Tag: ฮอร์โมน
-
ความสุขสร้างง่าย สร้างได้ด้วยตนเอง
ความสุขสร้างง่าย สร้างได้ด้วยตนเอง ความสุขนั้นเกี่ยวพันกับฮอร์โมนหรือสารเคมีในสมองอยู่สามชนิด ได้แก่ โดพามีน หลั่งออกมาเมื่อเราได้รับสิ่งที่สมปรารถนา ซีโรโทนิน จะหลั่งออกมาเมื่อมีความรู้สึกสงบผ่อนคลาย ส่วนเอนโดรฟีน เป็นสารแห่งความสุข ช่วยคลายความเจ็บปวด เพื่อภูมิต้านทาน เพิ่มความสามารถในการคิด เพิ่มความจำได้ดีขึ้น ถือเป็นยาชั้นเยี่ยมที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นมาได้เอง เวลาที่คนเรามีความสุข จะมีความคิดสร้างสรรค์ดี ๆ เกิดขึ้น สามารถแก้ปัญหาและรับมือกับเรื่องราวต่าง ๆ ได้ แม้แต่คนรอบข้างก็รู้สึกมีความสุขตามไปด้วย ตรงกันข้ามกับจิตใจที่เป็นทุกข์ที่จะทำให้เกิดความรู้สึกในแง่ลบ แม้แต่โรคภัยก็คุกคาม เราสามารถเพิ่มฮอร์โมนแห่งความสุขสามชนิดข้างต้นได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้ค่ะ 1. หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดินให้บ่อยขึ้น มีเวลาสำหรับการออกกำลังกายวันละครึ่งชั่วโมง ช่วยให้สดชื่นกระฉับกระเฉง จิตใจมั่นคงสดใสขึ้น 2. ทำกิจกรมกลางแดดอ่อน ๆ ตอนเช้าหรือตอนเย็น อย่างน้อย 15-20 นาที แสงแดดอ่อนจะทำให้ร่างกายหลั่งสารเมลาโทนินออกมา ช่วยให้หลับหลับได้ดีในเวลากลางคืน 3. ทานอาหารที่หลากหลายและครบถ้วนทั้งห้าหมู่ให้มีความสมดุลและเหมาะสมกับสุขภาพ จะช่วยให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนแห่งความสุขดังกล่าวออกมา 4. การนวดช่วยเพิ่มการหลั่งสารซีโรโทนินได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 28 และลดฮอร์โมนคอร์ติซอนซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สร้างความเครียดได้ถึงร้อยละ 31 5. ฝึกลมปราณด้วยการหายใจเข้าออกลึก ๆ ยาว ๆ ช้า…
-
เคล็ดลับการเพิ่มพลังทางเพศโดยไม่ใช้ยา
เคล็ดลับการเพิ่มพลังทางเพศโดยไม่ใช้ยา เพราะความรักขับเคลื่อนโลก เพศสัมพันธ์จึงเป็นกระบวนการหนึ่งในการผลักดันโลกไปข้างหน้าด้วยเช่นกัน ระหว่างชายกับหญิงนั้น เมื่อได้แต่งงานกันแล้ว กิจกรรมทางเพศก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ชีวิตคู่ยืดยาวไปได้ สร้างความกระชับแน่นแฟ้นระหว่างกันและกัน สร้างบุตรหลานให้ออกมาสืบทอดสายสกุลต่อไปได้ แต่เมื่อทั้งสองย่างเข้าสู่วัยกลางคน หรือมีภารกิจหน้าที่การงานมากขึ้น พลังทางเพศที่ควรจะสมบูรณ์ก็อาจหดหายไป จนในบางคู่เกิดความห่างเหินระหว่างกัน บางครั้งการถดถอยของพลังทางเพศก็อาจเกิดจากความอ่อนล้า อ่อนเพลียจากความเครียดในชีวิตประจำวัน รวมทั้งการขาดการพักผ่อนที่เพียงพอก็ได้ ดังนั้นเราจะมาเติมพลังทางเพศแบบธรรมชาติบำบัดกันค่ะ ฮอร์โมนเพศชายหรือฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนนั้นเป็นฮอร์โมนพลังทางเพศ ซึ่งมีทั้งในตัวของฝ่ายชายและฝ่ายหญิง การที่พลังทางเพศเหือดหายไปอาจเป็นเพราะร่างกายกำลังพร่องฮอร์โมนตัวนี้อยู่ เราจึงจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณของมันขึ้นมา โดย.. – เข้านอนให้ตั้งแต่หัวค่ำ ไม่ควรเกินสี่ทุ่ม เพื่อที่ร่างกายจะได้หลับสนิทตอนตีสอง เพราะในเวลานี้ฮอร์โมนของการเจริญพันธ์จะทำงานได้เต็มที่ และควรนอนให้พอเพียงอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืนด้วย – อาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด ยิ่งมีส่วนช่วยเพิ่มพลังงานทางเพศให้สมบูณ์ยิ่งขึ้น ยิ่งทานอาหารได้ครบถ้วนทุกหมู่ยิ่งดี หรืออย่างน้อยสำหรับคนที่เร่งรีบ กล้วยสักผล กับนมสักแก้วก็ยังดี – หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละครึ่งชั่วโมงเป็นต้นไป – นอกจากการพักผ่อนด้วยการนอนหลับแล้ว ควรหาทางคลายเครียดแบบอื่น ๆ บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการไปนวดตัว ไปเข้าสปา การฟังเพลง การท่องเที่ยวธรรมชาติ การร้องเพลง ก็ได้ตามต้องการ ฯลฯ – ควรหมั่นมีกิจกรรมทางเพศกับคนที่รักอย่างสม่ำเสมอ…
-
เป็นซีสหรือมะเร็งเต้านมกันแน่นะ?
เป็นซีสหรือมะเร็งเต้านมกันแน่นะ? โดยมากแล้วความเข้าใจของคนทั่วไป มักจะเข้าใจว่าหากคลำพบก้อนบริเวณเต้านม ก็เรียกว่าซีสทั้งหมด ซึ่งบางทีอาจเป็นเรื่องไม่ถูกต้องนัก การจะระบุว่าเป็นซีสหรือก้อนเนื้อชนิดอื่น ความได้รับการตรวจจากแพทย์ให้แน่ชัด คำว่า ซีสในเต้านมนี้มาจากภาษาอังกฤษาว่า Fibrocystic ไฟโบรซีสติก หรือภาวะที่เกิดมีซีสขึ้น เรียกได้อีกอย่างว่า ถุงน้ำนั่นเอง ซีสที่เต้านมนั้นจะมีภาวะเป็นถุงน้ำขึงอยู่ในเนื้อเต้านม มักรวมกันอยู่เป็นหย่อม ๆ เมื่อคลำจากภายนอกจะเป็นก้อน ๆ ใหญ่ ๆ เล็ก ๆ คละกันได้ สาเหตุการเป็นซีสนั้นบอกแน่ชัดไม่ได้ แต่อาจเกิดขึ้นจากภาวะการเปลี่ยนแปลงต่อมเต้านมในร่างกาย แล้วมีน้ำเข้าไปสะสมอยู่ข้างในเนื้อเต้านมแล้วรวมตัวกันเป็นถุงน้ำ ซึ่งถูกควบคุมด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เป็นฮอร์โมนเพศหญิง เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงกับฮอร์โมนเหล่านี้จึงจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเต้านมจนกลายเป็นถุงน้ำในที่สุด มักจะพบว่าซีสนี้จะโตขึ้นในช่วงที่ประจำเดือนใกล้จะมาและหดตัวลงเมื่อประจำเดือนมาแล้ว อาการของคนที่เป็นซีสเต้านมนั้นมักจะมีอาการปวด หรือเจ็บเนื่องจากน้ำในซีสดันเนื้อเต้านม จนเกิดอาการตึงปวด อาจคลำพบก้อนที่เต้านมด้วย อาจพบได้หลายตำแหน่ง และโต ๆ ยุบ ๆ ตามระยะรอบเดือน