Tag: อุบัติเหตุ
-
เมาไม่ขับ กลับถึงบ้านปลอดภัยทุกคน
เมาไม่ขับ กลับถึงบ้านปลอดภัยทุกคน ขณะนี้นั้นประเทศไทยมีตัวเลขของผู้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงเป็นอันดับหกของโลกแล้วนะคะ ไม่ใช่แค่สูญเสียสุขภาพร่างกาย หรือเสียชีวิตเท่านั้น แต่ในด้านของทรัพย์สินและเศรษฐกิจแล้วมีมูลค่ามากมายมหาศาลอีกด้วย โดยเฉลี่ยแล้วอุบัติเหตุบนท้องถนนในเมืองไทยจะมีอัตราการตายสูงถึงชั่วโมงละสองคนเลยทีเดียว นับเป็นการสูญเปล่าไม่น้อย แม้ที่ผ่านมาประเทศไทยจะมีการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตบนท้องถนนอย่างต่อเนื่องก็ไม่ได้ทำให้สถิติอุบัติเหตุลดลงแต่อย่างใด ดังนั้นทุกคนจึงจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อลดการบาดเจ็บล้มตายเช่นนั้น โดยเฉพาะผู้ที่ขับขี่เอง ก็ต้องตั้งสติ ก่อนสตาร์ท ขับขี่ไม่ประมาททุกครั้งด้วย และนอกจากนี้ยังควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้เพื่อช่วยกันลดอุบัติเหตุบนท้องถนนด้วยค่ะ – งดเว้นการดื่มสุรา แม้ว่าการดื่มจะเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่เมื่อไรที่ดื่ม ก็ไม่ควรขับรถ ควรให้ผู้อื่นขับแทน หรือใช้บริการรถสาธารณะไป เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้มากที่สุด สร้างความเสียหายทั้งต่อตนเองและผู้อื่นได้อีกมากด้วยค่ะ – คนที่พักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายจะอ่อนล้าลงไปเรื่อย ๆ อาจหลับในได้โดยไม่รู้ตัว หากรู้สึกง่วงให้หาที่ปลอดภัยเพื่อจอดพักรถ เช่น ป้อมตำรวจ ด่านตรวจต่าง ๆ แล้วดับเครื่องบน เปิดกระจกรถไว้เล็กน้อยแล้วงีบสักครู่ค่อยขับต่อไปจะปลอดภัยกว่าค่ะ – ไม่ควรขับรถเร็วมากเกินไป ในเมืองควรขับอยู่ที่ไม่เกิน 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และบนทางหลวง ควรขับอยู่ที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพื่อความปลอดภัยเพราะยิ่งขับเร็ว อุบัติเหตุก็ยิ่งร้ายแรงมากขึ้นไปอีกค่ะ ไม่ได้เป็นเรื่องยากแต่ประการใดเลยที่เราจะช่วยกันหันมารณรงค์ช่วยการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน เริ่มได้จากตัวเราเองก่อนที่เมื่อไร ที่ ง่วง เมา ดื่ม เราก็ไม่ขับขี่ยานพาหนะเท่านั้นเอง รวมทั้งควรตรวจเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เท่านี้ก็จะเป็นการช่วยกันลดอุบัติเหตุได้มากแล้วค่ะ…
-
การปฐมพยาบาลช่วยลดการเสียชีวิตได้
การปฐมพยาบาลช่วยลดการเสียชีวิตได้ เมื่อได้พบกับอุบัติเหตุหรือสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น การปฐมพยาบาลจะลดความรุนแรงของการบาดเจ็บหรือความเจ็บป่วยได้ ช่วยบรรเทาให้เจ็บน้อยลง ทำให้ผู้ป่วยกลับสู่สภาพดีได้เร็วขึ้น ป้องกันความพิการ แต่ส่วนใหญ่แล้วคนที่แม้จะเคยเรียนการปฐมพยาบาลมา ก็มักจะมีอยู่น้อยคนที่จำได้และใช้ได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน วันนี้เรามาทบทวนกันดีกว่าค่ะว่าลำดับขั้นตอนการปฐมพยาบาลนั้นมีอะไรบ้าง เมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นให้ควบคุมสติให้ดี แล้ววิเคราะห์วางแผนให้ความช่วยเหลือโดยดูอาการต่าง ๆ ของผู้ป่วย แล้วให้การปฐมพยาบาลตามลำดับขั้นตอนดังนี้ – ตรวจสอบว่าผู้ป่วยยังรู้สึกตัวหรือไม่ หรือเขย่าตัวแรง ๆ เพื่อปลุกให้ตื่น – ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น และเรียกหน่วยกู้ชีพ โทร 1669 – ไม่ควรเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโดยไม่จำเป็น ยกเว้นเป็นจุดอันตรายเช่น บนถนน บริเวณไฟไหม้ ตึกถล่ม และควรเคลื่อนย้ายให้ถูกวิธีด้วย – หากผู้ป่วยมีสติให้สอบถามอาการบาดเจ็บและให้การปฐมพยาบาล แต่หากผู้ป่วยหมดสติให้สำรวจว่ามีเลือดออกหรือไม่ ให้ห้ามเลือดก่อน หากไม่มีบาดแผลให้ตรวจร่างกายดูว่าร่างกายอบอุ่นหรือเปล่า เพราะหากช็อกร่างกายจะเย็นและซีด ควรห่มผ้าให้อบอุ่น จัดท่าการนอนให้ลำตัวสูงกว่าศีรษะเล็กน้อยเพื่อให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองให้เพียงพอ – ตรวจดูสิ่งของในปาก เช่น เศษอาหาร ฟันปลอม หากมีให้ล้วงออกมาป้องกันการสำลักหรืออุดตันทางเดินหายใจ ให้ผู้ป่วยนอนหงายดันหัวให้แหงนขึ้น เพื่อให้หายใจได้โล่งขึ้น – คลายเสื้อผ้าให้หลวม อย่าให้คนมุง – สำรวจอาการบาดเจ็บทางร่างกายอื่น ๆ เช่น บาดแผล…
-
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการดื่มสุรา
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการดื่มสุรา กว่าครึ่งของการตายจากอุบัติเหตุที่เกิดบนท้องถนนนั้น เกิดจากผู้ขับขี่เมาสุรา นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุในเกิดอุบัติเหตุตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งที่บ้าน ที่ทำงานและที่สาธารณะอื่น ๆ อีกด้วย ในผู้ที่ดื่มสุราจนมีระดับของแอลกอฮอล์ในเลือดจะมีอัตราการเสี่ยงอุบัติเหตุสูงขึ้น และหากดื่มจนมีอัตราแอลกอฮอล์สูงขึ้นไปถึง 80 และ 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์แล้ว ก็จะมีอัตราความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้นไปถึง 2-3 เท่าและ 25-50 เท่าของคนที่ไม่ดื่มสุราเลยทีเดียว ในระหว่างการเกิดอุบัติเหตุนั้น ผู้ดื่มสุราจะแสดงพฤติกรรมออกมาก็คือ ก่อนเกิดเหตุสมองของผู้ดื่มจะสั่งการได้ช้า และตัดสินใจหลบอันตรายได้ช้ากว่าคนปกติ ขาดความยั้งคิดไม่คำนึงถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น ส่วนคนที่เกิดเหตุไปแล้ว มักจะไม่รู้สึกตัวในระหว่างการช่วยเหลือตนเอง ส่วนหลังเกิดเหตุก็มักจะหลบหนีหรือซ่อนตัว หรือมาหาแพทย์ช้ากว่าคนอื่น ๆ คงต้องย้ำเตือนกันอีกครั้งว่าผู้ที่ต้องการดื่มสุรานั้น ควรหลีกเลี่ยงหากจำเป็นต้องขับขี่ยวดยานพาหนะ หากจำเป็นต้องดื่มก็ไม่ควรขับเอง แต่ควรให้เพื่อนที่ไม่ดื่มช่วยขับไปส่งดีกว่า หรือนอนค้างที่บ้านเพื่อนเลย ตลอดจนใช้บริการรถสาธารณะแทนจะปลอดภัยกว่ามาก สุรานั้นแม้จะให้ความสนุก ความสำราญในขณะที่ดื่ม แต่ก็เป็นพิษเป็นภัยในภายหลัง เสียสติปัญญา ทรัพย์สิน สุขภาพ บุคลิกภาพ ทางที่ดี ควรหลีกเลี่ยงการดื่มไปเลยจะดีกว่านะคะ
-
หลักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ทุกคนควรรู้
หลักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ทุกคนควรรู้ แม้ตอนเด็ก ๆ เราจะได้เคยเรียนรู้การปฐมพยาบาลมาบ้างในวิชาลูกเสือ แต่ก็ใช่ว่าถ้าได้เจอกับอุบัติเหตุเข้าจริง ๆ และพบผู้ที่บาดเจ็บจริง ๆ แล้วจะสามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างถูกวิธี ซึ่งส่วนใหญ่เรามักจะลังเลว่าที่กำลังจะไปช่วยเขานั้น จะทำให้เขาแย่ลงบ้างหรือเปล่า วันนี้เราจะขอนำหลักการปฐมพยาบาลที่ถูกต้องมาช่วยกันเผยแพร่ เพื่อช่วยกันให้ความช่วยเหลือผู้อื่นที่บาดเจ็บจากเหตุไม่คาดถึงกันได้ เพื่อลดความสูญเสียให้น้อยลงกันค่ะ วัตถุประสงค์หลักของการปฐมพยาบาลก็คือเพื่อลดความรุนแรงของการบาดเจ็บหรือความเจ็บป่วยลง ลดความเจ็บทรมาน ช่วยยืดชีวิตให้มากพอจนกว่าจะถึงมือหมอได้จริง ทั้งยังป้องกันความพิการและทำให้ผู้ป่วยฟื้นสภาพได้เร็วขึ้นด้วย โดยผู้ที่ต้องเข้าไปปฐมพยาบาลนั้นควรวิเคราะห์อาการต่าง ๆ ของผู้ได้รับบาดเจ็บก่อน แล้วจึงค่อยให้ความช่วยเหลืออย่างมีสติ ตามลำดับความจำเป็นดังต่อไปนี้ 1. อันดับแรกให้โทรเรียก หน่วยกู้ชีพ 1669 ก่อน อย่าเพิ่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปไหน ยกเว้นว่าจุดนั้นจะมีอันตราย เช่น ไฟไหม้ หรืออยู่กลางถนน ตึกถล่ม เป็นต้น และควรย้ายอย่างถูกวิธีด้วย 2. หากผู้ป่วยยังพอมีสติให้ถามว่าเจ็บตรงไหนแล้วให้การช่วยเหลือ หากผู้ป่วยมีเลือดออกให้ทำการห้ามเลือด หากไม่มีให้ความอบอุ่นกับตัวผู้ป่วย เพราะผู้ที่ตกใจนั้นส่วนใหญ่มักจะตัวเย็นและซีด ควรห่มผ้าให้อบอุ่น และหนุนลำตัวให้สูงกว่าหัวนิดหน่อยเพื่อให้เลือดไหลไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น 3. หากมีสิ่งของในปากผู้ป่วยให้ล้วงออกมา เช่น ฟันปลอม ของกินอื่น ๆ เพื่อป้องกันมิให้สำลักหรือหลุดลงคอไปอุดทางเดินหายใจ ให้ผู้ป่วยนอนหงาย แหงนศีรษะขึ้นเพื่อให้หายได้สะดวก 4. ตรวจร่างกายว่ามีรอยบาดเจ็บหรือไม่ เช่น…
-
ป้องกันหลับใน ก่อนเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน
ป้องกันหลับใน ก่อนเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน การหลับใน เป็นอาการทางร่างกายที่แม้เกิดขึ้นเพียงช่วยแว่บเดียว แต่อาจทำให้เกิดอุบัติสูญเสียชีวิตได้ในขณะขับรถเลยทีเดียว ดังนั้นสำหรับผู้ที่ต้องขับรถทุกคนควรหาทางป้องกันอาการหลับในไว้ทุกคนนะคะ ในช่วงระยะเวลาที่มีวันหยุดยาว ๆ หลาย ๆ วันอย่างในช่วงหน้าร้อนของประเทศไทยนี้ เป็นช่วงที่มีคนขับรถเพื่อไปท่องเที่ยวทางไกลกันมากที่สุดระยะหนึ่งของประเทศ นอกจากทางจะไกลและเที่ยวกันจนเพลียพักผ่อนไม่เพียงพอแล้ว การที่รถติดในเส้นทางไกล ๆ ด้วยอาการเหนื่อยก็เลยทำให้หลับในกันได้ไม่ยาก คนที่หลับใจจะเหมือนคนที่หูหนวกตาบอดไปชั่วอึดใจหนึ่ง เพราะว่าสมองภายในของคุณหลับไปแว่บหนึ่ง แล้วก็ยังไม่เรื่องที่ไม่สามารถบังคับกันได้ด้วย หากง่วงนอนมาก ๆ การหลับในเพียงชั่วไม่กี่วินาที นานพอที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตได้ การหลับในจึงเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุที่ค่อนข้างน่ากลัว วิธีที่ดีที่สุดก็คือการจับสังเกตอาการหลับในเพื่อหาทางป้องกัน พร้อมทั้งวิธีแก้ง่วงเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางดังวิธีต่อไปนี้ อาการหลับใน มาสังเกตดูซิ ! – หาวบ่อย ๆ และหาวอย่างต่อเนื่อง – เริ่มใจลอยและไม่มีสมาธิ – หงุดหงิดกระวนกระวาย และอ่อนล้า – เริ่มจำไม่ได้ว่าขับรถผ่านอะไรมาในระยะ 2-3 กิโลเมตรล่าสุด – หนักหนังตา ลืมตาไม่ขึ้น มองภาพเบลอ ๆ ไม่ชัด – รู้สึกมึนและหนักศีรษะ – ขับรถเริ่มส่ายไปมา หรือออกนอกเส้นทาง – มองข้ามป้ายจราจรและสัญญาญไฟจราจร…