Tag: อาเจียน
-
การระวังป้องกันและรักษาโรคติดต่อจากยุงในเบื้องต้น
การระวังป้องกันและรักษาโรคติดต่อจากยุงในเบื้องต้น โรคติดต่อจากยุงที่พบมากในภูมิภาคของเรานั้นก็ได้แก่ โรคไข้เลือดออก และไข้มาลาเรีย ยิ่งในฤดูฝนต่อฤดูหนาวแล้วก็ยิ่งพบได้บ่อยด้วย โรคไข้เลือดออกนั้นจะมีอาการไข้สูงตลอดเวลา หน้าแดงตาแดง ปวดท้อง อาเจียน มีผื่นหรือมีจุดจ้ำแดงขึ้นตามตัว ส่วนไข้มาลาเรียนั้น มักจะมีอาการจับไข้หนาวสั่นเป็นบางเวลา ทุกวัน หรือวันเว้นวันก็ได้ บางครั้งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มียุงมากได้ ก็ควรป้องกันตัวเองดังต่อไปนี้ค่ะ – ไม่ควรให้ยุงกัด ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม ควรนอนกางมุ้ง สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ห่มผ้าหนา ๆ ใช้กับดักยุง ทายากันยุง หรือใช้ตะไคร้หอม หรือใบกะเพราะดำคั้นน้ำมาทาตามลำตัวเพื่อไล่ยุง – ในบริเวณที่พักอาศัยและในชุมชน ควรกำจัดลูกน้ำยุงลาย โดยการปิดฝาภาชระใส่น้ำ คว่ำหรือทำลายภาชนะที่มีน้ำขัง โรยผงซักฟอกในภาชนะที่มีน้ำขัง เช่น ถาดรองกระถางต้นไม้ จานรองตู้กับข้าง ด้วยอัตราส่วน 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำสองลิตร หรือจะปล่อยปลาหางนกยูงหรือปลากัดลงในบ่อน้ำที่ไม่ได้ใช้ดื่มกิน – กำจัดยุงโดยการผสมผงซักฟอก สบู่เหลว แชมพู หรือน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำหนึ่งลิตร คนอย่าให้เป็นฟอง แล้วใส่กระบอกฉีดน้ำ ฉีดยุงที่เกาะตามบริเวณบ้าน การเยียวยาเบื้องต้นสำหรับผู้ที่เริ่มเป็นไข้ตัวร้อนแล้ว ก็คือไม่ควรอาบน้ำเย็น ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวแทน…
-
ดื่มยาหอมบำรุงหัวใจและระบบย่อยอาหาร
ดื่มยาหอมบำรุงหัวใจและระบบย่อยอาหาร อย่าเพิ่งคิดว่ายาหอมจะเป็นยาสำหรับคนแก่เท่านั้นนะคะ ความจริงแล้วยาหอมเป็นยาที่เหมาะสำหรับทุกวัยช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ได้ โดยในยาหอมแต่ละชนิดจะมีส่วนประกอบที่แตกต่างกันไป ซึ่งตามบัญชียาแผนโบราณสามัญประจำบ้านนั้น มียาหอมอยู่ถึงสี่ชนิดได้แก่ – ยาหอมเทพจิตรช่วยบำรุงหัวใจ แก้ลม – ยาหอมทิพโอสถ แก้ลมวิงเวียน – ยาหอมอินทจันทร์ แก้คลื่นไส้อาเจียนได้ – ยาหอมนวโกฐ แก้ลมคลื่นเหียนอาเจียน ยาหอมนั้นเป็นยาที่ช่วยปรับการทำงานของลมที่เคลื่อนไหวในร่างกาย (ตามหลักการแพทย์แผนไทย) ส่งผลต่อจิตใจ อารมณ์ และความรู้สึก คยาหอมบางชนิดปรับสมดุลการหมุนเวียนของเลือดที่เรียกว่าลมละเอียด และบางชนิดก็แก้ปัญหาที่ลมกองหยาบ ที่หมายถึงอาการจุกเสียดในท้อง ยาหอมไม่ใช่ยารักษาโรคโดยตรง แต่เป็นยาปรับสมดุลธาตุ ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ทำให้ลมไหลเวียนได้สะดวก ทำให้ระบบการเผาผลาญของร่างกายทำงานได้ตามปกติ การดูแลสุขภาพนั้นควรดูแลอวัยวะหลายส่วนทั้งภายในและภายนอกไปพร้อมกัน เพราะอวัยวะทุกส่วนต่างทำงานสัมพันธ์กัน และควรดูแลจิตใจให้ดีด้วย หากจำเป็นต้องใช้ยา ลองใช้ยาสมุนไพรพื้นบ้าน หรือลองหายาหอมไว้ประจำบ้านหรือติดกระเป๋าไว้ในบ้างก็ดีไม่น้อยเลยนะคะ
