Tag: เซลล์มะเร็ง
-
สัญญาณอันตรายที่บอกว่าคุณอาจเป็นโรคมะเร็ง
สัญญาณอันตรายที่บอกว่าคุณอาจเป็นโรคมะเร็ง นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นคนมา สถิติคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเป็นอันดับที่หนึ่ง แล้วก็ยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากทุกปีด้วย แม้บางคนจะเชื่อว่าโรคนี้เป็นโรคกรรมเวรอะไรก็ไม่รู้ได้ แต่ความจริงแล้วโรคนี้มีบ่อเกิดมาจากการพฤติกรรมของตนเองทั้งสิ้น หากไม่อยากเป็นมะเร็งแล้ว กระทรวงสาธารณสุขได้แนะนำให้ปฏิบัติตัวดังนี้คือ หมั่นออกกำลังหายเป็นประจำ ทำจิตใจให้สบาย สดใสเสมอ ทานผักและผลไม้สดให้มาก รับประทานอาหารให้มีความหลากหลาย และพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายทุกปี นอกจากนี้ยังควรงดเว้นพฤติกรรมที่อาจทำให้เป็นบ่อเกิดของมะเร็งด้วย ได้แก่การงดเว้นการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา มั่วเซ็กซ์ ไม่ออกแดดจัด และไม่กินปลาน้ำจืด หอย หรือสัตว์น้ำจืดดิบ ๆ ด้วย ควรสังเกตความผิดปกติของร่างกายตัวเองไว้ หากมีสัญญาเตือนอย่างใดอย่างหนึ่งในเจ็ดข้อนี้แล้วควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจให้ละเอียด หากพบว่าเป็นมะเร็งจะสามารถตรวจรักษาหายได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ 1. มีการขับถ่ายที่ผิดปกติหรือเปลี่ยนแปรไปจากเดิม 2. เป็นแผลไม่ยอมหาย 3. ร่างกายมีตุ่ม มีก้อน ขึ้นมา 4. กลืนอาหารไม่ได้หรือกลืนได้ลำบาก 5. ตามทวารต่างๆ มีเลือดไหลออกมา 6. ไฝหรือหูดที่มีอยู่เดิม มีลักษณะเปลี่ยนไป 7. เสียงแหบเรื้อรัง ไอไม่ยอมหาย คนเราทุกคนนั้นมีเซลล์มะเร็งอยู่ในร่างกายอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นมาได้เมื่อไร หากเมื่อใดที่ร่างกายแข็งแรงพอ เซลล์มะเร็งก็จะถูกทำลายไปเอง การเป็นมะเร็งนั้นจึงเป็นสัญญาณเตือนบอกว่าคน ๆ…
-
“ขมิ้นชัน” สมุนไพรป้องกันมะเร็ง
“ขมิ้นชัน” สมุนไพรป้องกันมะเร็ง ในขณะที่ความสะดวกสบายทันสมัยของโลกกำลังก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อย ๆ โรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็งกลับกลายเป็นภัยคุกคามมนุษยชาติ มากยิ่งกว่าในยุคไหน ๆ แต่อย่างไรก็ดี ยังโชคดีที่คนไทยเรายังมีสมุนไพรอยู่ชนิดหนึ่ง ที่หาทานได้ง่าย และเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่ใช้กันมาช้านานที่อาจจะเป็นความหวังใหม่ในการรักษาโรคมะเร็ง สมุนไพรชนิดนั้นก็คือ “ขมิ้นชัน” นั่นเองค่ะ ขมิ้นชันมีสารที่ช่วยยับยั้งการสร้างหลอดเลือดใหม่ที่ไปหล่อเลี้ยงเซลล์มะเร็ง ช่วยยับยั้งการแบ่งตัว และทำให้กลไกที่ทำให้เซลล์ตายเป็นปกติ จึงช่วยหยุดยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างภูมิต้านทานให้กับผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยคีโม ทำให้การฉายรังสีมีประสิทธิภาพดีขึ้น