Tag: เส้นเลือดอุดตัน
-
อาหาร 11 ชนิดที่อาจทำให้คุณแก่เร็วขึ้น!
อาหาร 11 ชนิดที่อาจทำให้คุณแก่เร็วขึ้น! ขึ้นชื่อว่าอาหารแล้ว มีทั้งอาหารที่เป็นคุณและเป็นโทษต่อร่างกายนะคะ ดังนั้นการทานอาหาร จึงใช่การสักแต่ทานเพราะเห็นว่าเป็นอาหารเท่านั้น แต่หากคุณไม่อยากแก่ และไม่อยากให้ร่างกายและอวัยวะต่าง ๆ เสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหาร 11 ชนิดดังต่อไปนี้ด้วย 1. เกลือ เพราะเกลือจะไปดูดซึมน้ำในร่างกาย ทำให้อ่อนเพลียและมีความเสี่ยงในการเป็นโรคความดันโลหิต และโรคไต 2. น้ำตาล เมื่อบริโภคน้ำตาลเข้าไป จะไปจับกับคอลลาเจนในร่างกาย ทำให้ผิวหนังเกิดรอยเหี่ยวย่อน ทำให้ดูแก่ลง 3. น้ำตาลเทียม แม้น้ำตาลเทียมจะไม่ทำให้คุณเป็นเบาหวาน แต่ก็อาจก่อปัญหากับร่างกายได้ด้วย ทำให้เกิดอาการปวดหัว และปวดข้อ ตลอดจนอยากทานน้ำตาลจริง ๆ ขึ้นมาได้ 4. ลูกอม มีน้ำตาล น้ำเชื่อมต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบ ทำให้ร่างกายเกิดความระคายเคือง และทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย 5. น้ำอัดลม ทำให้ร่างกายขาดน้ำและรู้สึกอ่อนเพลียได้ 6. เครื่องดื่มชูกำลังต่าง ๆ ทำลายเคลือบฟัน ทำให้ฟันสึก และผุกร่อนเร็ว 7. กาแฟ ดูดซึมน้ำในร่างกาย จึงทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า…
-
ตำราทะลวงหลอดเลือดตามแบบหมอบำบัดมุสลิมโบราณ
ตำราทะลวงหลอดเลือดตามแบบหมอบำบัดมุสลิมโบราณ ตำราสูตรยาสลายเส้นเลือดอุดตันนี้เป็นสูตรที่ผู้ที่อยู่อาศัยในกรุงลอนดอนท่านหนึ่งได้รับมาจากหมอบำบัดชาวมุสลิม เพราะก่อนหน้านั้นเขามีอาการเจ็บหน้าอกเฉียบพลันต้องเข้ากับการผ่าตัดทันทีเพราะเส้นเลือดหัวใจสามเส้นอุดตันอย่างรุนแรง เขาได้นำสูตรยานี้มาปรุงทานเองที่บ้าน หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปเขาไปทำการตรวจที่โรงพยาบาลเดิมพบว่าเส้นเลือดทั้งสามปราศจากการอุดตัน หรือเส้นเลือดทั้งหมดได้ถูกทะลวงไปหมดแล้ว เขาเป็นมุสลิมที่เคร่งศาสนาจึงปรารถนาที่จะช่วยเหลือผู้คนจึงทำได้การแชร์ประสบการณ์นี้เพราะภาพถ่ายเส้นเลือดของเขา ทั้งก่อนและหลังการทานยา หากคุณผู้อ่านมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือดหัวใจอุดตัน ลองนำสูตรนี้ไปปรุงทานกันดูนะคะ ซึ่งวัตถุดิบที่ต้องเตรียมก็สามารถหาได้ง่าย ๆ ได้แก่ น้ำมะนาว 1 ถ้วย, น้ำขิง 1 ถ้วย, น้ำคั้นกระเทียม1 ถ้วย และน้ำส้มสายชูแอปเปิล 1 ถ้วย ขั้นตอนการเตรียม 1. ปอกเปลือกกระเทียมและขิงออก โดยหั่นขิงเป็นชิ้นบาง ๆ นำลงเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด แล้วคั้นผ่านผ้ากรองได้น้ำคั้น 2. นำน้ำคั้นกระเทียมและขิงดังกล่าวใส่ลงไปในหม้อหุง แล้วเติมน้ำมะนาวและน้ำส้มสายชูแอปเปิลลงไปในหม้อ แล้วค่อย ๆ เคี่ยวโดยไม่ต้องปิดฝาหม้อ ให้ไอน้ำได้ระเหยอออกมาเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงก็จะได้ยาที่มีปริมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณเดิม 3. เมื่อส่วนผสมเย็นตัวลงแล้วให้เติมน้ำผึ้งทีละน้อยลงไป อาจเพิ่มปริมาณน้ำผึ้งได้เล็กน้อยเพื่อให้ทานง่าย 4. หากต้องการเก็บไว้ทานให้เทใส่ขวดโหลแล้วเก็บใส่ตู้เย็น สำหรับการทาน ให้ทานหนึ่งช้อนโต๊ะก่อนอาหารเช้าทุกวัน จะสามารถรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดให้หายขาดได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ดื่มเพื่อป้องกันโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง รวมทั้งป้องกันโรคหวัดได้ด้วย หากลองทานได้หนึ่งเดือน ให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลดู เส้นเลือดจะสะอาด ไขมันในเส้นเลือดจะลดน้อยลง ก็เท่ากับเส้นเลือดของคุณได้ถูกทะลวงแล้วนั่นเอง
-
แพทย์ชี้ คนไทยป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบมากขึ้น โดยไม่รู้ตัว
