Tag: โรคหลอดลมอักเสบ
-
สรรพคุณมากคุณค่าของเห็ดหลากหลายชนิด
สรรพคุณมากคุณค่าของเห็ดหลากหลายชนิด ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเห็ด พืชที่ชอบขึ้นตามขอนไม้และที่ชื้นแฉะทั้งหลาย มีหลายสายพันธุ์ที่เป็นพิษ แต่ก็มีอีกหลายชนิดที่สามารถนำมาทานได้ และสามารถเพาะพันธุ์ขายได้ด้วย มาดูกันดีกว่าค่ะว่าเห็ดแต่ละชนิดที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้ให้คุณค่าต่อร่างกายอย่างไรกันบ้าง – เห็ดชิตาเกะ หรือเห็ดหอม เป็นยาทางแพทย์แผนจีน รักษาโรคได้หลากหลายชนิด ป้องกันเชื้อไวรัสและการก่อกำเนิดของเซลล์มะเร็งได้ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ให้กรดอะมิโน ให้วิตามินบี 1 บี 2 และวิตามินดีสูง บำรุงกระดูก มีปริมาณของโซเดียมต่ำจึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคไต ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง ลดกรดในกระเพาะอาหาร บรรเทาหวัดได้ – เห็ดหลินจือ มีคุณสมบัติช่วยต้านมะเร็ง โดยประเทศญี่ปุ่นมักใช้ควบคู่กับการรักษาโรคมะเร็งและโรคชรา เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น – เห็ดหูหนู ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้เม็ดเลือดขาว เพิ่มภูมิต้านทาน รักษาโรคกระเพาะและริดสีดวง บำรุงไตและปอด – เห็ดแชมปิญอง หรือเห็ดกระดุม ช่วยป้องกันและต้านทานมะเร็งเต้านมได้ ช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนได้น้อยลง จึงลดโอกาสการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมให้น้อยลงตามไปด้วยนั่นเอง – เห็ดนางฟ้า เห็ดนางรม และเห็ดเป๋าฮื้อ เป็นเห็ดในตระกูลเดียวกัน เชื่อว่าป้องกันโรคไข้หวัด ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต และบรรเทาอาการโรคกระเพาะได้ –…
-
แม้จะเป็นการสูบบุหรี่อย่างฉลาดแต่ก็ทำลายสุขภาพอยู่ดี
แม้จะเป็นการสูบบุหรี่อย่างฉลาดแต่ก็ทำลายสุขภาพอยู่ดี ก่อนที่จะไปพูดถึงเรื่องของการสูบบุหรี่ เราควรมาทำความเข้าใจกันถึง เรื่องของระบบการหายใจของเราก่อนดีกว่า ทางเดินหายใจส่วนบนนั้นประกอบไปด้วยส่วนของ จมูก โพรงอากาศข้างจมูกและคอหอย ส่วนทางเดินหายใจส่วนล่างนั้นประกอบไปด้วย กลอ่งเสียง หลอดลมใหญ่ในคอ หลอดลมที่มีขนาดลดหลั่นกันลงมา และถุงลม เวลาที่เราหายใจเข้าไปตามปกติจะมีอาการเข้าประมาณประมาณร้อยละ 70 สู่ถุงลมเพื่อแลกเปลี่ยนก๊าซ ส่วนอีกร้อยละ 30 ที่เหลือจะอยู่ในหลอดลม ทั้งควันและฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่หายใจเข้าไปจะอยู่ในบริเวณหลอดลม ซึ่งจะขับสิ่งที่คั่งค้างออกโดยมีเมือกและขนเล็ก ๆ ดักจับเอาไว้ หากมีมากก็จะไอออกมาเป็นเสมหะ ซึ่งควันและฝุ่นละอองบางอย่างอาจตกค้างอยู่ในหลอดลมฝอยทำให้เกิดการอักเสบอ่อนเรื้อรัง ต่อมมูกก็จะโตขึ้นและหลั่งมูกมากขึ้น ทำให้หายใจไม่สะดวก เรียกว่าภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจเรื้อรัง ทำให้การแลกเปลี่ยนก๊าซมีปัญหา จนเกิดภาวการณ์หายใจล้มเหลวได้ คนที่สูบบุหรี่ทั้งหมดจะหายใจออกจนสุดแล้วจึงเริ่มสูดควันที่มีอากาศปนอยู่เข้าไปในหลอดลมอย่างทั่วถึง ยิ่งสูดลึกก็ยิ่งอันตรายได้มาก ยิ่งกลั้นไว้แล้วค่อย ๆ ระบายออกช้า ๆ ควันบุหรี่จะจับผนังหลอดลมนานขึ้นด้วย ซึ่งเทคนิคการสูบบุหรี่อย่างฉลาดก็คือการหายใจเข้าตามปกติแล้วค่อยสูบบุหรี่ วิธีนี้จะทำให้อากาศดีเข้าไปบรรจุอยู่ในปอดและหลอดลมฝอยจนเต็มเหลือที่ไว้ในหลอดลมใหญ่ เมื่อสูดควันเข้าไปจะกระจายไม่ทั่วปอด และจะหายใจออกมาตามปกติทันที จึงทำให้ที่ควันจะอยู่ในหลอดลมสั้นลม นอกจากนี้แล้วยังควรปฏิบัติตามนี้ด้วยได้แก่ – ไม่ควรสูบบุหรี่ในที่อับ เช่น ห้องน้ำ ห้องน้ำ หรือที่มีอาการถ่ายเทก็ตาม ควรสูบในที่โล่งแจ้งเท่านั้น – อย่าสุบบุหรี่เพราะแก้เบื่อ หรือเหงาปากหรือเคยชิน ควรหัดยืดเวลาออกไปเล็กน้อยเรื่อย…
-
อันตรายในห้องน้ำที่ทำให้คุณป่วยซ้ำ ๆ ป่วยบ่อย ๆ
อันตรายในห้องน้ำที่ทำให้คุณป่วยซ้ำ ๆ ป่วยบ่อย ๆ ใครที่มีอาการเจ็บป่วยบ่อย ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ บางทีลองมาสังเกตห้องน้ำของคุณบ้างนะคะ ว่ามีเชื้อโรคร้ายแฝงอยู่บ้างหรือเปล่า ลองมาเช็คดูไปพร้อม ๆ กันนะคะ 1. ยาแนวในห้องน้ำทำให้เกิดโรคภูมิแพ้และระบบทางเดินหายใจ หากสูดดมในปริมาณมาก อาจทำให้ระคายเคืองผิวหนัง ดังนั้นหลังจากการก่อสร้างบ้านหรือต่อเติมซ่อมแซมห้องน้ำ ควรเปิดประตู หรือพัดลมระบายอาการเพื่อระบายความเข้มข้นของสารเคมีจากยาแนวเหล่านี้ออกไปให้มากที่สุด 2. ความชื้นในห้องน้ำทำให้คุณป่วยได้ ไม่ควรปล่อยให้ห้องน้ำชื้น ควรเปิดพัดลมดูดอากาศและใช้ม๊อบถูกพื้น เช็คห้องน้ำให้หมาดหรือแห้งได้ก็จะยิ่งดี ป้องกันการก่อตัวของเชื้อราด้วย 3. ติดตั้งพัดลมดูดอากาศผิดตำแหน่ง เช่นติดไว้บนเพดาน ทำให้ความชื้นไม่ถูกระบายออกไป ทางที่ดีควรติดพัดลมระบายอากาศที่สามารถระบายอากาศสู่ภายนอกได้จะดีที่สุด 4. ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์รุนแรง ยิ่งโดยเฉพาะที่มีส่วนผสมของแอมโมเนียและคลอรีน เพราะสารทั้งสองชนิดทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนัง ปอด และทำให้เกิดโรคหอบหืดได้ด้วย 5. ก๊อกน้ำไม่สะอาดหรือไม่ยอมทำความสะอาด แพร่เชื้อโรคได้มากที่สุดนะคะ เพราะก็อกน้ำเป็นส่วนที่ทุกคนในบ้านจับต้องมากที่สุดแต่มักได้รับการทำความสะอาดน้อยที่สุดด้วย 6. ม่านห้องน้ำแบบไวนิล มีสารที่ก่ออันตรายและสารก่อมะเร็งได้ ควรเปลี่ยนมาเป็นแบบโพลีเสเตอร์หรือไนลอนดีกว่า 7. น้ำยาทำความสะอาดสำเร็จรูปที่มีความสามารถในการกัดเซาะได้ดีนั้น จะทำความรุนแรงต่อผิวและกลิ่นฉุน ๆ ยังระคายเคืองทางเดินหายใจได้อีก ลองเปลี่ยนมาใช้เบกกิ้งโซดาซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ กับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ทำความสะอาดห้องน้ำดีกว่า นำสองอย่างนี้มาผสมกันแล้วป้ายไว้บนสิ่งสกปรกประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วขัดล้างตามปกติ จะปลอดภัยต่อสุขภาพของคุณมากกว่าค่ะ 8. ควรกรองคลอรีนออกจากน้ำด้วย…