ต่างจากมะเร็ง มะเร็งจะเป็นก้อนที่โตขึ้นเรื่อย ๆ และไม่เจ็บกับเมื่อคลำแล้วจะแข็ง ๆ แต่ซีสจะเจ็บและนุ่ม ๆ หยุ่น ๆ ได้ ซึ่งลักษณะที่แตกต่างกันนี้คือจุดที่แยกกันระหว่างซีสกับมะเร็งเต้านม แต่ก็มีวิธีอื่นในการจำแนกว่าเป็นซีสหรือมะเร็งกันแน่ก็ด้วยการทำอัลตราซาวด์ กับอีกวิธีก็คือใช้เข็มฉีดยาเจาะดู หากเป็นซีสเมื่อเจาะแล้วจะได้น้ำออกมาและก้อนจะยุบตัวหายไป แต่หากเป็นก้อนเนื้อแพทย์จะนำไปพิสูจนอีกทีว่าเป็นก้อนเนื้อชนิดไหนกันแน่…
-
แพทย์ติง ดื่มนมมากเกิน อาจย่อยสลายมวลกระดูกได้
แพทย์ติง ดื่มนมมากเกิน อาจย่อยสลายมวลกระดูกได้ การดื่มนมนั้นจำเป็นต้องดื่มแต่พอดีเพื่อให้ร่างกายได้รับแคลเซียมแต่พอที่ร่างกายที่ต้องการ เพราะแคลเซียมที่อยู่ในนมนั้นมาพร้อมกับฟอสฟอรัส ซึ่งมีคุณสมบัติในการย่อยสลายมวลกระดูกได้ จึงทำให้เกิดภาวะโรคกระดูกพรุน ทำให้กระดูกหักและเปราะได้ง่าย ซึ่งโรคกระดูกพรุนนี้ มักคุกคามผู้สูงวัยอย่างเงียบ ๆ แต่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นในผู้สูงวัยชาวไทย อีกทั้งการรับรู้ข่าวสารที่ไม่สมบูรณ์มากพอ ทั้งนี้การดื่มนมนั้นสามารถป้องกันภาวะกระดูกพรุนได้ แคลเซียมในนั้นนั้นมีคุณสมบัติในการยับยั้งการผุกร่อนของกระดูก และการสลายตัวของมวลกระดูก แต่ต้องดื่มในปริมาณที่เหมาะสม โดยแคลเซียมที่ควรได้รับมาจากนมน้ำไม่ควรเกิน 500 ซีซีต่อวัน จะทำให้ได้รับแคลเซียมประมาณ 500 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ในน้ำนมนั้นจะประกอบไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัสในอัตรา 3 ต่อ 2 ส่วน หากเราดื่มนมมากกว่าครึ่งลิตรต่อวัน ก็อาจทำให้ร่างกายได้รับฟอสฟอรัสมากเกินความต้องการของร่างกาย ซึ่งจะไปกระตุ้นการทำงานของต่อมพาราไทรอยด์ให้หลั่งฮอร์โมนออกมาจนสลายกระดูกจนเป็นเหตุให้กระดูกพรุน กระดูกเปราะ เพราะเนื้อหรือมวลกระดูกบางลงนั่นเอง ในแต่ละช่วงอายุนั้นร่างกายมีความต้องการแคลเซียมที่แตกต่างกันไป – วัยเด็ก ควรได้รับแคลเซียม 600 มิลลิกรัมต่อวัน – วัยรุ่น ควรได้รับแคลเซียม 1,000-1,500 มิลลิกรัมต่อวัน – ผู้ใหญ่ ควรได้รับแคลเซียม 800-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน – หญิงตั้งครรภ์ ควรได้รับแคลเซียม 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน – ผู้สูงอายุหรือวัยทอง…
-
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการนอนหลับของคนเรา
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการนอนหลับของคนเรา หากเป็นช่วงเวลาวันหยุดยาวหรือเทศกาลต่าง ๆ แล้ว บางคนอาจเอาแต่เที่ยวและฉลองกันยันเช้าจนมักลืมไปเลยว่าตัวเองต้องพักผ่อน แต่ไม่ว่าจะเป็นในช่วงเวลาใด การนอนก็สำคัญสำหรับร่างกายเราอยู่ดี (เค้าไม่มารู้กับเราด้วยหรอกค่ะว่า วันหยุดยาวฉันจะฉลองฉันจะไม่นอน) ยิ่งโดยเฉพาะในกลุ่มสาว ๆ ด้วยแล้ว การอดนอนทำร้ายคุณทั้งทางสุขภาพและรูปร่างหน้าตาภายนอกชนิดปกปิดไม่อยู่เลยเชียวล่ะ ดังนั้นเพื่อการดูแลสุขภาวะที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ เราลองมาอ่านเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการนอนหลับของคนเรากันนะคะ – ในช่วงเวลานอนเป็นเวลาที่ร่างกายเราผลิตโปรตีนขึ้นมา จึงก่อให้เกิดกระบวนการสร้างเซลล์ผิวและฟื้นฟูสภาพเนื้อเยื่อและเซลล์ผิวในระหว่างการนอนหลับด้วย จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการอดนอนจึงทำให้ผิวดูทรุดโทรมไม่สดใส – การนอนมีผลต่อกระบวนการจำ สมาธิในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ หากอดนอนก็จะทำให้เบลอๆ งงๆ – การอดนอนยังทำให้เกิดความเสี่ยงและเกิดการกำเริบของโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคติดเชื้อต่าง ๆ ได้มากมาย – การที่ผิวแลดูเหี่ยวย่น หรือแก่ก่อนวัยนั่นเป็นเพราะหากคุณนอนไม่พอ จะทำให้ฮอร์โมนความเครียดที่หลั่งออกมามากเกินไปส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตคอลลาเจนของผิวที่จะทำงานได้ช้าลง แล้วยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อการต่อสร้างอนุมูลอิสระในร่างกายทำให้ผิวร่วงโรยก่อนวัย – รวมไปถึงหากคุณยังคงอดนอนอย่างต่อเนื่อง กระบวนการฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายจากพฤติกรรมแย่ ๆ ต่อตัวเอง และการทำร้ายจากรังสียูสี ยังไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ผิวจึงยิ่งดูแย่ลงไปกว่าเดิม – การอดนอนหรือนอนไม่พอ ยังส่งผลต่อการไหลเวียนของโลหิต ที่จะเห็นได้ชัดก็คืออาการถุงใต้ตาหรือตาบวมนั่นล่ะค่ะ – การได้นอนหลับในช่วงเวลาที่เหมาะสมจะทำให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ซึ่งช่วงเวลาที่ร่างกายจะมีอุณหภูมิลดลงต่ำที่สุดก็คือช่วงตีสี่ ถึงตีห้า อีกทั้งฮอร์โมนเมลาโทนินก็จะถูกหลั่งออกมาในช่วงเวลานั้นทั้งจาก เมื่อทั้งอุณหภูมิร่างกายลดลงและระดับเมลาโทนินเพิ่มขึ้นมาเจอกัน ก็จะทำให้นอนหลับได้ง่าย…
-
เหตุผลที่ควรออกกำลังกายในยามเช้า
เหตุผลที่ควรออกกำลังกายในยามเช้า เคยมีหลายคนบอกมาว่าควรจะออกกำลังกายในตอนเช้า มาดูเหตุผลกันค่ะ 1. การลดน้ำหนักในตอนเช้า เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก และการกระชับสัดส่วน เพราะตอนเช้าจะช่วยให้การเผาผลาญได้ดีกว่า ทั้งยังทำให้การเผาผลาญคงอยู่ไปได้ตลอดทั้งวัน 2. ช่วยลดความเครียดได้ตลอดทั้งวัน และตื่นตัวสดชื่นตลอดวันด้วย 3. สารเอ็นดอร์ฟินที่หลั่งออกมาจะทำให้รู้สึกดี เท่ากับคุณได้เริ่มต้นวันใหม่ด้วยอารมณ์ดี ๆ 4. การออกกำลังกายตอนเช้าทำให้ไม่มีข้ออ้างว่าไม่มีเวลา เพราะการไปออกกำลังกายตอนเย็นจะมีโอกาสที่น้อยกว่า 5. การออกกำลังกายตอนเช้าจะช่วยทำให้ความดันโลหิตลดลง 6. กระตุ้นต่อมต่าง ๆ ที่สร้างฮอร์โมนในร่างกายทำงานได้มากที่สุด พรุ่งนี้เช้า.. ลุกขึ้นมาออกกำลังกายกันเลยนะคะ
-
สารเคมีต่างๆ ส่งผลให้ร่างกาย ฮอร์โมน และสุขภาพมีผลเสียอย่างรุนแรง
สารเคมีต่างๆ ส่งผลให้ร่างกาย ฮอร์โมน และสุขภาพมีผลเสียอย่างรุนแรง สารเคมีบางชนิดที่เรียกว่า endocrine disrupters สามารถไปรบกวนการทำงานของระบบผลิตฮอร์โมนจนอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความผิดปกติทางสุขภาพได้ เนื่องจากสุขภาพของคนเราขึ้นอยู่กับการทำงานอย่างเป็นปกติของระบบต่อม ที่ทำหน้าที่ควบคุมการปล่อยฮอร์โมนบางชนิดที่มีความสำคัญต่อการทำงานบางอย่างของร่างกาย อาทิ ควบคุมระบบเผาผลาญอาหาร การเจริญเติบโตและพัฒนาการ การนอนหลับและอารมณ์ สารเคมีที่ส่งผลต่อการทำงานของระบบฮอร์โมนพบได้ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือนและในภาคอุตสาหกรรม สารเคมีเหล่านี้เจือปนในสิ่งเเวดล้อมผ่านการปล่อยของเสียจากภาคอุตสาหกรรม จากชุมชนเมือง จากภาคการเกษตร และการเผาขยะหรือทิ้งของเสีย การได้รับสารเคมีเหล่านี้เข้าไปในร่างกายอาจส่งผลให้ผู้ชายวัยหนุ่มเกิดปัญหาเชื้ออสุจิอ่อนแอและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมในผู้หญิง และผู้ชายที่สัมผัสกับยาฆ่าแมลงมีความเสี่ยงมากขึ้นต่อการเกิดมะเร็งในต่อมลูกหมาก รายงานนี้เปิดเผยด้วยว่าสารเคมีจำพวกยาฆ่าแมลงดีดีที สารจำพวกพีซีบี และสารปรอทที่ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมน่าจะเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้จำนวนประชากรนากทะเล กับสิงโตทะเลลดลง ผลการศึกษาของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาิติและองค์การอนามัยโลกออกข้อแนะนำหลายประการเกี่ยวกับสารเคมีเหล่านี้ ข้อแนะนำอย่างหนึ่งคือการจัดหาวิธีทดสอบที่ครอบคลุมเพื่อระบุว่าสารเคมีชนิดใดบ้างที่มีผลกระทบต่อระบบฮอร์โมน เพื่อระบุแหล่งที่มาและการรับเข้าสู่ร่างกาย
-
การผ่าตัดอวัยวะย่อยอาหาร ช่วยลดน้ำหนักและแก้อาการเบาหวานประเภทที่ 2 ได้