โดยขมิ้นชันช่วยให้เซลล์มะเร็งไวต่อการฉายรังสี และช่วยป้องกันเซลล์ปกติมิให้ถูกรังสีทำลายได้ในเวลาเดียวกัน อีกทั้งการกินขมิ้นชันยังไม่มีผลข้างเคียง ไม่มีความเป็นพิษต่อร่างกายอีกด้วย แต่ขมิ้นชันเองก็ต้องมีข้อควรระวังในการใช้งานเช่นกัน 1. ผู้ป่วยที่มีอาการท่อน้ำดีอุดตันไม่ควรกินขมิ้นชัน เพราะอาจทำให้น้ำดีหลั่งออกมาแล้วตกตะกอนในถุงน้ำดี ยิ่งทำให้อุดตันมากขึ้นและปวดขึ้นด้วย แต่หากเป็นคนปกติทานจะกระตุ้นการหลั่งน้ำดีป้องกันการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้ 2. ผู้ป่วยที่ได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือดเช่น ยาวาร์ฟาริน จะเสริมฤทธิ์กันทำให้เลือดออกมากกว่าเดิม จึงไม่ควรทานขมิ้นชัน อย่างไรก็ดี ขมิ้นชันก็ไม่ใช่ยารักษาโรคมะเร็ง ไม่พบความเป็นพิษและสามารถปลูกได้ทั่วประเทศ แม้จะทานเข้าไปก็ไม่ก่อให้เกิดผลเสีย หากคนไทยหันมากินขมิ้นชันมากขึ้นก็จะช่วยต้านทานการก่อกำเนิดของเซลล์มะเร็งได้ จึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายในระยะยาว
-
สรรพคุณมากคุณค่าของเห็ดหลากหลายชนิด
สรรพคุณมากคุณค่าของเห็ดหลากหลายชนิด ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเห็ด พืชที่ชอบขึ้นตามขอนไม้และที่ชื้นแฉะทั้งหลาย มีหลายสายพันธุ์ที่เป็นพิษ แต่ก็มีอีกหลายชนิดที่สามารถนำมาทานได้ และสามารถเพาะพันธุ์ขายได้ด้วย มาดูกันดีกว่าค่ะว่าเห็ดแต่ละชนิดที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้ให้คุณค่าต่อร่างกายอย่างไรกันบ้าง – เห็ดชิตาเกะ หรือเห็ดหอม เป็นยาทางแพทย์แผนจีน รักษาโรคได้หลากหลายชนิด ป้องกันเชื้อไวรัสและการก่อกำเนิดของเซลล์มะเร็งได้ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ให้กรดอะมิโน ให้วิตามินบี 1 บี 2 และวิตามินดีสูง บำรุงกระดูก มีปริมาณของโซเดียมต่ำจึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคไต ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง ลดกรดในกระเพาะอาหาร บรรเทาหวัดได้ – เห็ดหลินจือ มีคุณสมบัติช่วยต้านมะเร็ง โดยประเทศญี่ปุ่นมักใช้ควบคู่กับการรักษาโรคมะเร็งและโรคชรา เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น – เห็ดหูหนู ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้เม็ดเลือดขาว เพิ่มภูมิต้านทาน รักษาโรคกระเพาะและริดสีดวง บำรุงไตและปอด – เห็ดแชมปิญอง หรือเห็ดกระดุม ช่วยป้องกันและต้านทานมะเร็งเต้านมได้ ช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนได้น้อยลง จึงลดโอกาสการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมให้น้อยลงตามไปด้วยนั่นเอง – เห็ดนางฟ้า เห็ดนางรม และเห็ดเป๋าฮื้อ เป็นเห็ดในตระกูลเดียวกัน เชื่อว่าป้องกันโรคไข้หวัด ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต และบรรเทาอาการโรคกระเพาะได้ –…
-
น้ำมันแต่ละชนิด มีคุณค่าต่อร่างกายอย่างไรบ้าง?
น้ำมันแต่ละชนิด มีคุณค่าต่อร่างกายอย่างไรบ้าง? เดี๋ยวนี้น้ำมันสำหรับปรุงอาหารมีให้เลือกมากมายหลายชนิดเลยนะคะ ซึ่งการเลือกซื้อมาปรุงอาหารบริโภคเนี่ยก็ควรศึกษาให้ดีก่อนค่ะว่าน้ำมันแต่ละชนิดนั้นเหมาะสำหรับทำอาหารชนิดใด ความร้อนในระดับใด และมีประโยชน์อย่างไรต่อร่างกายด้วย วันนี้เราจะมาเรียนรู้ไปด้วยกันค่ะ – น้ำมันมะกอก เป็นน้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวเชิงเดียวมากที่สุด จึงช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยยับยั้งการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง มีวิตามินเอ และเบต้าแคโรทีนสูง ทำให้ผิวหนังอ่อนเยาว์ ยืดหยุ่นตัวได้ดี ลดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ แต่ก็มีจุดเกิดควันที่ต่ำ จึงเหมาะสำหรับเป็นน้ำมันสลัด ไม่เหมาะสำหรับการทอด หรืออาหารที่ต้องผ่านความร้อน และมีราคาค่อนข้างสูงกว่าน้ำมันชนิดอื่น ๆ – น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน อุดมไปด้วยกรดไลโนเลอิก ช่วยลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ได้ มีวิตามินอีสูงด้วย จึงช่วยในเรื่องของผิวพรรณ แต่เมื่อโดนความร้อนจะเกิดอนุมูลอิสระได้ง่าย จึงเหมาะสำหรับการผัดอาหารที่ใช้ความร้อนเพียงปานกลาง – น้ำมันรำข้าว เป็นน้ำมันที่มีคุณสมบัติคล้ายน้ำมันมะกอก แต่มีราคาไม่แพง มีสารโอรีซานอลมากซึ่งไม่พบในน้ำมันพืชนิดอื่นนัก ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และลดระดับของคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยปรับสมดุลในสตรีวัยทองได้ดี – น้ำมันปาล์ม อุดมไปด้วยวิตามินอีและเป็นน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวในระดับปานกลาง ทนความร้อนสูงได้มากกว่าน้ำมันชนิดอื่นจึงเหมาะสำหรับการทอดที่สุด แต่มีกรดไขมันอิ่มตัวและกรดไลโนเลอิกต่ำกว่าน้ำมันพืชชนิดอื่น ๆ อาจทำให้คอเลสเตอรอลสูงได้ – น้ำมันงา มีสารเซซามอลที่มีสรรพคุณช่วยชะลอความชรา ลดความดันโลหิตและการแพร่การจายตัวของเซลล์มะเร็งได้ ป้องกันโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดหัวใจ บรรเทาอาการท้องผูกได้ด้วย
-
ป้องกันมะเร็งแบบไม่ยาก ทำตามได้ทุกคน
—
by
ป้องกันมะเร็งแบบไม่ยาก ทำตามได้ทุกคน โรคมะเร็งเป็นโรคที่ใคร ๆ ก็หวาดผวา เพราะอาการของโรคจะสร้างความเจ็บปวดทรมานมาก ลุกลามไปอวัยวะอื่น ๆ ได้ และมักคิดกันว่าคงรักษาไม่หาย รอวันตายอย่างเดียว แต่ความจริงแล้วมะเร็งบางโรคสามารถป้องกันได้และรักษาให้หายขาดได้หากพบตั้งแต่ในระยะแรก ๆ วันนี้จึงขอนำเอาวิธีการป้องกันมะเร็งแบบไม่ฝาก แบบที่สามารถทำตามได้ทุกคนมาฝากกันนะคะ 1. หมั่นตรวจร่างกายบ่อย ๆ สำคัญมาก แม้จะแข็งแรงอยู่แล้ว เพราะคนที่พบว่าตนเองเป็นมะเร็งแล้วต้องตายหรือรักษาไม่ได้นั้นมักเป็นเพราะว่า ผู้นั้นมักตรวจพบว่าตนเป็นมะเร็งในระยะรุนแรงแล้ว ซึ่งตลอดมาก็วินิจฉัยโรคเอง ซื้อยากินเอง อาการเตือนเหล่านี้หากไม่ได้รับการวินิจฉัยให้ละเอียดก็ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคอื่น ๆ ได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรตรวจสุขภาพทุกปี และในระหว่างนั้นหากมีสิ่งผิดปกติอื่น ๆ ตามร่างกายเช่น มีตุ่มมีเนื้องอก หรือมีเลือดออก ฯลฯ ควรรีบไปตรวจเลยนะคะ 2. เลือกทานอาหารที่ช่วยต้านทานเซลล์มะเร็งได้ ซึ่งได้แก่ ผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระได้ ไม่ว่าจะเป็นผักคะน้า กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก มะเขือเทศ กระเทียม หัวหอม ขึ้นฉ่าย ผักโขม หัวหอม ผักโขม แอปเปิ้ล แครอท ฯลฯ, ดื่มชาเขียวที่มีสารคาเตชินและสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย, น้ำสะอาด ๆ…
