Tag: โรคทางพันธุกรรม

  • ความแตกต่างของโรคกลากและโรคเกลื้อน

    ความแตกต่างของโรคกลากและโรคเกลื้อน

    ความแตกต่างของโรคกลากและโรคเกลื้อน ทั้งโรคกลากและโรคเกลื้อนนั้นเป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราและเชื้อยีนส์ มิได้เป็นโรคทางพันธุกรรมแต่อย่างใด ลักษรของกลากนั้นจะเห็นเป็นวงแดง มีขุยเป็นขอบอยู่ด้านนอก หากเป็นตามลำตัวตัวเรียกว่ากลาก หากเป็นที่ขาหนีบเรียกสังคัง นอกจากนี้แล้วยังพบได้ที่ฝ่าเท้า ง่ามนิ้วเท้า ที่เล็บและหนังศีรษะได้ด้วย โรคกลากบางแห่งนั้นแค่ใช้ยาทาก็หาย เช่น กลากบนลำตัว แต่ต้องทาให้ครบตามที่ระบุไว้บนฉลากยา แต่หากเป็นกลากที่เล็บมือ เล็บเท้าแล้วอาจต้องกินยาด้วยหลายเดิน จึงควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยให้แน่ชัดว่าเป็นกลาก หรือเป็นโรคอื่นกันแน่ ซึ่งหากเป็นโรคอื่นหรือโรคที่เกิดจากเชื้อราแล้ว แต่ละชนิดจะต้องมีการรักษาและการใช้ยาที่แตกต่างกันไป ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์จะดีกว่า ในส่วนของโรคเกลื้อนนั้นจะเกิดจากเชื้อยีนส์ที่อยู่บนผิวหนังของเราอยู่แล้ว อาการจะเห็นเป็นรอยจุดขาวตามรูขุนขน บางรายก็อาจเห็นเป็นผื่นสีชมพู สีน้ำตาลหรือสีดำก็ได้ คันหรือไม่คันก็ได้ การรักษาโรคเกลื้อนทั่วไปก็อาจใช้ยาทาฆ่าเชื้อราชนิดที่ฆ่าเชื้อยีสต์ได้ด้วย เช่น คีโทโคนาโซล โคลไทรมาโซล หรือแชมพูซิงก์ไพริไทออน หากเป็นมากทั้งตัว อาจใช้ยากินเช่น คีโทโคนาโซลด้วย แต่เนื่องจากยานี้อาจเป็นพิษต่อตับได้ จึงควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยให้ได้ก่อน การป้องกันและการปฏิบัติตัวในช่วงรักษาโรคผิวหนังนั้นควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ซักสะอาดและตากแห้งสนิท เพราะเชื้อเหล่านี้จะชอบอยู่ตามบริเวณที่อบ อับชื้น มืดมิด และมีเหงื่อไคล หากชอบออกกำลังกายที่มีเหงื่อมากควรอาบน้ำให้สะอาดแล้วซับตัวให้แห้งทุกครั้ง ไม่ควรสวมถุงเท้าซ้ำ หรือรองเท้าที่เปียกแฉะ ควรสวมถุงเท้าซักใหม่ และรองเท้าที่แห้งสะอาดทุกครั้ง รวมไปถึงเสื้อผ้าสำหรับเล่นกีฬา ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้าต่าง ๆ ด้วย การเล่นกับสัตว์บางชนิดที่มีโรคผิวหนังอยู่แล้วก็อาจทำให้ติดเชื้อได้เช่นกัน ไม่ควรสวมกางเกงที่หนาและคับ หรือสวมกางเกงในซ้ำ ๆ…

