Tag: โปรตีน
-
ขนมปังหรือข้าว.. กินอะไรอ้วนกว่ากัน
ขนมปังหรือข้าว.. กินอะไรอ้วนกว่ากัน อ๊ะอ๊ะ สำหรับคนที่กำลังลดความอ้วนกันอยู่คงสับสนไม่น้อยเลยใช่ไหม ว่าทานอะไรแล้วอ้วนกว่ากันระหว่าง “ขนมปัง” กับ “ข้าว” ทั้งที่ก็เป็นคาร์โบไฮเดรตเหมือนกัน ให้พลังงานเท่ากันคือ 4 กิโลแคอรี่ต่อกรัม แต่มีความแตกต่างกันไปในสัดส่วนของคาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน รวมทั้งไฟเบอร์และวิตามินต่าง ๆ ของข้าวแต่ละชนิด และขนมปังแต่ละประเภท รวมไปถึงปริมาณที่ทานเข้าไปด้วยค่ะ ความจริงแล้ว หากนำมาเปรียบเทียบกันด้วยน้ำหนักเที่เท่ากันก็คือ ในปริมาณ 100 กรัมนั้น ข้าวจะให้พลังงาน 140 กิโลแคลอรี่ และขนมปังจะให้พลังงาน 170 กิโลแคลอรี่ การที่ขนมปังให้แคลอรี่สูงกว่าเพราะว่าส่วนประกอบของขนมปังคือ แป้ง น้ำตาล เนย ผลฟูต่าง ๆ จึงสรุปได้ว่า ในปริมาณที่เท่ากันนั้น คุณจะได้รับพลังงานจากขนมปัง มากกว่าข้าวนั่นเอง สาว ๆ ลดน้ำหนักทั้งหลายควรทานข้าวจะดีกว่านะคะ ยิ่งโดยเฉพาะเป็นข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือ จะได้รับประโยชน์จากสารอาหารมากมายอีกด้วยค่ะ
-
4 อาหารอัพอึ๋ม ยิ่งกินยิ่งดูมดูม
4 อาหารอัพอึ๋ม ยิ่งกินยิ่งดูมดูม เรื่องอกใหญ่อกเล็ก นี่เป็นปัญหาระดับชาติของหญิงสาวแทบทั้งโลกเลยทีเดียวนะคะ ยิ่งโดยเฉพาะสาวไทยหรือสาวเอเซียที่มีโครงสร้างหน้าอกค่อนข้างเล็กแล้ว ยิ่งเล็กเท่าไรกลับกลายเป็นเรื่องหนักอกเท่านั้น ซึ่งหากพอมีทุนทรัพย์อยู่บ้าง ก็คงเดินเข้าคลินิกผ่าหรือฉีกไปรู้แล้วรู้รอด แต่หากกลัวมีดแล้วก็มีมีทุน เรามาหาอาหารทานอัพอึ๋มกันดีกว่า ราคาถูกกว่า ประหยัดและปลอดภัยชัวร์ด้วยค่ะ 1. อาหารอัพอึ๋มชนิดแรกก็ต้องเป็นถั่วเลยค่ะ ถั่วทุกชนิดอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินบี และวิตามินอีก ที่ช่วยให้คุณหน้าอกใหญ่บึ้มขึ้นและเต่งตึงขึ้นอีกด้วย แต่อย่ากินมากเกินไปล่ะ เพราะมีไขมันเยอะเหมือนกัน เดี๋ยวจะอึ๋มเพราะอ้วนเอา 2. น้ำมะพร้าว เพราะในน้ำมะพร้าวมีฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่ช่วยสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อหน้าอก หน้าอกจึงใหญ่ขึ้นได้ชัวร์ค่ะ 3. ผักและผลไม้สดนานาชนิด อุดมไปด้วยวิตามินหลากหลาย ยิ่งทานหลากหลายชนิดสลับกันไปก็จะยิ่งช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่บำรุงความงามให้กับหน้าอก แล้วยังกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือดได้ดีด้วย ทั้งอึ๋มทั้งเปล่งปลั่งเลยล่ะทีนี้ 4. ไข่ เพราะในไข่มีโปรตีน ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อของหน้าอกที่เริ่มหย่อนยานไปแล้ว ทำให้กระชับเต่งตึงขึ้นได้ รู้อย่างนี้แล้วจะไปฉีดหรือไปผ่าอีกไหมล่ะ ว่าแล้วไปตลาดซื้ออาหารอัพอึ๋มมาทานดีกว่าค่ะ
-
ประโยชน์สุด ๆ ของโยเกิร์ต
