Tag: เดิน
-
อยากสุขภาพดี.. ต้องทำเอาเองตั้งแต่วันนี้
อยากสุขภาพดี.. ต้องทำเอาเองตั้งแต่วันนี้ การมีสุขภาพที่ดีนั้นความจริงเป็นเรื่องที่ไม่ต้องพึ่งพาเงินทองเลยนะคะ เป็นเรื่องที่ควรปฏิบัติให้เป็นกิจวัตรเสียด้วยซ้ำไป ซึ่งกิจกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพให้ดีได้ก็คือ “การออกกำลังกาย” นั่นเองค่ะ การออกกำลังกายนี้ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เหนื่อยอ่อนง่าย ดูอ่อนเยาว์กว่าเดิม ทำให้ระบบอวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้ดี ช่วยย่อยอาหาร ช่วยระบบขับถ่าย ทำให้การไหลเวียนของเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจทำงานได้ดี ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ ลดความเครียดทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น บรรเทาอาการซึมเศร้าได้ เยือกเย็นมั่นคงมากขึ้น มีความเชื่อมั่นใจตนเอง และกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งการออกกำลังกายที่ประหยัดที่สุดก็คือการวิ่ง (หรือการเดิน) เพราะทำให้ร่างกายได้แข็งแรงแทบทุกส่วน สิ้นเปลืองเงินทองน้อยที่สุด แล้วยังทำให้ปอดได้รับอากาศบริสุทธิด้วย สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายหรือไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ควรเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนดังต่อไปนี้ – วางแผนการวิ่งหรือการเดินก่อน ว่าวันนี้จะวิ่งกี่นาที ระยะทางกี่กิโลเมตร – เตรียมเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ระบายเหงื่อและความร้อนได้ดี และรองเท้าที่สามารถรับแรงกระแทกได้ – ก่อนการลงสนามควรวอร์มอัพก่อนสักห้านาที เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ข้อต่อต่าง ๆ ให้พร้อมกับการเคลื่อนไหว – ท่าวิ่งที่ถูกต้องคือต้องตั้งลำตัวให้ตรง หลังไม่งอ ไม่เกร็ง เป็นธรรมชาติ วิ่งน้ำหนักลงที่ส้นเท้าก่อนแล้วถ่ายไปที่ ปลายเท้าอย่างนุ่มนวล ถ้าวิ่งจิกปลายเท้าจะเจ็บหน้าแข้งและหัวเข่า กำมือไว้หลวม ๆ แกว่งแขนช้าเร็วให้สมดุลกับจังหวะเท้า…
-
มาเดินเร็วเพื่อสุขภาพกันเถอะ
มาเดินเร็วเพื่อสุขภาพกันเถอะ การเดินนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็นสามระยะด้วยกันก็คือ… – เดินช้า ๆ ก็คือการเดินแบบสบาย ๆ เดินช้อปปิ้ง เดินชมนกชมไม้ เดินเล่นในสวนสาธารณะ ยังสามารถพูดคุยได้ตามปกติ หรือเดินร้องเพลงได้ – เดินเร็ว จะมีอัตราการเดินของคนปกติอยู่ที่ปราว 400-700 เมตรในเวลา 6 นาที เดินเร็วจะร้องเพลงหรือผิวปาก ฮัมเพลงไม่ได้แล้ว หากยังทำได้แสดงว่าเดินช้าไป แต่ถ้าเดินเร็วมากจนพูดไม่รู้เรื่องแล้วนั่นคือเร็วเกิน – เดินแข่ง เป็นการเดินเพื่อการแข่งขัน จะเดินจนพูดไม่เป็นคำ พูดไม่รู้เรื่อง หอบเหนื่อย หายใจไม่ทัน เป็นกิจกรรมสำหรับสร้างความแข็งแรง ยืดหยุ่น ทนทานให้ร่างกาย เพื่อป้องกันหรือรักษาโรคด้วย ซึ่งการเดินที่จะแนะนำในวันนี้ก็คือแบบที่สองนั่นเองค่ะ ควรเดินให้ได้ครั้งละ 10 นาที ในหนึ่งวันรวมให้ได้ 30 นาที และสัปดาห์ละ 5 วันขึ้นไปจึงจะเห็นผล มีประโยชน์มากต่อร่างกายเพราะช่วยควบคุมน้ำหนัก ควบคุมไขมัน คอเลสเตอรอล ป้องกันและลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ป้องกันกระดูกพรุนกระดูกบาง เพื่อความแข็งแกร่งทนทานของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังลดการเกิดโรคเบาหวานและอัตราการเป็นมะเร็งได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม…