Tag: เลือดจาง
-
โรคเลือดจางกรรมพันธุ์หรือโรคธาลัสซีเมีย
โรคเลือดจางกรรมพันธุ์หรือโรคธาลัสซีเมีย โรคธาลัสซีเมียหรือเลือดจางทางกรรมพันธุ์ จะทำให้ผู้ป่วย มีลักษณะที่มองดูภายนอกคล้ายกันไปหมด ก็คือ มีหน้าผากโหนก ดั้งจมูกแบน ฟันบนเหยิน หัวโต ตาเหลืองและตัวแคระแกร็น เด็กที่เกิดขึ้นใหม่อาจเป็นได้โดยพ่อกับแม่ไม่ต้องรู้ล่วงหน้ามาก่อนเลยว่าตนเองมีกรรมพันธุ์ชนิดนี้อยู่ ในประเทศไทยเองก็มีอัตราผู้ป่วยเป็นโรคนี้สูง โดยเฉลี่ยมีเด็กเกิดใหม่เป็นโรคนี้เกิดมาราวชั่วโมงละ 2 คนเลยทีเดียว โรคธาลัสซีเมียนี้เป็นความผิดปกของยีนที่ควบคุมการสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ทำให้เม็ดเลือดแดงมีอายุสั้นกว่าปกติ แบ่งออกได้เป็นสองแบบก็คือ – แบบที่เป็นโรค ผู้ป่วยจะซีดเรื้อรังเนื่องจากเม็ดเลือดแดงถูกม้ายจับทำลายและเม็ดเลือดแดงมีอายุสั้น มีอาการที่มากหรือน้อยแตกต่างกันขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ที่ได้รับมาจากพ่อแม่ หากรุนแรงอาจตายได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์หรือหลังคลอดไม่เกิน 1 วัน ขณะที่แม่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนเช่น ครรภ์เป็นพิษได้ โรคธาลัสซีเมียแบบรุนแรงจะสังเกตอาการได้ชัดเจนตั้งแต่อายุ 3-6 เดือน เด็กจะเลี้ยงยาก งอแง ป่วยบ่อย อ่อนเพลีย ท้องป่องเนื่องจากม้ามโต และซีดมากต้องได้รับเลือด ในส่วนของเด็กที่ป่วยในระยะปานกลางและรุนแรงไม่มาก จะมีอาการซีดมากเมื่อมีไข้ ซึ่งผู้ป่วยชนิดนี้จะมีประมาณร้อยละ 1 หรือราวหกแสนกว่าคนในประเทศไทย รักษาไม่หาย นอกจากการปลูกถ่ายไขกระดูกซึ่งยุ่งยากซับซ้อนและมีข้อกำจัดกมากมาย การรักษาจึงเป็นการรักษาตามอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น ให้เลือด ให้ยาขับเหล็กหรือผ่าตัดม้าม เป็นต้น – แบบที่เป็นพาหะแฝง หรือคนที่มีกรรมพันธุ์โรคนี้ในตัวแต่สภาพร่างกายปกติดี แข็งแรงดี แต่จะถ่ายทอดกรรมพันธุ์นี้ไปสู่ลูกได้ ซึ่งคนไทยเป็นพาหะธาลัสซีเมียมากเป็นอันดับหนึ่งในโลก…
-
ดูแลตัวเอง…ไม่ให้หน้ามืดวิงเวียนบ่อย ๆ
ดูแลตัวเอง…ไม่ให้หน้ามืดวิงเวียนบ่อย ๆ โดยทั่วไปแล้วความดันปกติของคนเราจะอยู่ที่ 90 – 130 (ตัวบน) / 60 – 90 (ตัวล่าง) มิลลิเมตรปรอท แต่ถ้ามีค่าความดันโลหิตต่ำกว่า 90 / 60 ก็ถือว่าเป็นผู้ที่มีอาการความดันโลหิตต่ำค่ะ ซึ่งเกิดจากจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ การขาดสารน้ำจากการเสียเหงื่อมาก ท้องเสีย เสียเลือด หรือความอ่อนแอจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ เลือดจาง ฯลฯ โดยบางรายอาจไม่จำเป็นต้องแสดงอาการออกมา แต่บางรายก็มักมีอาการอ่อนเพลียหน้ามืด มึนงง เวลาลุกนั่งหรือเวลายืน หรือเวลาเปลี่ยนท่าเร็ว พาลจะทำให้เป็นลมได้ หากมีอาการเรื้อรัง กับมีอาการดังต่อไปนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น เจ็บหน้าอกรุนแรง ท้องเสียหรือปวดท้องอย่างมาก อาเจียนมาก ถ่ายเป็นสีดำ ใจสั่น ชีพจรเต้นเร็ว เหงื่อแตก ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน แต่หากไม่ได้มีอาการดังกล่าวเป็นแต่เพียงอาการหน้ามืด วิงเวียนบ่อย ๆ เท่านั้นก็ควรดูแลตัวเองด้วยการปฏิบัติดังต่อไปนี้ค่ะ – เวลาเปลี่ยนท่าให้ค่อย ๆ ลุก เช่น หากตื่นนอนควรค่อย ๆ นั่งก่อนสักครู่แล้วจึงค่อยลุกขึ้นยืน…