-
ปรับพฤติกรรมการกินเลี่ยงอาหารเป็นพิษ
ปรับพฤติกรรมการกินเลี่ยงอาหารเป็นพิษ อาหารเป็นพิษ นั้นหมายถึง อาหารป่วยที่เกิดจากการกินอาหารที่มีการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส พยาธิ หรือสารพิษต่าง ๆ รวมไปถึงสารเคมี โลหะหนักและสารพิษในธรรมชาติของสัตว์หรือพืช ไม่ว่าจะเป็น พิษจากเห็ดพิษ หรือพิษจากปลาปักเป้าหรือสาหร่ายบางชนิดด้วย ฯลฯ ยิ่งโดยเฉพาะในช่วงเดือน มี.ค. ถึงเดือน ก.ย. เป็นช่วงฤดูร้อนต่อฤดูฝน เชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ก็เจริญเติบโตได้ดี รวมไปถึงเห็ดตามธรรมชาติด้วย อีกทั้งพฤติกรรมการกินที่ชอบกินอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ อย่าง ลาบ ลวกจิ้ม ลู่ เหล่านี้ ก็ทำให้มีผู้ป่วยอาหารเป็นพิษมากเป็นพิเศษ หลังจากกินอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไปแล้วผู้ป่วยจะเกิดอาหารภายในเวลา 1 ชม. จนถึง 7-8 วัน จะทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ไข้ขึ้น เบื่ออาหาร ท้องเดิน บางรายอาจเป็นหนักมากจนสูญเสียน้ำและแร่ธาตุในร่างกาย จนอาจหมดสติและเสียชีวิตได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันระวังโรคอาหารเป็นพิษ ควรปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้ – ทานอาหารที่ปรุงสุกแล้วเท่านั้น หลีกเลี่ยงอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ทุกชนิด –…
-
พิษอันตรายจากสารตะกั่ว
พิษอันตรายจากสารตะกั่ว ตะกั่ว เป็นโลหะชนิดอ่อนที่สามารถพบได้ในธรรมชาติ เป็นโลหะที่มนุษย์สนใจความเป็นพิษของมันมากที่สุด เพราะมีการนำเอาตะกั่วมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมแบตเตอรี่รถยนต์, ตะกั่วอินทรีย์เป็นสารเคมีที่ใช้เติมน้ำมันเบนซิน, อุตสาหกรรมสีและสารเคมี, สารฆ่าแมลงจากตะกั่วอาร์เซนเนทในผสมสีทาอาคาร, สีที่ผสมในของเด็กเล่น, สีสำหรับวาดภาพ, สีที่ใช้พิมพ์ในหนังสือพิมพ์ วารสารต่าง ๆ ฯลฯ ต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้มนุษย์ทุกคนมีโอกาสสัมผัสกับตะกั่วได้แทบทุกวัน นอกจากนี้แล้วยังมีการนำเอาตะกั่วออกไซด์มาใช้เป็นเครื่องสำอางค์ด้วย กองพิษวิทยาเคยตรวจพบแป้งโยตัวเด็กมีตะกั่วปนอยู่ถึงร้อยละ 74 อันตรายต่อเด็กมาก อีกทั้งคนทั่วไปยังได้รับสารตะกั่วจากท่อไอเสียรถยนต์ อาหาร น้ำ สิ่งแวดล้อมอื่นๆ ตะกั่วเป็นโลหะที่ไม่จำเป็นในกระบวนการดำรงชีวิต จึงมีการกำหนดมาตรฐานป้องกันสารตะกั่วปนเปื้อนในอากาศ น้ำและอาหาร เพื่อความปลอดภัยของประชากรหลายประเทศและประเทศไทยด้วย พิษเรื้อรังของตะกั่วนั้นจะแสดงอาการออกมาหลังจากได้รับตะกั่วทีละน้อย อาจใช้เวลาเป็นปีกว่าจะแสดงอาการ ตะกั่วนั้นเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะไปจับกับเม็ดเลือดแดง