Tag: โรคหวัด
-
อยากหายหวัดเร็ว ๆ ทำยังไงดี?
อยากหายหวัดเร็ว ๆ ทำยังไงดี? แม้โรคหวัดจะไม่ได้เป็นโรคที่ร้ายแรงอะไร แต่ก็สร้างความน่ารำคาญได้ ไม่ว่าจะเป็น การไอบ่อย ๆ หรือมีน้ำมูก เสลดตลอดเวลา ต้องเช็คหรือคายทิ้งจนเสียบุคลิกภาพ วันนี้จะนำเอาวิธีรักษาตัวเองให้หายหวัดไว ๆ มาฝากกันนะคะ 1. นอนให้มาก ๆ อย่าอดนอน อย่างนอนดึก ยิ่งนอนพักผ่อนมากเท่าไร หวัดก็ยิ่งหายเร็วเท่านั้น 2. หากมีไข้ขึ้น ให้นำผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัว เช็ดหน้า จะรู้สึกสบายตัวมากขึ้น หากใช้แผ่นเจลทำความเย็นด้วย จะเห็นผลดี ลดไข้ได้มาก 3. ทำร่างกายให้อบอุ่นด้วยการดื่มน้ำที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงน้ำเย็น และดื่มให้มาก ๆ เพื่อชดเชยน้ำที่ร่างกายเสียไป เนื่องจากมีไข้ขึ้น 4. คาดผ้าปิดปากปิดจมูก ป้องกันเชื้อโรคอื่นเข้าสู่ร่างกาย และไม่เป็นการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นด้วย 5. อยู่ในที่ปลอดโปร่ง ไม่อับชื้น 6. หมั่นล้างมือบ่อย ๆ 7. ทานอาหารด้วยช้อนกลาง 8. หลีกเลี่ยงการเข้าไปคลุกคลีกับคนที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น คนแก่หรือเด็ก เพราะอาจแพร่เชื้อให้พวกเขาได้ 9. ทานผลไม้ที่มีวิตามินซีมาก…
-
การป้องกัน…ไข้หวัดในเด็กเล็ก
การป้องกัน…ไข้หวัดในเด็กเล็ก โรคหวัดเป็นโรคติดเชื้อที่เด็ก ๆ เป็นกันมากที่สุด ยิ่งอยู่ในวัยที่ต้องเข้าไปอยู่ในเนอสเซอรี่ โรงเรียนอนุบาลทั้งหลายแล้ว ยิ่งติดต่อกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เด็กบางคนเป็นหวัดแทบทุกเดือน เพราะเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นหวัดได้นั้นมีมากกว่าสองร้อยชนิด อาการของเด็กที่เป็นหวัดนั้น โดยมากจะมีอาการ คัดจมูก น้ำมูกไหล เจ็บคอ ไอ มีไข้ ปวดศีรษะ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรดูแลเด็ก ๆ อย่างใกล้ชิดด้วยการให้เด็กจิบน้ำอุ่นบ่อย ๆ กินอาหารเหลวหรืออาหารที่ย่อยง่าย หากยังกินนมแม่อยู่ก็ให้ดูดนมบ่อยขึ้น ดูแลน้ำมูกให้จมูกโล่ง ให้เด็กได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ให้เด็กปิดปากเวลาไอหรือจาม และแยกเด็กออกจากเด็กปกติเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อด้วย รวมไปถึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นหูชั้นกลางอักเสบ ไซนัสอักเสบ หรือแม้กระทั่งปอดบวม ซึ่งหากเกิดความผิดปกติได้แก่ มีไข้สูงเกินกว่าสองวัน เด็กร้องกวนโยเย เจ็บหู ไอมากหรือไอเสียงก้อง หายใจแรงจนซี่โครงบุ๋ม หรือหายใจถี่เร็ว ควรรีบพบแพทย์ เพื่อป้องกันอันตราย ในระยะนี้คุณพ่อคุณแม่ควรพาเด็กมาหาหมอตามนัดและให้ลูกทานยาให้ครบ อย่าหยุดยาเองโดยพละการ ไม่ใช่เห็นว่าอาการทุเลาแล้วจึงหยุดยาเอง ทำแบบนี้เป็นอันตรายมากเพราะจะทำให้ติดเชื้อแทรกซ้อนอื่นได้ง่าย และทำให้ดื้อยาด้วย และที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการป้องกันเด็กมิให้เป็นไข้หวัดเสียตั้งแต่แรก ได้แก่การดูสุขภาพของเด็กให้แข็งแรง โดย – ทานอาหารให้ครบหมู่และเหมาะสมตามวัยของเด็ก – ปล่อยให้เด็กได้วิ่งเล่นกลางแจ้งเพื่อเป็นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ – ให้เด็กได้เข้านอนแต่หัวค่ำและนอนหลับอย่างพอเพียงทุกวัน…
-
หัวเราะรักษาโรคได้สารพัด ลองดูสิ!!