การผ่าตัดอวัยวะย่อยอาหาร ช่วยลดน้ำหนักและแก้อาการเบาหวานประเภทที่ 2 ได้ การผ่าตัดอวัยวะย่อยอาหารเพื่อลดน้ำหนักเริ่มได้รับความนิยมในสหรัฐมานานราวสิบปีแล้ว การผ่าตัดดังกล่าวช่วยผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากลดน้ำหนักลงได้ ผู้ป่วยสามารถกลับไปมีรูปร่างที่อยู่ในระดับมาตราฐาน คุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีขึ้น ผู้ป่วยบางคนพบว่าหลังการผ่าตัด พวกเขาปลอดจากโรคเบาหวานประเภทที่สอง แต่มีคำถามว่าการผ่าตัดอวัยวะย่อยอาหารเพื่อลดน้ำหนักปลอดภัยแค่ไหน หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยบางคนติดเชื้อและอาการเส้นเลือดขอดที่เป็นอันตรายต่อชีวิต ในอดีตการผ่าตัดนี้มีเฉพาะในโรงพยาบาลบางแห่งที่เรียกว่า centers for excellence ที่บริการผู้ป่วยในโครงการสุขภาพที่รัฐบาลสหรัฐสนับสนุนค่าใช้จ่าย โรงพยาบาลเหล่านี้เคยถูกกำหนดให้ทำการผ่าตัดอวัยวะย่อยอาหารเพื่อลดน้ำหนักแก่ผู้ป่วยอย่างน้อยปีละ 125 ราย ด็อกเตอร์เซ็งกีต้า คาชอ็อพ แห่ง Cleveland Clinic เป็นหัวหน้าทีมนักวิจัยชุดที่สองที่ทำการศึกษาประเด็นนี้ ด็อกเตอร์คาชอ็อพกล่าวว่าการศึกษาพบว่าการการผ่าตัดบายพาสกระเพาะอาหารช่วยกระตุ้นให้ตับอ่อนทำงานไ้ด้เป็นปกติอีกครั้ง และยังพบว่าอย่างน้อย 40 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยหลังการผ่าตัด ตับอ่อนสามารถทำงานได้เป็นปกติก่อนหน้าที่ผู้ป่วยจะลดน้ำหนักตัวที่เกินได้ทั้งหมดเสียอีก ด็อกเตอร์คาชอ็อพกล่าวว่าสาเหตุน่าจะมาจากการผ่าตัดไม่ให้อาหารที่รับประทานเข้าไปในลำใส้เล็กและฮอร์โมนต่างๆที่ผลิตออกมา ทีมวิจัยพบว่าผู้ป่วยสามารถลดน้ำหนักตัวลงได้เพราะการผ่าตัดบายพาสลำใส้ แต่นักวิจัยจำเป็นต้องศึกษาว่าทำไมผู้ป่วยบางคนจึงหายขาดจากโรคเบาหวานหลังการผ่าตัด เพื่อช่วยในการวินิจฉัยล่วงหน้าว่าใครจะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการผ่าตัดและเพื่อศึกษาดูว่าเป็นไปได้แค่ไหนที่วันหนึ่งในอนาคตการผ่าตัดแบบนี้จะสามารถนำไปใช้บำบัดผู้ป่วยโรคเบาหวานได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น
-
ฮอร์โมนเอสโตรเจนเสริม ช่วยป้องกันโรคท่อปัสสาวะอักเสบได้
ฮอร์โมนเอสโตรเจนเสริม ช่วยป้องกันโรคท่อปัสสาวะอักเสบได้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าราว 60 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงทั้งหมดจะเป็นโรคท่อปัสสาวะอักเสบจากเชื้อเเบคทีเรียในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของชีวิตและอย่างน้อย 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงกลุ่มนี้จะเกิดอาการอักเสบซ้ำหลายครั้ง และอาการอักเสบที่เกิดซ้ำหลายครั้งมักเกิดขึ้นในบรรดาผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน นักวิจัยศึกษาค้นพบได้ว่า มีจำนวนเชื้อเเบคทีเรียจำนวนมากภายในเนื้อเยื่อบุผนังถุงน้ำปัสสาวะและเชื้อเเบคทีเรียเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว คุณเบราเน่อร์ชี้ว่าเชื้อเเบคทีเรียเหล่านี้ยังสามารถหลบหลีกจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผู้ป่วยได้ด้วย โดยธรรมชาติ ร่างกายคนเราจะผลิตสารต่อต้านเชื้อโรคหากมีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายแต่เนื่องจากเชื้อเเบคทีเรียสามารถแอบซ่อนตัวอยู่ลึกในเนื่อเยื่อบุผนังถุงน้ำปัสสาวะ ระบบต่อต้านเชื้อโรคตามธรรมชาติของร่างกายจึงทำงานไม่ได้ผลเท่าที่ควร ฮอร์โมนเอสโตรเจนเสริมที่ให้แก่ผู้ป่วยหญิงวัยหมดประจำเดือนผ่านทางช่องคลอดได้ผลดีในการช่วยกระตุ้นเนื้อเยื่อผนังถุงน้ำปัสสาวะซ่อมเเซมตัวเองให้เเข็งเเรงขึ้น ทำให้ติดเชื้อเเบคทีเรียยากขึ้น คุณเบราเน่อร์กล่าวว่าผลการทดลองบำบัดด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนเสริมในหนูทดลองก็ได้ผลดีเช่นกัน ทีมนักวิจัยเชื่อว่าการบำบัดผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่ป่วยด้วยอาการท่อปัสสาวะอักเสบซ้ำๆด้วยการให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนเสริมเป็นวิธีที่ได้ผลในการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อเเบคทีเรียซ้ำแล้วซ้ำอีก
-
เชื่อหรือไม่ การมีคนใกล้ชิดนอนข้างตัว เป็นผลดีต่อสุขภาพและจิตใจ
เชื่อหรือไม่ การมีคนใกล้ชิดนอนข้างตัว เป็นผลดีต่อสุขภาพและจิตใจ นักวิจัยการศึกษาการนอน ชี้ว่า ถ้าคนในครอบครัว หรือ คนใกล้ชิดได้นอนร่วมเตียงเดียวกัน จะช่วยสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย และในสมัยก่อนการนอนก่อนกัน ยังเป็นการช่วยป้องกันอันตรายจากสัตว์ร้ายหรือศัตรู ซึ่งปัจจุบัน คนที่ได้นอนใกล้ชิดกันจะรู้สึกถึงความปลอดภัย และส่งเสริมให้สุขภาพจิตดี ผู้เชี่ยวชาญชี้ด้วยว่า การสัมผัสหรือโอบกอดระหว่างการนอน ทำให้ร่างกายปล่อยฮอร์โมน Oxytocin หรือที่เรียกว่าฮอร์โมนแห่งความรักออกมา และฮอร์โมนนี้มีผลในการช่วยผ่อนคลายความเครียด ลดความดันโลหิต ส่งเสริมกระบวนการซ่อมแซมของร่างกาย รวมทั้งช่วยให้เกิดความรู้สึกรัก ผูกพัน และมีความมั่นคงของจิตใจด้วย อย่างไรก็ตามผลการศึกษาชิ้นหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้แสดงถึงความสัมพัน์ระหว่างคุณภาพของการนอน กับปฏิสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรสที่มีลักษณะสวนทางกันระหว่างสองเพศ คือสำหรับในเพศชายแล้วหากการนอนช่วงกลางคืนเป็นไปได้ดีและมีคุณภาพ เรื่องนี้ก็จะมีผลช่วยให้ปฏิสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรสในช่วงวันถัดไปเป็นไปอย่างราบรื่น แต่สำหรับในเพศหญิง หากความสัมพันธ์กับคู่สมรสในช่วงกลางวันเป็นไปได้ดีไม่มีปัญหา เรื่องนี้ก็จะช่วยให้ฝ่ายหญิงนอนหลับได้ดีอย่างมีคุณภาพในคืนนั้น