แทนที่เหล็กซึ่งใช้ในการสร้างเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดอาการโลหิตจาง ปริมาณเหล็กในน้ำเหลืองเพิ่มผิดปกติ ตะกั่วบางส่วนจะไปสะสมในกระดูก ทำให้มีอาการปวดตามข้อ กระดูกผุและหักง่าย หากสะสมที่รากฟันทำให้เห็นสีม่วงหรือสีดำที่เหงือก ทำให้ฟันหลุดได้ง่าย นอกจากนี้แล้วยังสะสมในไขมัน ระบบประสาท น้ำเหลือง ตับไต อาการพิษเรื้อรังที่พบได้บ่อย ๆ ก็คือ ปวดท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก…
-
บรรเทาอาการกรดไหลย้อนด้วยตัวคุณเอง
บรรเทาอาการกรดไหลย้อนด้วยตัวคุณเอง เคยเป็นบ้างหรือเปล่าคะ “แสบร้อนบริเวณหน้าอกหลังทานอาหารหรือกำลังนอนหลับ” อาหารเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหัวใจและหลอดเลือดแต่อย่างใด แต่เกิดจากกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาบริเวณคอหอยและหน้าอก และมักจะเป็นในเวลากลางคืน ส่วนสาเหตุนั้นก็เกิดจากการที่กล้ามเนื้อหูรูดบริเวณท้ายของหลอดอาหารทำงานผิดปกติ กรดจึงไหลย้อนจากกระเพาะขึ้นมาสู่หลอดอาหาร กล้ามเนื้อของกระเพาะอาหารบีบตัวช้ากว่าปกติ ทำให้อาหารเคลื่อนตัวได้ช้า กรดจึงไหลย้อนขึ้นมาจากกระเพาะมากกว่าปกติ แล้วยังมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น แสบร้อนกลางอก หรือ HeartBurn ไอแห้ง ๆ ตอนกลางคืน เรอเปรี้ยว กลืนลำบาก เสียงแหบ อาเจียน เจ็บคอ น้ำหนักลด ฯลฯ เมื่อได้พบแพทย์แล้วได้ถูกบ่งชี้ว่าคุณเป็นโรคกรดไหลย้อนอย่างชัดเจน จะทำการรักษาด้วยการใช้ยาลดกรด ช่วยลดอาการแสบร้อนกลางอก และบรรเทาอาการจากกรดไหลย้อนได้ ยาลดกรดจะลดปริมาณของกรดในกระเพาะอาหารและเพิ่มการเคลื่อนตัวของระบบทางเดินอาหาร วิธีนี้ได้ผลดีในผู้ที่มีอาการไม่รุนแรง หรือแสบร้อนกลางอกเป็นครั้งคราว ถ้าอาการของคุณบ่งชี้ว่าเป็นภาวะกรดไหลย้อนอย่างชัดเจนจะทำการรักษาโดยใช้ยาลดกรดซึ่งต้องมีคุณสมบัติในการรักษาอาการแสบร้อนกลางอก และเป็นยาที่มีประสิทธิภาพบรรเทาอาการจากกรดไหลย้อนได้ เพื่อลดปริมาณกรดในกระเพาะอาหารและเพิ่มการเคลื่อนตัวของระบบทางเดินอาหาร ในการกำจัดกรดซึ่งจะช่วยลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหารใช้ได้ผลดีในผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงหรือมีอาการแสบร้อนหน้าอกเป็นครั้งคราว แล้วยาลดกรดยังช่วยดูดซับแก๊สในกระเพาะอาหาร ลดการเรอเปรี้ยวและความดันในท้อง และนอกจากนี้แล้ว เรายังควรดูแลตัวเองด้วยการปฏิบัติตามหลักดังต่อไปนี้ค่ะ ควรปรับพฤติกรรมการกินอาหารให้ทานเป็นมื้อเล็ก ๆ วันละ 4-6 มื้อ หัดเคี้ยวอาหารให้ละเอียด ๆ เพื่อลดภาระของกระเพาะอาหาร ไม่ควรทานอาหารทอด อาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน หรืออาหารที่มีไขมันสูง ไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่คับแน่นเพราะจะเป็นการเพิ่มแรงดันในช่องท้องกรดก็อาจจะไหลย้อนกลับขึ้นมาได้อีก…
-
กินร้อนช้อนกลาง.. ป้องกันเชื้อร้ายอีโคไล