ประโยชน์สุด ๆ ของโยเกิร์ต โยเกิร์ตเป็นผลิตภัณฑ์นมที่หาซื้อมาทานได้ง่าย มีหลายรสชาติให้เลือกนะคะ แล้วยังมีประโยชน์ต่อร่างกายแบบอเนกอนันต์เลยทีเดียว ในโยเกิร์ตหนึ่งด้วยนั้นประกอบไปด้วยสารอาหารที่ช่วยบำรุงและรักษาร่างกายกว่า 11 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีประโยชน์อย่างยิ่งยวดต่อร่างกาย ได้แก่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส ไอโอดีน วิตามินบี 2 วิตามินบี 5 วิตามินบี 12 โปรตีน โพแทสเซียม สังกะสี ทริปโทฟาน และโมลิปเดนัม การทานโยเกิร์ตเพียงถ้วยเดียว ช่วยเติมเต็มสารอาหารหลาย ๆ ชนิดได้ในคราวเดียว นอกเหนือจากสารอาหารข้างต้นแล้ว ในโยเกิร์ตยังมีเชื้อจุลินทรีย์ ที่มีประโยชน์ต่อการย่อยอาหารและมีประโยชน์ต่อลำไส้ ช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ตัวเลวในลำไส้ได้ จึงช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้อย่างรวดเร็วเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีไขมันที่สำคัญชื่อว่า คอนจูเกตเต็ดไลโนเลอิก ช่วยป้องกันทั้งโรคหัวใจ และลดความเสี่ยงการเกิดโรคเหงือกได้ด้วย ฯลฯ การทานโยเกิร์ตจึงเป็นการสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย เปรียบดั่งเป็นยาอายุวัฒนาที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพราะทานได้ง่าย ทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ มีแคลเซียมสูง ช่วยลดความเครียด ป้องกันมะเร็งลำไส้ โรคความดันโลหิตสูง และป้องกันอาการกระดูกพรุนได้ จุลินทรีย์โยเกิร์ตยังช่วยลดกลิ่นปาก ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียแย่ ๆ ในช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมหาโยเกิร์ตมาทานกันนะคะ
-
การตรวจเลือดแบบใหม่ ช่วยป้องกันการเสียชีวิตได้ก่อนวัยอันควร
การตรวจเลือดแบบใหม่ ช่วยป้องกันการเสียชีวิตได้ก่อนวัยอันควร การตรวจเลือดนี้เป็นการตรวจวัดระดับโปรตีนสี่ชนิดที่ช่วยบ่งบอกโอกาสการเกิดโรคต่างๆ นักวิทยาศาสตร์ใช้ระดับโปรตีนเหล่านี้เป็นตัววัดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคต่างๆ รวมทั้ง มะเร็ง เบาหวาน โรคหัวใจและโรคอื่นๆ สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดในการศึกษานี้คือระดับโปรตีนต่างๆ ที่ตรวจพบในกระเเสเลือดช่วยให้นักวิจัยพยากรณ์ความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตในระยะสั้นแม้เเต่ในคนที่สุขภาพปกติและไม่เจ็บป่วยด้วยโรคใดๆ นักวิจัยกล่าวว่าจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อระบุว่าโปรตีนตัวไหนบ้าง ที่เป็นตัวยืนยันสาเหตุชัดเจนของการเสียชีวิต เขาชี้ว่ามาถึงขณะนี้ การตรวจเลือดหาระดับโปรตีนดังกล่าวยังไม่เป็นประโยชน์มากนัก และอาจจะเป็นอันตรายได้และเขากล่าวเสริมว่าการตรวจเลือดเพื่อพยากรณ์ความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตในระยะสั้นนี้ก่อให้เกิดคำถามทางจรรยาบรรณ คงไม่มีใครอยากรู้ว่าตนเองมีความเสี่ยงสูงกว่าปกติที่จะเสียชีวิตภายในไม่กี่ปีข้างหน้า หากไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่อยากรู้ว่าตนเองมีความเสี่ยงมากแค่ไหนเพราะรู้ไปก็ทำอะไรไม่ได้ นักวิจัยกล่าวว่าในทางอุดมคติแล้ว การตรวจวิเคราะห์เลือดนี้จะสามารถช่วยป้องกันการเสียชีวิตก่อนวัยอันสมควรได้ด้วยการตรวจหาสาเหตุให้เเคบลงและหาช่องทางแทรกแซงทางสุขภาพ และคาดว่า คาดว่าอาจจะมีการพัฒนาวิธีการทดสอบเฉพาะทางออกมาให้วงการแพทย์ได้ใช้ภายในห้าปีข้างหน้า