-
จิตสดใส ใจสบาย ป้องกันโรคมะเร็งได้ด้วย
จิตสดใส ใจสบาย ป้องกันโรคมะเร็งได้ด้วย โรคมะเร็งเป็นโรคที่คนส่วนใหญ่คิดว่าต้องทุกข์ทรมานและมีอัตราการตายสูง นับวันยิ่งมีโรคมะเร็งเกิดขึ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสาเหตุเกิดได้หลายปัจจัย ไม่ว่าจะอาหาร อากาศ มลพิษต่าง ๆ กรรมพันธุ์ และความเครียด ที่อยู่ในใจ รวมไปถึงอารมณ์แง่ลบต่าง ๆ นั้น เช่น อารมณ์โกรธ ความเกลียดชัง หงุดหงิด ความโลภ ความริษยา ฯลฯ เหล่านี้ล้วนมีผลต่อสุขภาพ และเป็นบ่อเกิดของโรคมะเร็งได้ทั้งสิ้น นั่นเป็นเพราะว่าระบบของร่างกายทุกระบบเชื่อมโยงกันหมด จิตใจที่ดี มีความสบายใจปราศจากอารมณ์แง่ลบจะป้องกันโรคร้ายได้ มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันมากขึ้น ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น เมื่อเจ็บป่วยก็จะหายได้เร็วกว่าคนที่เอาแต่เคร่งเครียด ท้อแท้ โกรธเกรี้ยว สิ้นหวัง จากการวิจัยพบว่าเมื่อร่างกายมีความเคร่งเครียดระบบเส้นเลือดฝอยจะมีขนาดเล็กลง เนื่องจากระบบประสาทซิมพาเทติกถูกกระตุ้น ต่อมไทมัสและต่อมน้ำเหลืองต่าง ๆ จะลดความไวลงไปโดยอัตโนมัติ ผู้ที่มีความเครียดเป็นเวลายาวนานจะทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลมีปริมาณสูงจนผิดปกติ ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งมากขึ้น หากผู้ป่วยมะเร็งนั้นมีจิตใจท้อแท้ สิ้นหวัง ก็ทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอลง โรคจะลุกลามได้ง่ายขึ้นไปอีก ในทางตะวันตกนั้น จะให้ความสำคัญในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยการดูแลในด้านจิตใจ ฝึกฝนให้ผู้ป่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเพื่อลดความเจ็บป่วย ฝึกการสร้างจินตภาพเพื่อเพิ่มการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว และขจัดเซลล์มะเร็งได้ นำเอาธรรมะของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติ ช่วยปรับจิตปรับใจของผู้ป่วยให้หายเจ็บปวดได้ด้วยการรู้เท่ากันอารมณ์ขุ่นมัว ลดความโกรธ ความเครียด…
-
ปรับวิถีชีวิตพิชิตมะเร็งร้าย
ปรับวิถีชีวิตพิชิตมะเร็งร้าย เดี๋ยวนี้เราต้องยอมรับกันแล้วล่ะค่ะว่า โรคมะเร็งนั้น เกิดจากวิถีชีวิตในปัจจุบันของเราเองที่ทำให้เกิดโรคขึ้นมาเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นความเครียด ความเร่งรีบ ทานแต่อาหารสำเร็จรูป พักผ่อนไม่เป็นเวลา อีกทั้งการอยู่ท่ามกลางมลพิษต่าง ๆ อย่างเลือกไม่ได้อีก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมอัตราการเป็นมะเร็งของคนไทยจึงพุ่งสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ทุกปี แต่หากเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสมกับสุขภาพในระยะยาว รวมทั้งได้รับคำแนะนำจากแพทย์อย่างเสม่ำเสมอแล้วก็เชื่อได้ว่า สุขภาพที่แข็งแรงของคุณจะพิชิตมะเร็งร้ายได้แน่นอน ซึ่งการปรับรูปแบบวิถีชีวิตนั้น ๆ ได้แก่ – ทานอาหารเน้นไปที่การทานผักและผลไม้ และต้องคละกันไปหลากสีสันในทุกวัน รวมไปถึงบรรดาธัญพืชไม่ขัดสี ถั่วต่าง ๆ โดยทุกมื้อต้อมีอาหารเหล่านี้เป็นสัดส่วน 2 ใน 3 อีก 1 ใน 3 นั้นเป็นโปรตีนที่มีไขมันต่ำ – หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและเกลือมาก – เลือกใช้สมุนไพรและเครื่องเทศในการปรุงแต่งกลิ่นรส เช่น กระเทียม กระเพราะ ขมิ้น มะนาว – ทานไขมันดีๆ จากน้ำมันมะกอก น้ำมันดอกคาร์โนล่า และกรดไขมันโอเมก้าสาม – ทานมังสวิรัติหรืออาหารที่ปลอดเนื้อสัตว์อย่างน้อยสัปดาห์ละ สามมื้อ เช่น ผัดเต้าหู้ ต้มยำเห็ด…