หัวเราะรักษาโรคได้สารพัด ลองดูสิ!! การอยู่ในบ้านหรือในสังคมที่อุดมความสดชื่น เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะสนุกครื้นเครงนั้น ช่วยให้อารมณ์สดใจ จิตใจมีสุขภาพดีขึ้นได้มากเลยนะคะ ยิ่งโดยเฉพาะในครอบครัวใดที่มีคนที่ป่วยหนักอยู่ การสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้นในครอบครัว ช่วยลดความรู้สึกเจ็บปวดลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่เราหาเวลาแต่ละวันอยู่ร่วมกัน แล้วผลัดกันเล่าเรื่องราวขำขันแบ่งปันกันฟัง หรือถ้านึกมุขไม่ออกจะเปิดหนังตลก ทอล์คโชว์ขำ ๆ ดูด้วยกันก็ดีเช่นกัน การหัวเราะอย่างเป็นธรรมชาติทำให้ความรู้สึกเกร็งหรือฝืนหมดไป (การรับน้องหรือปฐมนิเทศพนักงานจึงมักเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เพราะช่วยละลายพฤติกรรมให้เปิดใจเข้าหากันได้มากกว่า) อีกทั้งการหัวเราะยังสร้างบรรยากาศดีขึ้นในบ้าน กระชับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้นได้ นอกจากนี้แล้วการหัวเราะมีประโยชน์ดังต่อไปนี้อีกค่ะ – การหัวเราะช่วยลดความเจ็บปวด ร่างกายผ่อนคลายมากขึ้น – รักษาอาการซึมเศร้า ช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเซโรโทนิน และโดปามีนมากขึ้น จิตใจจึงสงบเยือกเย็น – เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ ได้ ที่เห็นได้ชัดก็คือป้องกันโรคหวัดได้ – การหัวเราะช่วยลดน้ำหนัก เพราะการหัวเราะแม้วันละเพียง 1-5 นาทีต่อวัน สักวันละสิบครั้ง จะช่วยลดความอยากอาหาร จึงมีผลต่อการควบคุมน้ำหนัก ซึ่งจะแตกต่างกับความเครียดอย่างสิ้นเชิง ยิ่งเครียดน้ำหนักก็ยิ่งขึ้นเพราะอยากอาหารมากกว่าเดิมนั่นเอง – การเปล่งเสียงหัวเราะช่วยบริหารกล้ามเนื้อหัวใจได้ เหมาะแม้สำหรับผู้ป่วยที่นอนบนเตียงและผู้สูงอายุด้วย – การหัวเราะช่วยบริหารกล้ามเนื้อบนใบหน้า และส่วนอื่น ๆ ที่กระเพื่อมขึ้นลงเวลาหัวเราะ เท่ากับได้บริหารร่างกายเบา ๆ…
-
ทำไม…ตากฝนแล้วเราจึงเป็นหวัด?
ทำไม…ตากฝนแล้วเราจึงเป็นหวัด? หลายคนคงเคยสงสัยกันอยู่บ้างว่าทำไมแค่ตัวเราเปียกฝนแล้วจึงเป็นหวัดได้ ทั้งที่เราก็อาบน้ำสระผมตัวเปียกอยู่ทุกวัน แต่ไม่ยักกะเป็นอะไร วันนี้ค่ะ เราจะมาฟังคำอธิบายกันว่าทำไมการตากฝนแล้วจึงทำให้เราเป็นหวัดขึ้นมาได้ – เพราะโรคหวัดเกิดจากไวรัสที่ทำให้โพรงจมูกอักเสบติดเชื้อ และมีไวรัสเป็นจำนวนมากที่ทำให้เกิดเป็นไข้หวัดได้ ซึ่งไวรัสเหล่านี้จะฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศแล้วก็ตกลงไปเกาะติดอยู่ตามพื้น หรือปะปนไปกับฝุ่น ความจริงไวรัสเหล่านี้มีชีวิตไม่นานนัก แต่ปกติเราก็สัมผัสกับไวรัสเหล่านี้อยู่บ้างแล้ว แต่เพราะในเวลาปกติที่ฝนไม่ได้ตก เรามีภูมิต้านทานร่างกายและสภาวะแวดล้อมที่จะไม่ทำให้ติดเชื้อ เราจึงไม่เป็นหวัด แต่เพราะในเวลาฝนตกมักจะมีลมแรง ลมเหล่านี้จะพัดเอาไวรัสฟุ้งกระกระจาย เราอยู่ในบริเวณนั้นก่อนที่ฝนจะตก จะทำให้มีโอกาสที่ไวรัสจะสัมผัสกับเรามากขึ้น ดังนั้นหากลมเริ่มแรงและฝนกำลังจะตก ให้หาที่หลบดีกว่าอย่าอยู่ที่โล่ง หรือหากเลี่ยงไม่ได้ให้ปิดปากปิดจมูกด้วยผ้าไว้ก่อนก็ได้ค่ะ – และหากเราตากฝนจนศีรษะเปียก การที่เราเป็นหวัดไม่ได้เกิดจากศีรษะเปียก (ไม่งั้นเราคงเป็นหวัดเวลาสระผมทุกครั้ง) แต่เป็นเพราะว่าเมื่อศีรษะเปียกฝนจะทำให้อุณหภูมิพื้นผิวของเยื่อบุจมูกลดลงประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่พอดีสำหรับการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสที่ตกค้างในช่องจมูก หากได้ยืนตากลมหรือรับเชื้อมาก่อนช่วงเวลาฝนตกก็จะยิ่งทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายต้านทานเชื้อไม่ไหว เกิดสารคัดหลั่งออกมามากขึ้น (น้ำมูกนั่นล่ะค่ะ) และหากเชื้อไวรัสลุกลามลงคอก็จะทำให้คออักเสบได้ – นอกจากลม และศีรษะที่เปียกฝนแล้ว อุณหภูมิบริเวณมือเท้าก็มีผลด้วย การที่เท้าเราแช่น้ำ หรือต้องลุยน้ำเวลานาน ๆ ทำให้อุณหภูมิร่างกายลดลงจนกลายเป็นหวัดได้อีกด้วย ดังนั้นต่อไปนี้หากอยู่นอกบ้านแล้วพบว่าฝนตก ควรป้องกันตัวเองจากไวรัสและการติดเชื้อด้วยการ พยายามหาที่หลบฝนเสียก่อน แล้วรอจนฝนหยุดแล้วจึงเดินทางต่อ หรือหากเลี่ยงไม่ได้ควรกางร่มเพื่อบังศีรษะของเราไว้ นำผ้าเช็ดหน้าปิดจมูกปิดปากไว้ด้วยก็จะดีขึ้น เมื่อเข้าที่แห้งแล้วให้รีบเช็ดผมที่เปียกให้แห้ง หากกลับบ้านก็ควรสระผมแล้วเช็ดหรือเป่าให้แห้งโดยเร็วที่สุด หลังจากนั้นควรทำร่างกายให้อบอุ่น ด้วยการดื่มน้ำอุ่น ๆ ใส่เสื้อผ้าหนา…
-
ดูแลเด็ก ๆ ให้ห่างไกลโรคหวัดลงกระเพาะ