กินร้อนช้อนกลาง.. ป้องกันเชื้อร้ายอีโคไล เชื้ออีโคไล เป็นเชื้อที่แพร่ระบาดและติดต่อกันได้ทางอาหารและน้ำ มีอาการถ่ายอุจจาระอย่างรุนแรง ปวดท้อง อาเจียน ถ่ายเหลวมีเลือดหรือมีมูกเลือด และมีอาการรุนแรงขึ้นขนาดไตวายและเสียชีวิตได้ เชื้ออีโคไลนี้เป็นโรคติดต่อทางเดินอาหารที่ร้ายแรง แต่ก็สามารถป้องกันได้ด้วยการระวังป้องกันดังต่อไปนี้ – ทานแต่อาหารที่ปรุงสุกใหม่ และไว้ใจว่าสะอาดเท่านั้น หรือหากเป็นอาหารที่ทำเก็บไว้ก็ควรอุ่นให้เดือนก่อนทานทุกครั้ง หลีกเลี่ยงอาหารดิบ ๆ สุก ๆ ที่อาจมีเชื้อร้ายหลบซ่อนอยู่ได้ – ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และเครื่องปรุงอาหารทั้งหมด ควรเลือกชนิดที่สะอาดและสดใหม่มาประกอบอาหาร ไม่ควรเลือกชนิดที่ไม่แน่ใจว่าเน่าเสียแล้วหรือไม่มาปรุงเด็ดขาด แม้จะมีราคาถูกก็ตาม – ล้างผักและผลไม้ให้สะอาด หากผักซ้อนเป็นชั้น ๆ ควรลอกหรือปอกเปลือกของผักหรือผลไม้ออกเป็นกลีบ ๆ หรือใบ ๆ แล้วตัดเล็มขอบรอบออก แช่น้ำไว้อย่างน้อย 30 oรที คลี่ใบเอานิ้วถูให้สะอาด หรือเปิดก๊อกน้ำให้น้ำไหลผ่านไว้อย่างน้อย 2 นาที ทั้งนี้สามารถใช้สารอื่น ๆ ช่วยล้างให้สะอาดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำส้มสายชู เบกกิ้งโซดา หรือเกลือ ฯลฯ – แยกอาหารดิบและอาหารสุกปรุงแล้วออกจากกัน รวมไปถึงมีด เขียง…
-
หน้าฝน “ป้องกันยุงเกิด.. อย่าให้ยุงกัด” ลดความเสี่ยงไข้เลือดออก
หน้าฝน “ป้องกันยุงเกิด.. อย่าให้ยุงกัด” ลดความเสี่ยงไข้เลือดออก. ฤดูฝนที่กำลังมาเยือนนี้ มีโรคระบาดที่น่าเป็นห่วงมากสำหรับเด็ก ๆ ก็คือ โรคไข้เลือดออกนั่นเอง เป็นโรคที่มักระบาดในช่วงที่มีฝนตกชุกจนเกิดน้ำขังตามภาชนะและสิ่งของต่าง ๆ ที่รองน้ำเก็บไว้โดยไม่เกิดการหมุนเวียนถ่ายเท ยุงลายซึ่งเป็นพาหะของโรคนี้จึงแพร่พันธุ์เกิดขึ้นได้มากมาย โดยเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของไข้เลือดออกนี้ชื่อว่า “ไวรัสเดงกี่” ที่จะอยู่ในตัวยุงลายที่ไปกัดคนที่ป่วยเป็นไข้เลือดออก แล้วไปกัดคนอื่น ๆ แพร่เชื้อต่อไปเรื่อย ๆ เพราะยุงตัวเมียที่พกพาไวรัสไปด้วยนี้จะมีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 4-6 อาทิตย์ เมื่อผู้ป่วยได้รับเชื้อไวรัสเดงกี่นี้ไปแล้วจะใช้เวลาฟักตัวประมาณ 2-7 วัน ผู้ป่วยจึงมักมีอาการไข้สูงอย่างฉับพลัน หน้าแดง ตัวแดง ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร มีผื่นหรือจุดแดงตามลำตัว แขนและขา กับทั้งมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน รวมทั้งอาจมีอาการปวดท้อง เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล ถ่ายสีดำได้ รวมไปถึงอาจเกิดอาการช็อกได้อีกโดยให้สังเกตว่าแม้ไข้จะลดแล้ว แต่ผู้ป่วยยังมีอาการซึม ตัวเย็น กระสับกระส่ายปวดท้อง อาเจียนหรือหมดสติอยู่ ทั้งหมดนี้อาจเกิดขึ้นได้หากไม่สังเกตอาการและรักษาไม่ทันการ ดังนั้นผู้ปกครองจึงควรดูแลเด็กๆ และบุตรหลานอย่างใกล้ชิด หากเด็กมีไข้สูงเฉียบพลัน ควรเช็ดตัวลดไข้และให้ยาลดไข้พาราเซตามอลชนิดน้ำเชื่อมเพื่อให้ทานง่าย และใช้ตามขนาดที่กำหนดทุก ๆ 4-6 ชั่วโมง เมื่อไข้ลดแล้วจึงหยุดยา (หลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพรินเพราะอาจทำให้เกิดอาการช็อกรุนแรงได้)…