-
ใส่ใจกับอาหาร ต้านมะเร็งได้ผลนะ
ใส่ใจกับอาหาร ต้านมะเร็งได้ผลนะ ในปัจจุบันมีแนวโน้มการป่วยและตายด้วยโรคมะเร็งสูงขึ้นแบบยั้งไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ ในจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดนั้นกว่าครึ่งคือผู้สูงอายุ ที่เซลล์มะเร็งค่อย ๆ ก่อตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และกว่าจะพบว่าตนเองเป็นมะเร็งก็มักจะอยู่ในระยะลุมลามที่ยากจะรักษาให้หายขาดได้แล้ว ทั้งที่โรคมะเร็งนั้นหากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มแรกมีโอกาสที่จะรักษาให้หายได้ถึงร้อย 80 เลยทีเดียว ดังนั้นเราทุกคนจึงควรตรวจสุขภาพประจำปีไว้เพื่อหาความผิดปกติของร่างกาย เพื่อป้องกันโรคร้ายไว้แต่เนิ่น ๆ รวมไปถึงการใส่ใจเลือกอาหารการกินก็สามารถต้านมะเร็งได้อีกทางหนึ่งด้วยนะ – ทานอาหารที่มีเส้นใยอาหารให้มากเข้าไว้ ไม่ว่าจะเป็นผักสด ผลไม้สดต่าง ๆ รวมไปถึงข้าวกล้อง ข้าวโพด ธัญพืช โฮลเกรน ฯลฯ เหล่านี้ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ – ผักและผลไม้สีเขียว มีเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอสูง ป้องกันมะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกล่องเสียงและมะเร็งปอดได้ รวมไปถึงผักและผลไม้รสเปรี้ยวที่มีวิตามินซีมาก ๆ ช่วยป้องกันมะเร็งหลอดอาหารและกระเพาะอาหารได้อีกทางหนึ่ง – ทานผักตระกูลกะหล่ำให้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น คะน้า กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี หัวผักกาด เหล่านี้ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งลำไส้ส่วนปลาย มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งในอวัยวะทางเดินหายใจทั้งหมด นอกจากอาหารที่ควรทานแล้วยังมีอาหารบางประเภทที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันมะเร็งด้วยนะ – อาหารที่ขึ้นรา ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งตับ – อาหารที่มีไขมันสูง เพราะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งต่อมลูกหมาก…
-
แนวทางการรักษา…โรคมะเร็งแบบผสมผสาน
แนวทางการรักษา…โรคมะเร็งแบบผสมผสาน เพราะบนโลกนี้นั้นจะมีผู้เสียชีวิตเพราะโรคมะเร็งกันนาทีละเกือบ 10 คนเลยนะคะ อีกทั้งจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย จนตอนนี้ก็กลายเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของคนไทยไปแล้ว เมื่อผู้ป่วยทราบว่าตนเองหรือญาติสนิทเป็นมะเร็ง มักจะมีอาการสับสนและกระวนกระวาย พร้อมกับตื่นตระหนัก เพราะเข้าใจว่าโรคมะเร็งนั้นเป็นแล้วรักษาไม่หาย การมีชีวิตที่เหลือจึงอยู่อย่างสิ้นหวัง แต่ความจริงแล้วปัจจุบันนี้โรคมะเร็งสามารถวินิจฉัยด้วยการตรวจสุขภาพและการตรวจเองที่บ้านได้แล้ว เช่น มะเร็งเต้านม ฯลฯ และเมื่อตรวจพบแล้วก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ โรคมะเร็งบางชนิดนั้นอาจมีวิธีการรักษาหลาย ๆ วิธีรวมกันซึ่งจะช่วยยืดอายุออกไปได้ แต่ก็มีอยู่บ้างชนิดที่รักษาไม่ได้หรือให้ผลการรักษาที่ไม่ดี ดังนั้นจึงเกิดการค้นคว้าศึกษาเพื่อหาวิธีใหม่ ๆ ในการรักษาโรคมะเร็ง เพื่อให้ได้ผลที่ดีและมีผลข้างเคียงที่น้อยที่สุดอย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลบางแห่งจึงเลือกใช้เทคนิคการแพทย์แบบองค์รวม