แพทย์ชี้ คนไทยป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบมากขึ้น โดยไม่รู้ตัว สภาวะตึงเครียดในปัจจุบันส่งผลให้จำนวนผู้ป่วย “โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน” มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยพบว่าสาเหตุของการเสียชีวิตของคนไทยที่ไม่ใช่อุบัติเหตุ มาจากโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงเป็นอันดับ 2 เป็นรองเพียงแค่โรคมะเร็งเท่านั้น และจากสถิติที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ 30% ของจำนวนผู้ป่วยเหล่านี้มักไม่ปรากฏอาการหรือมีสัญญาณของโรคที่น่าสงสัยใดๆ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ จนกระทั่งมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อพบว่าอาการของโรคถึงขั้นรุนแรงแล้ว สถิติผู้ป่วยที่เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดจากทั่วโลกได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดในปีที่ผ่านมาประมาณว่า มีจำนวนผู้เสียชีวิตอันเนื่องมาจากโรคดังกล่าว สูงถึงกว่า 10 ล้านคน และคาดว่า ในอีก 5 ปี ข้างหน้า จำนวนการตายจะเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านคน โดยในจำนวนนี้ 13 ล้านคนมาจากประเทศกำลังพัฒนาและกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตก ในประเทศไทยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาพบว่า มีอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มสูงขึ้นถึง 20 เท่า โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือ ส่วนสาเหตุของการเกิดภาวะโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันนั้นพบว่า สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ อาทิ การใช้ชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ การทำงานที่แข่งขันกับเวลา ภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ความดันสูง เบาหวาน ความอ้วน การสูบบุหรี่ การขาดการออกกำลังกาย ความเครียด และอาหาร โดยอาการเบื้องต้นผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกตรงกลางร้าวไปไหล่ซ้ายและแขนซ้าย บางรายมีปวดร้าวขึ้นไปตามคอ อาการเป็นมากขึ้นเวลาออกแรง…
-
นักวิจัยพบว่า สารเคมีในเนื้อแดง เสี่ยงต่อโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตัน
นักวิจัยพบว่า สารเคมีในเนื้อแดง เสี่ยงต่อโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตัน นักวิจัยอเมริกัน ศึกษาเกี่ยวกับสารกระตุ้นที่ก้อให้เกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตัน พบว่า สารเคมีที่อยู่ในเนื้อแดงนั้น เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่นอกจากไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลที่ไปอุดตันเส้นเลือดและก่อให้เกิดโรคหัวใจได้ ทีมแพทย์ผู้รักษาผู้ป่วยที่เกี่ยวกับโรคเหล่านี้ แนะนำให้ผู้ป่วยโรคหัวใจควบคุมปริมาณเนื้อเเดงที่รับประทานให้น้อยลง รวมทั้งเนื้อสเต็กและเนื้อแกะ เนื่องจากไขมันและคอเลสเตอรอลในเนื้อแดงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด เพราะในเนื้อแดงยังมี สารเคมีชนิดหนึ่งที่เรียกว่า สารคาร์นิทีน (carnitine) เมื่อสารเคมีตัวนี้ถูกย่อยโดยเชื้อเเบคทีเรียในลำใส้ จะผลิตสารอีกชนิดหนึ่งออกมาเรียกว่า สาร TMOA เป็นสารที่พบในปริมาณสูงในกลุ่มคนที่นิยมรับประทานเนื้อแดงและเชื่อว่าเป็นสารเคมีที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ทีมนักวิจัยทดลองสารเคมีตัวนี้ในหนูทดลอง โดยการให้หนูทดลองกินอาหารที่มีสาร TMOA ผสมอยู่ในปริมาณสูงเริ่มมีอาการเส้นเลือดอุดตัน และเมื่อทีมนักวิจัยทดลองกำจัดแบคทีเรียในลำใส้ของหนูที่ทำหน้าที่ย่อยสารคาร์นิทีนให้เป็นสาร TMOA หนูทดลองเริ่มหายจากอาการเส้นเลือดอุดตัน สารคาร์นิทีนพบในปริมาณต่ำในเนื้อปลาและเนื้อไก่ และยังพบในผักบางชนิดและข้าวสาลี ตลอดจนในคนที่รับประทานเม็ดอาหารเสริม คุณไซเดซ กล่าวว่ายังเร็วเกินไปที่จะเเนะนำให้คนหลีกเลี่ยงอาหารอื่นๆที่มีสารคาร์นิทีนนอกเหนือไปจากเนื้อแดง