  • รู้จักกับโรคธาลัสซีเมีย

    รู้จักกับโรคธาลัสซีเมีย

    รู้จักกับโรคธาลัสซีเมีย โรคธาลัสซีเมียคือ โรคทางเลือดชนิดหนึ่งที่ติดต่อได้ทางกรรมพันธุ์ มีการสร้างฮีโมโกลบินทำให้เม็ดเลือดแดงผิดปกติและแตกง่าย ทำให้เกิดอาการซีด เลือดจางเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคนี้มักจะได้รับยีนที่ผิดปกติมาจากพ่อแม่ มีอาการก็คือ ซีด ตัวเหลือง ตับและม้ามโตทำให้ท้องป่องและแน่นอึดอัด ตัวแคระแกร็น ใบหน้ามีลักษณะผิดปกติในทางการแพทย์เรียกว่า ใบหน้าธาลัสซีเมีย มีดั้งจมูกแฟบ ตาห่างกัน กระดูกโหนกแก้ม หน้าผากและขากรรมไกรด้านบนนูนแน่น ถ้าซีดมากจะเหนื่อยต้องให้เลือด แต่ถ้ารุนแรงอาจต้องได้รับเลือดทุกสองอาทิตย์หรือทุกเดือน และเลือดที่ได้รับไปมาก ๆ นั้นจะไปทำลายเนื้อเยื่อต่าง ๆ จนเกิดโรคตามมาได้อีก การรักษาโรคธาลัสซีเมียสามารถทำได้ดังต่อไปนี้ – ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงมีอนามัยดี กินอาหารที่ช่วยสร้างเลือดได้แก่ นม ไข่ ถั่ว และดื่มน้ำชาเพื่อลดการดูดซึมธาตุเหล็กจากลำไส้ – ให้เลือด ซึ่งแบ่งออกเป็นการให้เลือดเพื่อประคับประคองให้หายอ่อนเพลีย มึนงงจากการขาดออกซิเจน และการให้เลือดจนกว่าจะหายซีด เพิ่มระดับฮีโมโกลบินให้สูงใกล้เคียงคนปกติ – การรักษาโดยการตัดม้าม จะทำให้หายอึดอัดและอัตราการให้เลือดจะลดลงมาก แต่อาจทำให้ติดเชื้อได้ง่าย – ให้ยาขับธาตุเหล็ก – การปลูกถ่ายไขกระดูกทำให้หายขาดได้โดยการใช้ไขกระดูกของพี่หรือน้องที่มีเม็ดเลือดขาวเข้ากันได้กับผู้ป่วย ไปปทดแทนให้ผู้ป่วย วิธีนี้มีโอกาสหายขาดได้ร้อยละ 70-80 โรคธาลัสซีเมียนี้เป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้มากในเมืองไทย มีอาการเรื้อรังและรักษาให้หายขาดได้ยาก คู่สามีภรรยาสามารถลดความเสี่ยงการมีลูกเป็นธาลัสซีเมียได้ด้วยการคุมกำเนิดไว้ หรือเลือกใช้อสุจิผู้อื่นแทน หรือจะใช้วิธีปฏิสนธิในหลอดแก้วแทน

  • รู้จักกับโรคพาร์กินสัน

    รู้จักกับโรคพาร์กินสัน

    รู้จักกับโรคพาร์กินสัน โรคพาร์กินสันนั้นเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ร่างกายมีอาการเกร็ง สั่นและเคลื่อนไหวได้ช้า มีสาเหตุมาจาก 1. ความเสื่อมสภาพของสมอง ทำให้เซลล์สมองส่วนที่สร้างสารโดพามีนซึ่งทำหน้าที่ในการสั่งการให้ร่างกาย เคลื่อนไหว มีจำนวนที่ลดลง พบมาในกลุ่มที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด 2. หลอดเลือดในสมองอุดตัน ทำให้เซลล์ที่สร้างโดพามีนน้อยลง 3. เกิดจากสารพิษมาทำลายสมอง เช่น พิษจากคาร์บอนมอนนอกไซด์ หรือแมงกานีนในโรงงานถ่ายไฟฉาย 4. สมองขาดออกซิเจนในกรณีที่จมน้ำ ถูกบีบคอ หรือการอุดตันของทางเดินหายใจจากเสมหะหรืออาหาร 5. สมองถูกกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุ 6. สมองเกิดการอักเสบ 7. โรคทางพันธุกรรม เช่น โรควิลสัน 8. เกิดจากยากลุ่มต้านแคลเซียมที่ใช้ในโรคหัวใจ โรคสมอง ยาแก้เวียนศีรษะและยาแก้อาเจียน อาการของโรคพาร์กินสันนี้จะแสดงออกมามากหรือน้อยก็แตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น อายุ ระยะเวลาการเกิดโรค และภาวะแทรกซ้อน มีอาการที่แสดงออกก็คือ 1. อาการเริ่มแรกของโรคก็คืออาการสั่น กว่าร้อยละ 60 จะสั่นโดยเฉพาะเวลาที่อยู่นิ่ง ๆ แต่ถ้าเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ อาการสั่นก็จะน้อยลง มักสั่นที่มือหรือเท้า อาจพบได้ที่คางหรือลิ้นด้วย 2.…