หรือ Holistic Medicine มาดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง ได้แก่การนำเอาการแพทย์แผนปัจจุบัน ทั้งการผ่าตัด การทำเคมีบำบัด การฉายรังสี เข้ามาร่วมกับการแพทย์ทางเลือก เช่น การใช้สมุนไพรเป็นต้น เพราะวิธีทางการแพทย์แผนปัจจุบันมีความสามารถในการทำลายก้อนมะเร็งสูงมากแต่ก็ทำลายเซลล์ปกติ ไปด้วย นั่นจึงทำให้เกิดผลข้างเคียงมากมาย การนำเอาแพทย์ทางเลือกมาช่วยเสริมประสิทธิภาพการรักษายังทำให้อาการดีขึ้นแล้วยังลดความทรมานจากผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ได้อีก ทำให้ผุ้ช่วยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นช่วยการรักษาเป็นไปอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่ต้องหยุดหรือเลื่อนการรักษา รวมไปถึงผู้ป่วยที่ไม่ต้องการรักษาตามแผนปัจจุบันยังสามารถรับยาหรือรักษาแบบเสริมเข้าไปช่วยได้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ดี สมุนไพรรักษาโรคมะเร็งก็มีข้อเสียตรงที่ออกฤทธิ์ช้าจึงไม่เห็นผลในทันที แต่ไม่มีผลกระทบต่อร่างกาย การรักษาโรคมะเร็งจึงควรใช้ทั้งสองแผนนี้ควบคู่กันไปจึงจะทำให้ประสิทธิภาพการรักษาที่สูงสุด ดังนั้นการรักษาโรคมะเร็งจึงควรใช้การแพทย์ทั้งสองแบบควบคู่กันไป และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก้คือคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย เพราะแม้การแพทย์แผนปัจจุบันจะมีประสิทธิภาพในการรักษาสูงมากแต่ก็มีผลข้างเคียงที่ทำให้เจ็บปวดทั้งกายใจกับผู้ป่วยไม่น้อยเลย การฟื้นฟูภูมิคุ้มกัน และจิตใจไปด้วยจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน เพื่อให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งสามารถทนต่ออาการข้างเคียงของการรักษาที่รุนแรงได้…
-
ใช้ชีวิตอย่างไร…ห่างไกลมะเร็งร้าย
ใช้ชีวิตอย่างไร…ห่างไกลมะเร็งร้าย คุณทราบหรือไม่คะว่า หากเราบริหารจัดการวิถีการใช้ชีวิตให้ดีแล้ว จะสามารถป้องกันการเป็นโรคมะเร็งได้ถึงร้อยละ 30-40 เชียวนะคะ แล้วยังสามารถป้องกันโรคอื่น ๆ ที่ร้ายแรงได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ อาการไขมันในเส้นเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ตลอดจนโรคกระดูกพรุนได้ด้วย วันนี้มาดูคำแนะนำในการใช้ชีวิตเพื่อให้ห่างไกลจากมะเร็งกันนะคะ 1. คุณควรเลิกบุหรี่ เพราะคุณทราบหรือไม่คะว่าหากคุณสูบบุหรี่มากกว่า 1 ซอง หรือ 20 มวนต่อวันเป็นเวลา 10 ปีนั้น คุณจะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า! เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ และหากคุณสูบอยู่แล้วเกิดอยากเลิกขึ้นมาก็สามารถป้องกันโรคมะเร็งได้ถึงร้อยละ 60 การสูบบุหรี่ไม่ได้เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปอดอย่างเดียว แต่ยังเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ หรือโรคถุงลมโป่งพองได้อีกด้วย 2. คุณควรเลิกดื่มสุรา หรือหากจำเป็นต้องดื่มเพื่อเข้าสังคมก็จำกัดไว้แค่วันละไม่เกิน 1 แก้ว ผู้ที่ดื่มสุรามากกว่า 3 แก้วต่อวันจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นถึงเกือบสิบเท่าเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่ม แต่ถ้าคุณยังไม่เลิกดื่มแล้วยังสูบบุหรี่มากกว่าวันละ 1 ซองอีก ก็จะเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งมากขึ้นเป็น 50 เท่าเลยทีเดียว! น่ากลัวเอามาก ๆ ค่ะ 3. คุณควรปรับพฤติกรรมการกิน ดังต่อไปนี้…