Tag: เชื้อรา
-
ตกขาว…เรื่องที่สาว ๆ กังวลกัน
ตกขาว…เรื่องที่สาว ๆ กังวลกัน ตกขาว หรือระดูขาว นั้นเป็นสารที่ผู้หญิงขับออกมาจากช่องคลอด ไม่ใช่รอบเดือน โดยลักษณะของตกขาวนั้นจะบอกได้ถึงสุขภาพของอวัยวะซ่อนเร้นของผู้หญิงได้ด้วย ในผนังช่องคลอดของผู้หญิงจะมีเยื่อบุผิวที่คล้ายกับในช่องปากและจมูก เมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เยื่อบุนี้จะสร้างเมือกและความชื้นขึ้น โดยมีแบคทีเรียอาศัยอยู่ในบริเวณนี้เพื่อสร้างกรดแลคติกขึ้นมา ภายในจึงมีความเป็นกรดอ่อน ๆ ป้องกันเจริญโรคเจริญเติบโตได้ ช่องช่องจึงมีความชื้นตลอดเวลาผู้หญิงทุกคนจึงมีตกขาวเปื้อนติดชั้นในเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจะมีตกขาวมากกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นช่วงไข่ตก หรือช่วงกลาง ๆ ของรอบเดือน หรือขณะตั้งครรภ์ ฯลฯ ตกขาวปกติจะมีลักษณะเป็นมูกใสคล้ายแป้งเปียก ไม่มีกลิ่น ไม่คันด้วย ตกขาวที่ผิดปกตินั้นเกิดกว่าร้อยละ 90 เกิดจากการติดเชื้อ หากเป็นเชื้อแบคทีเรียจะมีตกขาวสีออกเหลืองหรือเยียว มีกลิ่นเหม็น ส่วนเชื้อราจะมีลักษณะคล้ายนมหรือยางมะละกอ หรือเป็นก้อนคล้ายเต้าหู้ มักมีอาการคันและมีผื่นแดงบริเวณปากช่องคลอด ส่วนตกขาวที่เกิดจากพยาธิจะมีสีออกเทาหรือเขียว และมีกลิ่นเหม็นคล้ายปลาเน่าหลังจากมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น ผู้ที่มีตกขาวหากพบว่ามีความผิดปกติควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย จะได้รักษาได้ถูกและควรทานยาอย่างเคร่งครัดไปตรวจตามนัดสม่ำเสมอ รักษาความสะอาดไว้ตอนเวลา โดยเฉพาะความอับชื้น ผู้ที่เป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อนั้น ควรรักษาระดับน้ำตาลเอาไว้ให้อยู่ในเกณฑ์ ผู้ที่มีสาเหตุการติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์ก็ควรรักษาคู่นอนของตนเองด้วย มิเช่นนั้นจะไม่หายขาด การป้องกันการติดเชื้อนั้นควรรักษาความสะอาดจุดซ่อนเร้น ควรเช็ดทำความสะอาดจากข้างหน้าไปข้างหลังและซับน้ำให้แห้งทุกครั้งหลังขับถ่าย ไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่แน่นเกินไป ควรสวมกางเกงในที่เป็นผ้าที่ระบายอากาศได้ดี แห้งไว หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยที่มีกลิ่นหอม หรือแผ่นอนามัยหอม หรือจะใช้ก็ไม่ควรใช้บ่อย ๆ…
-
ความแตกต่างของโรคกลากและโรคเกลื้อน
ความแตกต่างของโรคกลากและโรคเกลื้อน ทั้งโรคกลากและโรคเกลื้อนนั้นเป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราและเชื้อยีนส์ มิได้เป็นโรคทางพันธุกรรมแต่อย่างใด ลักษรของกลากนั้นจะเห็นเป็นวงแดง มีขุยเป็นขอบอยู่ด้านนอก หากเป็นตามลำตัวตัวเรียกว่ากลาก หากเป็นที่ขาหนีบเรียกสังคัง นอกจากนี้แล้วยังพบได้ที่ฝ่าเท้า ง่ามนิ้วเท้า ที่เล็บและหนังศีรษะได้ด้วย โรคกลากบางแห่งนั้นแค่ใช้ยาทาก็หาย เช่น กลากบนลำตัว แต่ต้องทาให้ครบตามที่ระบุไว้บนฉลากยา แต่หากเป็นกลากที่เล็บมือ เล็บเท้าแล้วอาจต้องกินยาด้วยหลายเดิน จึงควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยให้แน่ชัดว่าเป็นกลาก หรือเป็นโรคอื่นกันแน่ ซึ่งหากเป็นโรคอื่นหรือโรคที่เกิดจากเชื้อราแล้ว แต่ละชนิดจะต้องมีการรักษาและการใช้ยาที่แตกต่างกันไป ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์จะดีกว่า ในส่วนของโรคเกลื้อนนั้นจะเกิดจากเชื้อยีนส์ที่อยู่บนผิวหนังของเราอยู่แล้ว อาการจะเห็นเป็นรอยจุดขาวตามรูขุนขน บางรายก็อาจเห็นเป็นผื่นสีชมพู สีน้ำตาลหรือสีดำก็ได้ คันหรือไม่คันก็ได้ การรักษาโรคเกลื้อนทั่วไปก็อาจใช้ยาทาฆ่าเชื้อราชนิดที่ฆ่าเชื้อยีสต์ได้ด้วย เช่น คีโทโคนาโซล โคลไทรมาโซล หรือแชมพูซิงก์ไพริไทออน หากเป็นมากทั้งตัว อาจใช้ยากินเช่น คีโทโคนาโซลด้วย แต่เนื่องจากยานี้อาจเป็นพิษต่อตับได้ จึงควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยให้ได้ก่อน การป้องกันและการปฏิบัติตัวในช่วงรักษาโรคผิวหนังนั้นควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ซักสะอาดและตากแห้งสนิท เพราะเชื้อเหล่านี้จะชอบอยู่ตามบริเวณที่อบ อับชื้น มืดมิด และมีเหงื่อไคล หากชอบออกกำลังกายที่มีเหงื่อมากควรอาบน้ำให้สะอาดแล้วซับตัวให้แห้งทุกครั้ง ไม่ควรสวมถุงเท้าซ้ำ หรือรองเท้าที่เปียกแฉะ ควรสวมถุงเท้าซักใหม่ และรองเท้าที่แห้งสะอาดทุกครั้ง รวมไปถึงเสื้อผ้าสำหรับเล่นกีฬา ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้าต่าง ๆ ด้วย การเล่นกับสัตว์บางชนิดที่มีโรคผิวหนังอยู่แล้วก็อาจทำให้ติดเชื้อได้เช่นกัน ไม่ควรสวมกางเกงที่หนาและคับ หรือสวมกางเกงในซ้ำ ๆ…
-
อากาศร้อนอับชื้น ระวังเป็นกลาก
อากาศร้อนอับชื้น ระวังเป็นกลาก สภาพอากาศในประเทศไทยที่มีความร้อนทำให้เหงื่อออกได้ง่าย สร้างความอับชื้นให้กับผิวหนังนั้น ทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดี จึงเป็นสาเหตุให้เกิดโรคกลากได้บ่อย ๆ โรคกลากนี้ทำให้ผู้เป็นขาดความหมั่นใจได้ ติดต่อได้ง่ายจากการสัมผัส การใช้สิ่งของร่วมกัน ติดต่อจากคนสู่คน จากสัตว์สู่คนและจากพื้นดินได้ เพราะเชื้อกลากนั้นอยู่ในรูปของสปอร์ เมื่อมีสภาวะที่เหมาะสมจะขยายเส้นใยเข้าทำลายผิวหนังกำพร้า เส้นผมหรือเล็บ กินโปรตีนเคราตินบนผิวหนังเป็นอาหาร บริเวณที่กลากมักจะขึ้นนั้น เกิดตามส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หนังหัว เส้นผม ใบหน้า แขนขา ลำตัว มือเท้า ขาหนีบ หรือแม้แต่แผ่นเล็ก มักมีลักษณะเป็นผื่นแดงมีวงขอบชัดเจน ผื่นแห้งเป็นขุย บางรายก็อักเสบอย่างรุนแรงขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันแต่ละคน หากเป็นกลากที่บริเวณผมจะมีปลอกเชื้อราหุ้มอยู่ ผมจะหักและเปราะได้ง่าย ส่วนกลากเล็บอาจเริ่มที่ปลายหรือโคนเล็บก็ได้ทั้งสิ้น สีของเล็บจะเปลี่ยนไปเป็นสีขาว น้ำตาล เขียว หรือเทา เล็บเปราะและเปื่อยง่าย การรักษาสามารถใช้ยาได้หลายกลุ่ม มีทั้งยาทาและยากิน โดยแพทย์จะพิจารณาจากลักษณะของผื่นและบริเวณที่เป็น ผู้เป็นกลากไม่ควรซื้อยาใช้เอง ควรไปหาหมอรับการวินิจฉัย หากในบ้านเป็นกันหลายคนควรรักษาพร้อมกันเพื่อป้องกันการติดต่อและเป็นซ้ำได้อีก อาจใช้เวลานานในการรักษาและไม่ควรหยุดยาเองแม้อาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม การป้องกันโรคกลาก ก็คือการรักษาความสะอาดของร่างกาย อาบน้ำฟอกสบู่ให้สะอาดทุกวัน ซับตัวให้แห้ง สวมเสื้อผ้าที่ระบายเหงื่อได้ดี อย่าปล่อยให้ร่างกายอับชื้น ยิ่งโดยเฉพาะซอก ข้อพับต่าง ๆ…
-
สาว ๆ ทั้งหลายระวังเล็บติดเชื้อรา!