-
องค์การอนามัยโลก ชี้เรื่องสุขภาพของผู้หญิงในวัยต่างๆ
องค์การอนามัยโลก ชี้เรื่องสุขภาพของผู้หญิงในวัยต่างๆ รายงานขององค์การอนามัยโลกชี้ว่า สุขภาพของผู้หญิงทั่วโลกที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นโดยเฉลี่ยแล้ว ดีขึ้น แต่ช่องว่างของช่วงอายุระหว่างผู้หญิงในประเทศร่ำรวยกับประเทศยากจนกลับห่างมากขึ้น รายงานขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) ระบุว่า โรคร้ายที่ทำให้ผู้หญิงวัย 50 ปีขึ้นไปทั่วโลก เสียชีวิตมากกว่าโรคอื่นๆ คือ โรคหัวใจ โรคเส้นโลหิตอุดตัน หรือ Stroke และมะเร็ง และเป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้หญิงในประเทศกำลังพัฒนาเสียชีวิตเพราะโรคเหล่านี้ในขณะที่อายุน้อยกว่าผู้หญิงในประเทศร่ำรวย เจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลกผู้นี้ให้ความเห็นว่า บางทีประเทศที่เป็นผู้ให้เงินช่วยเหลือประเทศยากจน อาจเปลี่ยนเป้าหมายจากการลดอัตราการเสียชีวิตของมารดาในประเทศต่างๆในแอฟริกา มาเป็นการบำบัดรักษาโรคที่ไม่ติดต่อเหล่านี้บ้างก็ได้ ในเมื่ออัตราการเสียชีวิตของมารดาลดลง แต่อัตราการเสียชีวิตในกลุ่มผู้หญิงวัยสูงกว่า 50 ปี กำลังเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม รายงานการศึกษาวิจัยฉบับนี้ขององค์การอนามัยโลก พบว่า โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงวัย 50 ปีขึ้นไปมีช่วงอายุยาวขึ้น 3.5 ปี ในช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมา
-
หากผู้ป่วยโรคหัวใจ ได้รับประทานยาเพียงมื้อละเม็ด พวกเค้าจะทานยานี้ต่อไปตามที่หมอสั่ง
หากผู้ป่วยโรคหัวใจ ได้รับประทานยาเพียงมื้อละเม็ด พวกเค้าจะทานยานี้ต่อไปตามที่หมอสั่ง ผู้ป่วยหลายคนที่เป็นโรคหัวใจหรือป่วยด้วยอาการสมองขาดเลือดหล่อเลี้ยงเพราะเส้นเลือดอุดตันจากคอเลสเตอรอล มักไม่รับประทานยาเป็นประจำตามคำสั่งแพทย์โดยผู้ป่วยจำนวนมากเลิกรับประทานยาภายในเวลาสามเดือนหลังจากล้มป่วยเนื่องจากต้องรับประทานยาครั้งละหลายเม็ด ผู้ป่วยหลายคนที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจหรือเสี่ยงที่จะเกิดอาการสมองขาดเลือดหล่อเลี้ยงอาจต้องรับประทานยามื้อละหลายเม็ด ยาเเต่ละเม็ดมีคุณสมบัติต่างกันไป อาทิ เพื่อลดความดันโลหิต บางเม็ดช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และบางคนอาจต้องรับประทานยาช่วยป้องกันหัวใจวายร่วมด้วย ด็อกเตอร์ทอมเป็นหัวหน้าการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในกลุ่มผู้ป่วยมากกว่าสองพันคน เกือบ 90 % ของผู้ป่วยในการวิจัยล้มป่วยด้วยอาการสมองขาดเลือดไปหล่อเลี้ยงหรือเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ อีกสิบเปอร์เซ็นต์มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะล้มป่วยด้วยอาการทั้งสองอย่างดังกล่าว ครึ่งหนึ่ีงของผู้เข้าร่วมการวิจัยได้รับยาเเบบเม็ดเดียวเรียกว่า โพลีพิล (Polypill) ในการลดระดับคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิตสูงและป้องกันอาการหัวใจวาย ในขณะที่ผู้เข้าร่วมการวิจัยที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งต้องรับประทานยาแบบหลายเม็ดต่อไป ด็อกเตอร์ทอม กล่าวว่าผลการวิจัยที่ได้แสดงให้เห็นผลดีของยารักษาแบบเม็ดเดียวหรือโพลีพิล การทดลองใช้ยาบำบัดเเบบโพลีพิลมีผลดีโดยเฉพาะต่อผู้ป่วยโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดที่ไม่รับประทานยาตามกำหนด ด็อกเตอร์ทอม กล่าวปิดท้ายว่า ยาโพลีพิลจะมีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาผู้ป่วยไม่รับประทานยาตามคำสั่งแพทย์และช่วยให้การบำบัดโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะในการศึกษาพบว่าผู้ป่วยที่ได้ประโยชน์จากยาขนานนี้มากที่สุดคือผู้ป่วยที่มักไม่รับประทานยาแบบหลายเม็ดตามคำสั่งแพทย์ตั้งแต่ในช่วงต้นๆของการทดลองรักษา