ดูแลเด็ก ๆ ให้ห่างไกลโรคหวัดลงกระเพาะ โรคไวรัสโรต้า หรือโรคหวัดลงกระเพาะนั้น มักจะทำให้เด็กเล็ก ๆ ที่มีอายุน้อยกว่าห้าขวบ มีอาการไข้สูง ท้องเสีย ปวดท้อง ถ่ายเป็นน้ำ จนทำให้ร่างกายขาดน้ำและเสียชีวิตจากโรคนี้กันได้ปีหนึ่งเป็นแสนรายจากทั่วโลกเลยทีเดียว และในเมืองไทยก็มีเด็กที่เสียชีวิตจากเชื้อนี้เป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยมากเด็กมักจะติดโรคนี้ในช่วงที่มีอากาศเย็น โรคนี้มีชื่อเรียกกันว่า หวัดลงกระเพาะ หรือ ไวรัสลงลำไส้ เพราะว่าในผู้ป่วยบางรายนั้นจะมีแสดงอาการคล้ายไข้หวัดนำมาก่อนนั่นเอง โรคนี้นั้นพบได้มากที่สุดในเด็กทารกและเด็กเล็ก ๆ ที่อายุน้อยกว่าสองขวบ หากอายุมากกว่านี้ก็จะพบได้น้อยลง ส่วนในวัยผู้ใหญ่หรือเด็กโตแล้วนั้นมักจะมีภูมิคุ้มกันโรค เรียกได้ว่าเด็กเล็ก ๆ ที่เข้าโรงพยาบาลเพราะอาการท้องเสียนั้นเกือบครึ่งนั้นมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสโรต้า นี้ได้เลย และเรียกได้ว่าเด็กทารกแทบทุกคนนั้นเคยติดเชื้อนี้อย่างน้อยก็หนึ่งครั้งในชีวิต เชื้อนี้ติดต่อกันได้ง่ายมากเพราะแพร่กระจายได้จากน้ำมูก น้ำลาย ปัสสาวะ อุจจาระที่ปนเปื้อนอยู่กับ พื้นบ้าน ของใช้ สิ่งของ ของเล่นต่าง ๆ และเชื้อนี้ก็ยังแข็งแรงมากพอที่จะอยู่ได้เป็นวัน ๆ เมื่อเด็กได้รับเชื้อเข้าไปก็จะมีระยะเวลาฟักเชื้อที่ค่อนข้างน้อยคือเพียงแค่ 1-2 วันเท่านั้น แล้วจึงแสดงอาการปวดท้อง อาเจียน ไข้ขึ้นสูง จนเกิดอาการชัก ร่วมกันถ่ายเหลว เด็กบางคนได้รับเชื้อรุนแรงมาก อาจถ่ายได้ถึงวันละ 20 ครั้งเลยทีเดียว ในปัจจุบันนี้ยังไม่มียาใดที่รักษาเชื้อไวรัสโรต้านี้ได้ ดังนั้นหากเด็ก ๆ…
-
ดูแลลูก ๆ ให้ห่างไกลจากโรคหูอักเสบในฤดูฝนนี้
ดูแลลูก ๆ ให้ห่างไกลจากโรคหูอักเสบในฤดูฝนนี้ ในช่วงหน้าฝนจะเป็นฤดูที่เด็ก ๆ มักมีความเสี่ยงเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบมากกว่าฤดูอื่นของประเทศไทย ซึ่งมักมาพร้อมกับโรคหวัดในหน้าฝน หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจทำให้ลุกลามจนกลายเป็นโรคหูหนวกได้ในอนาคต กลุ่มที่น่าเป็นห่วงก็คือเด็กที่อายุน้อยกว่า 3 ขวบ จากสถิติแล้วกว่าร้อยละ 80 นั้นเคยเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต ซึ่งสาเหตุของโรคหูชั้นกลางอักเสบนี้เกิดจากการติดเชื้ไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย แล้วเกิดการอักเสบและบวมแดงของแก้วหู จนเกิดเป็นน้ำหรือหนองในเยื่อแก้วหู บางรายที่รุนแรงก็ทำให้เยื่อแก้วหูฉีกขาดได้ เด็กที่มีความเสี่ยงมากนอกจากจะเป็นเด็กที่อายุน้อยกว่า 3 ขวบแล้ว ยังเป็นเด็กที่อยู่ในโรงเรียนอนุบาล หรือสถานรับเลี้ยงเด็ก รวมไปถึงเด็กที่เป็นโรคภูมิแพ้ ไม่แข็งแรง ป่วยง่าย ติดเชื้อโรคหวัด คออักเสบ หรือโพรงจมูกอักเสบมาจากเพื่อน ๆ ช่วงที่ติดต่อกันได้ง่ายก็คือหน้าฝน ที่ทำให้เยื่อบุในท่อยูสเตเชี่ยนที่เชื่อมต่อระหว่างูไปยังคอและโพรงจมูกเกิดการบวมและคั่งน้ำ ทำให้เกิดแรงดันในหูมากขึ้น จนเชื้อแพร่กระจายเข้าสู่หูชั้นกลางได้ง่ายขึ้นนั่นเอง ส่วนมากอาการเหล่านี้จะดีขึ้นในระยะไม่เกิน 5 วัน แต่ในรายที่รุนแรงเชื้ออาจเข้าไปยังสมองทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือฝีในสมอง ซึ่งนอกจากนี้หากเชื้อพลัดหลงเข้าไปในกระแสเลือดยังทำให้เกิดโรคติดเชื้อในกระแสเลือดได้อีก หากลุกลามไปยังปอดก็ทำให้ปอดอักเสบรุนแรงได้ ซึ่งการรักษาจะยิ่งยุ่งยากมากขึ้นและเด็กบางรายก็มีโอกาสเสียชีวิตด้วย การป้องการเชื้อเหล่านี้เป็นเรื่องที่ผู้ปกครองและคุณพ่อคุณแม่ต้องใส่ใจให้มาก การป้องกันตั้งแต่ทารกก็คือให้ลูกกินนมแม่เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ทานอาหารที่เหมาะสมกับภัย และเสริมภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดวัคซีนให้ครบ รวมไปถึงวัคซีนไอพีดีพลัสปอด-หูอักเสบ ซึ่งช่วยป้องกันโรครุนแรงอันกได้แก่ โรคไอพีดี ปอดบวม โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคติดเชื้อในกระแสเลือดแล้วยังช่วยป้องกันการเกิดโรคหูชั้นกลางอักเสบในเด็กเล็กด้วย สำหรับในฤดูฝนนี้คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลเด็ก…
-
ประโยชน์ของวิตามินซีที่มีต่อร่างกายของเรา
ประโยชน์ของวิตามินซีที่มีต่อร่างกายของเรา คุณสมบัติเด่น ๆ ของวิตามินซีเลยก็คือ การที่มีคุณสมบัติเป็นวิตามินที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ นั่นเอง ซึ่งประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับจากการบริโภควิตามินซีอย่างพอเพียงและเป็นประจำก็คือ 1. ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานสูงขึ้น 2. ช่วยป้องกันการก่อตัวของเซลล์มะเร็งในร่างกาย 3. ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัน 4. ป้องกันโรคเหงือก โรคในช่องปากต่าง ๆ เช่น โรคลักปิดลักเปิด หรือโรคเหงือกอักเสบได้ ฯลฯ และในทางกลับกันหากร่างกายของเราได้รับวิตามินซีไม่เพียงต่อความต้องการ ก็อาจก่อผลเสียได้ดังต่อไปนี้ 1. มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เป็นหวัดและติดเชื้อได้ง่าย กับทั้งความสามารถในการกำจัดพิษยังลดลงอีกด้วย 2. ผิวหนังเหี่ยวย่น ไม่สดใส ขาดความยืดหยุ่น ปรากฏจุดด่างดำ และเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน 3. ประสาทสัมผัสด้อยลง อ่อนเพลีย ไม่สดใส ไม่มีเรี่ยวแรง 4. มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับ มะเร็งกระเพาะ และมะเร็งในส่วนอื่น ๆ 5. การทำงานของต่อมหมวกไตลดลง และเป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่าย 6. ทำให้เป็นโรคโลหิตจาง หรือโรคอื่น ๆ ได้ง่าย แผลหายช้า อ่านแล้วอย่าเพิ่งเครียดไป…
-
ซุปไก่ อาหารที่ดีที่สุด เวลาเป็นหวัด
ซุปไก่ อาหารที่ดีที่สุด เวลาเป็นหวัด ผู้ป่วยโรคหวัดหลายๆคน มักบอกว่า การรับประทานซุบไก่ หรือ ซุปร้อนๆ จะสามารถช่วยเค้าให้หายจากหวัดได้ สำหรับร้านอาหารบางร้าน ถึงขนาดมีการคิดค้นสูตรน้ำซุปที่มีโภชนาการทางอาหารต่อร่างกายครบถ้วน จึงเหมาะมากที่จะรับประทานในช่วงฤดูหนาว เพราะคนมักป่วยเป็นหวัดกัน ผู้เชี่ยวชาญได้ชี้แจงในเรื่องนี้ด้วยว่า วิธีป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดคือการฉีดวัคซีน แต่อาหารบางชนิดทานแล้วช่วยบรรเทาอาการป่วยได้ ทำให้คนนิยมรับประทานกันและอธิบายว่าทำไมคนป่วยด้วยไข้หวัดจึงรู้สึกสบายขึ้นหลังจากได้ทานซุป ชาร้อนใส่มะนาวหรือน้ำผึ้ง การเติมน้ำผึ้งและน้ำมะนาวลงไปในน้ำสักแก้วจะช่วยทุเลาอาการเจ็บคอลงได้ทำให้อาหารที่มีส่วนประกอบเหล่านี้ช่วยทุเลาอาการเจ็บป่วยแต่ไม่ได้ช่วยป้องกันหรือรักษาโรคแต่อย่างใด
-
การออกกำลังกาย ช่วยให้บรรเทาอาการภูมิแพ้ต่างๆได้
การออกกำลังกาย ช่วยให้บรรเทาอาการภูมิแพ้ต่างๆได้ นักวิจัยจากประเทศไทย ได้วิจัยเรื่องนี้ไว้ว่า วิธีป้องกันการเกิดภูมิแพ้ต่างๆ โดยการวิ่ง หรือ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ และสามารถป้องกันหวัดได้ โดยได้สุ่มตัวอย่าง กลุ่มคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ต่างๆ เมื่ออกไปวิ่งราว 30 นาที อาการจาม น้ำมูกไหล คันและคัดจมูก นั้นได้ลดลงไปกว่า 70 % การออกกำลังกายแบบนี้ เรียกได้ว่าเป็นการออกกำลังแบบ คาร์ดิโอ ที่จะสามารถช่วยให้โปรตีนนั้น ไปกระตุ้นการอักเสบของโพรงจมูก นักวิจัยได้แนะนำอีกว่า การวิ่งและการออกกำลังที่พอประมาณ แต่ทำอย่างสม่ำเสมอนั้น ไม่ใช่แค่จะช่วยบรรเทาอาการ แต่สามารถช่วยให้หายจากโรคภูมิแพ้ต่างๆได้จริง โดยที่ไม่ต้องพึ่งยาอื่นๆเลย รู้อย่างนี้แล้วก็ควรจะรีบปฏิบัติตามกันโดยด่วนเลยนะค่ะ