สาว ๆ ทั้งหลายระวังเล็บติดเชื้อรา! เพราะประเทศไทยเราเป็นเมืองที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น เชื้อราสายพันธุ์ต่าง ๆ จึงเจริญเติบโตได้ดีและรวดเร็วด้วยสภาพอากาศที่พอเหมาะ แม้แต่บนเล็บของเราก็ด้วย! น่าขนลุกน่าดูเลยทีเดียวค่ะ แต่ก็ใช่ว่าจะติดเชื้อกันได้ง่ย ๆ เสมอได้ หากเราดูแลมือและเล็บของเราอย่างถูกวิธี วันนี้เราลองมาดูวิธีการป้องกันไม่ให้เล็บเราติดเชื้อรากันนะคะ 1. สำรวจเล็บมือเล็บและเล็บเท้าไว้เสมอ ๆ ยิ่งโดยเฉพาะสาว ๆ ที่ชอบทำเล็บสีต่าง ๆ หรือผู้ที่ชื่นชอบการติดเล็บปลอม การติดเล็บอะคริลิกหรือการตกแต่งเล็บแบบต่าง ๆ ควรเลือกร้านทำเล็บที่สะอาด ได้มาตรฐาน ช่างทำเล็บมีความชำนาญและเครื่องมือทุกอย่างควรฆ่าเชื้ออย่างสะอาด หากเห็นไม่น่าไว้ใจ อย่างทำเลยดีกว่า 2. ดูแลเล็บของตัวเองให้สะอาด อย่ากัดเล็บ แล้วทำความสะอาดด้วยแปรงขัดเล็บทุกวัน ล้างมือเท้าให้สะอาดแล้วเช็ดให้แห้งสนิท รวมทั้งสามารถทาครีมบำรุงผิวด้วยก็ยังได้ 3. หากเล็บต้องสัมผัสน้ำทุกวัน ให้สวมถุงมือป้องกัน แล้วอย่าลืมว่าให้ถอดลุงมือเพื่อระบายอากาศบ้าง 4. การเข้าห้องน้ำให้สวมรองเท้าฟองน้ำเดินจะดีกว่า ป้องกันมิให้เล็บเท้าติดเชื้อไวรัส เชื้อหูด หรือติดเชื้อรา เพราะถ้าเป็นขึ้นมาแล้ว เล็บอาจหลุดร่อนออก และกว่าเล็บจะงอกขึ้นใหม่ อาจใช้เวลาถึงหนึ่งปีเลยทีเดียว 5. และหากสังเกตเห็นว่าเล็บเริ่มมีความผิดปกติหรือติดเชื้อราแล้ว อย่าทาเล็บหรือตกแต่งเล็บอีก ให้ไปพบแพทย์ผิวหนังทันที ยิ่งปล่อยไว้นานก็จะยิ่งรักษายากและเสียเวลามากกว่าเดิมอาจกินเวลานับปีเลยก็ได้ค่ะ
-
เชื้อราแคนดิดา อัลไบแคนส์ และ แบคทีเรียกสเตรปโทค็อกคัซ มูแทนส์ ตัวการก่อฟันผุ
เชื้อราแคนดิดา อัลไบแคนส์ และ แบคทีเรียกสเตรปโทค็อกคัซ มูแทนส์ ตัวการก่อฟันผุ เชื้อราแคนดิดา อัลไบแคนส์ และ แบคทีเรีย สเตรปโทค็อกคัซ มูแทนส์ ตัวการก่อฟันผุ มีผลการศึกษาถึงความเชื่อมโยงระหว่าง เชื้อแบคทีเรียสเตรปโทค็อกคัซ มูแทนส์ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดคราบเพลก, คราบจุลินทรีย์ และไบโอฟิล์ม ที่นำเป็นต้นเหตุของฟันผุ กับเชื้อราแคนติดา อัลไบแคนส์ เชื้อหาที่จะสะสมบริเวณลิ้นและกระพุ้งแก้มหากมีการติดเชื้อ พบว่า ในกรณีที่ผู้ป่วยมีประวัติฟันดุแต่เด็ก จะพบแบคทีเรียสเตรปโทค็อกคัซ และเชื้อรา แคนดิดาเกาะอยู่กับคราบเพลกบนฟัน ที่สเตรปโทค็อกคัซ ใช้กระบวนการย่อยสลายเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรต และน้ำตาล เป็นสารเหนียวเคลือบฟัน ทั้งยังเพิ่มความเสียหายต่อการสลายแร่ธาตุซึ่งเป็นโครงสร้างของฟัน จึงทำให้ฟันผุได้ง่ายกว่าการตรวจพบแต่เชื้อแบคทีเรียกสเตปโทค็อกคัซ เพียงตัวเดียว อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำอีกว่า แม้ฟันผุในวัยเด็กจะเป็นฟันน้ำนม แต่ความเคยตัวในการกินแต่อาหารหวานและน้ำอัดลม รวมไปถึงการละเลยไม่ทำความสะอาดฟัน เป็นปัจจัยเสี่ยงของฟันผุร้ายแรงได้เมื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่
-
ประโยชน์หลากหลายจากกระเทียมและมะนาว จากประเทศรัสเซียและยูเครน
ประโยชน์หลากหลายจากกระเทียมและมะนาว จากประเทศรัสเซียและยูเครน มะนาวและกระเทียมเป็นพืชที่มีประโยชน์หลากหลายนะคะ ลองทำตามสูตรต่อไปนี้แล้วทานเป็นยาอายุวัฒนะดูสิคะ มีสรรพคุณมากมายทางด้านท้ายจะกล่าวต่อไปค่ะ การเตรียมครั้งละมาก ๆ หน่อยก็คือ ใช้มะนาว 50 ลูก+ กระเทียม 1 กิโลกรัม (หรือหากต้องการทำน้อยลงก็ใช้มะนาว 25 ลูก กับกระเทียมครึ่งกิโลกรัมก็ได้) ปอกกระเทียมผสมกับน้ำมะนาวที่คั้นไว้แล้วปั่นรวมกัน หลังจากนั้นตักใส่โหลแก้ว ทิ้งไว้ 1-2 อาทิตย์ หรือจะทานเลยก็ได้ แต่ระวังจะร้อนบริเวณหลอดอาหาร อย่าเอาเข้าตู้เย็น เพราะมะนาวและกระเทียมต่างมีความเป็นกรด เวลาตักทานต้องใช้ช้อนสะอาด ๆ ตักเท่านั้นไม่งั้นจะบูดเสียได้ เมื่อทำเสร็จใหม่ ๆ จะเป็นสีอ่อน แต่หากตั้งทิ้งไว้แล้วสีเหลืองเข้มขึ้นก็ไม่เป็นไร ทานได้ยังไม่เสีย พอใกล้หมดแล้วค่อยทำใหม่ การคัดเลือกกระเทียมมาทำต้องเลือกแบบที่ไม่มีแผลหรือจุดเขียว ๆ ต้องคัดออกให้หมด เพราะถ้าไม่คัดออกจะทำให้สูตรมะนาวกระเทียมนี้เป็นสีเขียว ทานไม่ได้ วิธีการทาน ให้ตักทานวันละ 1 ช้อนคาวตอนก่อนนอน หรือจะทานในมื้อเช้า 1 ช้อนคาว และมื้อเย็น 1 ช้อนคาวก็ได้ ไม่มีโทษอะไร เพราะมะนาวและกระเทียมคืออาหาร หลังการทานควรแปรงฟันด้วยเพราะมีกลิ่นแรง สูตรมะนาวและกระเทียมนี้มีประโยชน์กับร่างกายอย่างอเนกอนันต์…