  • เรื่องควรรู้…ก่อนการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน

    เรื่องควรรู้…ก่อนการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน

    เรื่องควรรู้…ก่อนการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน การจะใช้ชีวิตคู่ให้ราบรื่นและมีความสุขนั้น ทั้งสองฝ่ายต่างก็จำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจ รวมทั้งปรับตัวเข้าหากัน ดังนั้นทั้งคู่จึงจำเป็นต้องมีการเตรียมตัวและศึกษาซึ่งกันและกันก่อนแต่งงาน เพื่อให้ชีวิตคู่ที่ทั้งสองเลือกที่จะใช้ชีวิตด้วยกันมีความสุขอย่างยั่งยืนค่ะ อันดับแรกจึงควรศึกษากันและกันก่อนว่ามีความพร้อมมากน้อยขนาดในการอยู่ร่วมกัน ทั้งทางร่างกาย ทางจิตใจ สถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคม พิจารณาว่าการที่เลือกกันและกันนี้ไม่ใช่การเลือกด้วยอารมณ์เท่านั้นแต่เลือกด้วยความเหมาะสมด้วย ประกอบการมีชีวิตคู่จำเป็นต้องมีทุนทรัพย์ที่ใช้ในการสร้างครอบครัว และอันดับสุดท้ายที่ต้องคำนึงก็คือ ควรเข้าตรวจสุขภาพในโรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบความพร้อมในการมีครอบครัว และตรวจว่าทั้งสองฝ่ายมีโรคทางพันธุกรรมหรือโรคอื่นที่อาจมีผลกระทบต่อชีวิตแต่งงานด้วยหรือไม่ ซึ่งการเข้าตรวจสุขภาพก่อนการมีครอบครัวนี้ก็เพื่อ 1. ตรวจให้แน่ใจว่ามีอาการหรือสิ่งผิดปกติใด ๆ ที่จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ในอนาคตหรือไม่ 2. เพื่อค้นหาความบกพร่องต่าง ๆ ที่อาจกระทบกระเทือนต่อการมีเพศสัมพันธ์และเป็นอุปสรรคในการตั้งครรภ์ 3. ตรวจเลือดเพื่อหาระดับน้ำตาลและความเข้มข้นของเม็ดเลือด ตรวจหาภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี โรคเลือดธาลัสซีเมีย รวมทั้งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย 4. ตรวจปอดเพื่อหาความผิดปกติ 5. เพื่อการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ ป้องกันโรคหัดเยอรมันและบาดทะยัก 6. เพื่อให้ทั้งคู่ได้รับคำแนะนำในเรื่องการวางแผนครอบครัว การคุมกำเนิดและความรู้เรื่องเพศ ฯลฯ ชีวิตคู่จริง ๆ ไม่ได้เหมือนในละครเสมอไป ที่พอจบเรื่องก็แฮปปี้เอนดิ้ง แต่จริง ๆ แล้วเป็นการเริ่มต้นใหม่ของชีวิตอีกแบบหนึ่งต่างหาก หากทั้งคู่พร้อมที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน พร้อมที่จะพบสุขพบทุกข์ด้วยกันและรับผิดชอบเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยกัน รวมทั้งร่วมกันสร้างสรรค์สังคม ชุมชนและบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นต่อไป ชีวิตคู่ก็จะมีความสุขร่วมกันไปได้ตลอดรอดฝั่งค่ะ