าเป็นผู้ที่มีอาการความดันโลหิตต่ำค่ะ ซึ่งเกิดจากจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ การขาดสารน้ำจากการเสียเหงื่อมาก ท้องเสีย เสียเลือด หรือความอ่อนแอจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ เลือดจาง ฯลฯ โดยบางรายอาจไม่จำเป็นต้องแสดงอาการออกมา แต่บางรายก็มักมีอาการอ่อนเพลียหน้ามืด มึนงง เวลาลุกนั่งหรือเวลายืน หรือเวลาเปลี่ยนท่าเร็ว พาลจะทำให้เป็นลมได้ หากมีอาการเรื้อรัง กับมีอาการดังต่อไปนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น เจ็บหน้าอกรุนแรง ท้องเสียหรือปวดท้องอย่างมาก อาเจียนมาก ถ่ายเป็นสีดำ ใจสั่น ชีพจรเต้นเร็ว เหงื่อแตก ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน แต่หากไม่ได้มีอาการดังกล่าวเป็นแต่เพียงอาการหน้ามืด วิงเวียนบ่อย ๆ เท่านั้นก็ควรดูแลตัวเองด้วยการปฏิบัติดังต่อไปนี้ค่ะ – เวลาเปลี่ยนท่าให้ค่อย ๆ ลุก เช่น หากตื่นนอนควรค่อย ๆ นั่งก่อนสักครู่แล้วจึงค่อยลุกขึ้นยืน…

  • ดับเบิ้ล “อาหาร” ชะลอความชรา

    ดับเบิ้ล “อาหาร” ชะลอความชรา

    ดับเบิ้ล “อาหาร” ชะลอความชรา เราจะเป็นในอย่างที่เรากิน หรือ You are what you eat เป็นประโยคที่ช่วยให้เราได้หยุดคิดก่อนที่จะหยิบอาหารชนิดใดเข้าปาก  ว่าอาหารชนิดนั้น ๆ จะให้ผลกับสุขภาพของเราอย่างไร  ดังนั้นการกินอาหารจึงไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ หรือสักแต่กินตามท้องหิวหรือตามปากอยาก  แต่ต้องมีเทคนิคการกินที่ดี  รายการอาหารที่จะนำมาเสนอในตอนนี้จะเป็นคู่อาหารที่เมื่อจับคู่กันทานแล้ว จะช่วยชะลอความชราได้อย่างไม่น่าเชื่อ  มาดูกันค่ะ คู่แรก  ทานเนื้อปลา คู่กับ บร็อกโคลี่  อาหารคู่นี้เมื่อกินด้วยกันจะช่วยยับยั้งการก่อตัวและแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้ เนื่องจากซีลีเนียมและซัลโฟ ราเฟนที่อยู่ในอาหารทั้งคู่  จึงช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งลงมากกว่าเลือกกินเดี่ยว ๆ ถึง 13 เท่าเลยทีเดียวค่ะ คู่ที่สอง ทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติ กับกล้วย  เมื่อทานคู่กันจะช่วยดูแลลำไส้ ด้วยพรีไบโอติก และโพรไบโอติก  เหมือนการช่วยกันผสานพลังในการดูแลระบบย่อยอาหารให้มีประสิทธิภาพ ทำงานได้อย่างเต็มที่ คู่ที่สาม  ทานถั่วฝักยาวคู่กับพริกหวานสีแดง  ช่วยป้องกันโรคทางเลือดและโลหิตจาง  เพราะถั่วฝักยาวเป็นอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง  และเมื่อทานคู่กับอาหารที่มีวิตามินซีสูง ๆ จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้อย่างเต็มที่  ซึ่งหากไม่ได้ทานร่วมกันแล้วอาจทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กจากผักได้ไม่ถึงร้อยละ 10 ในส่วนของถั่วฝักยาวนั้น สามารถเปลี่ยนเป็นผักคะน้าหรือบร็อกโคลี่ก็ได้ผลเช่นเดียวกันค่ะ คู่ที่สี่  ทานแอปเปิ้ลร่วมกับองุ่น   เป็นการผสานพลังกันระหว่างสารเควอซิตินในแอปเปิ้ล…

  • ปรับพฤติกรรมเปลี่ยนนิสัย ห่างไกลโรคกรดไหลย้อน!!!

    ปรับพฤติกรรมเปลี่ยนนิสัย ห่างไกลโรคกรดไหลย้อน!!!

    ปรับพฤติกรรมเปลี่ยนนิสัย ห่างไกลโรคกรดไหลย้อน!!! เดี๋ยวนี้การใช้ชีวิตในปัจจุบันต่างก็สร้างปัญหาความเครียดขึ้นได้ง่าย ๆ ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ กับร่างกายอย่างไม่อาจหาที่มาได้  และหนึ่งในโรคนั้นก็คือโรคกรดไหลย้อนด้วย  โดยโรคนี้นั้นคือภาวะที่เกิดน้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาในหลอดอาหาร  ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกรดจากในกระเพาะอาหาร  แต่มีบ้างอยู่เหมือนกันที่เป็นด่างจำลำไส้เล็ก  เมื่อกรดไหลย้อนขึ้นมาอาจทำให้เกิดอาการหลอดอาหารอักเสบหรือไม่ก็ได้  ซึ่งสาเหตุของโรคนี้มีได้หลายแบบ เช่น  หลอดอาหารเกิดการคลายโดยโดยไม่ยังไม่กลิน  หรือ ความดันจากหูรูดของหลอดอาหารส่วนปลายลดต่ำลงกว่าปกติ  หรือแม้กระทั่งเกิดการเลื่อนของกระเพาะอาหารเข้าในหลอดอาหารก็ได้  กรดจึงไหลย้อนจากกระเพาะอาหารมากขึ้น  ทำให้กระเพาะอาหารหรือหลอดอาหารบีบตัวผิดปกติ  แล้วยังอาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียบางชนิดและมีความสัมพันธ์กับพันธุกรรมด้วย โรคนี้พบได้ในทุกช่วงอายุ  โดยเฉพาะผู้ที่พฤติกรรม เช่น อ้วน ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ กำลังตั้งท้อง เป็นเบาหวาน  เป็นโรคผิวหนังแข็ง ฯลฯ  แล้วยังเกิดจากผู้ที่ใช้ยาลดความดันโลหิตหรือยาต้านโรคซึมเศร้าได้อีกด้วยเช่นกัน  สำหรับเด็กนั้นพบได้ทุกวัน  โดยจะสังเกตเห็นอาการได้คือ มักจะมีการอาเจียนหลังดูดนม โลหิตจาง น้ำหนักและการเจริญเติบโตไม่สมวัย  หอบหืด ไอเรื้อรัง ปอดอักเสบเรื้อรัง  และอาจมีอาการหยุดหายใจขณะหลับได้อีกด้วย อาการของโรคกรดไหลย้อนนี้ จะมีอาการแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ไล่ขึ้นมาถึงหน้าอก และถึงคอ  มักกำเริบขึ้นมาในช่วงหลังอาหารมื้อหนัก  การยกของหนัก การนอนหงาน การโน้มตัวไปข้างหน้า  รวมทั้งมีอการเรอเปรี้ยวด้วย  ซึ่งผู้ป่วยอาจมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือสองอย่างก็ได้  ซึ่งการรักษานั้นจะทำให้ผู้ป่วยดีขึ้นด้วยการรักษาแผลในหลอดอาหารและป้องกันผลแทรกซ้อน  ให้คำปรึกษาในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม  การให้ยา การส่องกล้อง การรักษาและผ่าตัด …