-
มุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับ “ไข่” ระหว่างสหรัฐอเมริกาและอียู
มุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับ “ไข่” ระหว่างสหรัฐอเมริกาและอียู ในระยะปี 1996 ถึงปี 2012 นั้น มีการระบาดของเชื้อซัลโมเนลล่าในสหรัฐอเมริกาถึง 45 ครั้ง ทำให้มีคนป่วยถึง 1,581 ราย มีอการหนักถึงต้องพักรักษาในโรงพยาบาล 221 คน และมีผู้เสียชีวิต 5 ราย และจากสถิติการระบาดของเชื้อท้องเสียซาลโมเนลลในสหรัฐฯ ช่วงปี 2004-2008 มีสาเหตุมาจากสัตว์ปีก 29% ไข่ 18% ซึ่งก็เท่ากับ 47% หรือเกือบครึ่งจากสาเหตุทั้งหมด (ที่เหลือมาจากเนื้อหมู 12% เนื้อวัว 8% และไวน์, พืชผัก, ผลไม้และ เมล็ดพืชเปลือกแข็ง (นัท เช่น อัลมอนด์ ฯลฯ) 13% อื่นๆ 20% ) จากเดิมเคยเชื่อว่าไข่นั้นติดเชื้อซัลโมเนลล่าผ่านการปนเปื้อนมูลสัตว์ หรือติดจากทางเดินอาหาร แต่การศึกษาใหม่พบว่า เชื้อท้องเสียซาลโมเนลลา ผ่านจากทางเดินอาหาร (ลำไส้) เข้าสู่กระแสเลือดสัตว์ปีกก่อน ทำให้รังไข่ติดเชื้อ และมีโอกาสพบเชื้อในไข่ที่…
-
ท้องหรือไม่ สังเกตง่าย ๆ จากอาการดังต่อไปนี้
ท้องหรือไม่ สังเกตง่าย ๆ จากอาการดังต่อไปนี้ อาการคนแพ้ท้องนั้นมีความแตกต่างกันไปแล้วแต่ผู้หญิงแต่ละคน บางคนก็อาจมีอาการคล้ายแม่หรือแม่สามีของตัวเอง บ้างก็คลื่นไส้อาเจียน บ้างก็อยากทานของดอง ของเปรี้ยว หรือของแปลกอื่น ๆ แต่บางคนก็มีอาการที่ไม่เหมือนคนท้องเลยซักนิด เรามาดูกันดีกว่าว่าคนท้องส่นมากมีอาการแสดงออกมาอย่างไรกันบ้าง – รอบเดือนขาดหายไป การสังเกตที่รอบเดือนแบบนี้อาจจะไม่ค่อยแม่นยำเท่าไรนัก เพราะผู้หญิงบางคนก็อาจมีรอบเดือนที่ไม่สม่ำเสมอ บางเดือนก็มาตรงเวลา บางเดือนก็เลทไป ตรวจด้วยเทสเตอร์จะดีกว่าค่ะ – เข้าห้องน้ำบ่อย ๆ เพราะการขยายขนาดของมดลูกอาจมากขึ้นจนไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ผู้ที่ตั้งครรภ์ปวดฉี่อยากเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ – คลื่นไส้อาเจียน เป็นอาการที่พบได้บ่อย ๆ สำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ บางคนอาจเป็นตลอดจนแต่บางคนก็เป็นแค่บางช่วยเวลา หรือระยะสั้น ๆ ก็มี – อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ได้ง่าย อาการเห็นได้ชัดว่าขี้โมโห หงุดหงิดง่ายขึ้นกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ จนถึงกับร้องไห้กับเรื่องไม่เป็นเรื่องได้ด้วย – มีประสาทสัมผัสทางจมูกที่ไวกว่าเดิม รับรู้กลิ่นได้มากขึ้น บางทีก็เหม็นกลิ่นของที่ตัวเองเคยชอบได้ ไม่ว่าจะเป็นของกินหรือกระทั่งน้ำหอมที่เคยชอบ – อ่อนเพลียและเหนื่อยล้ามากกว่าเดิม ง่วงบ่อย…
-
สรรพคุณของน้ำยาอุทัยทิพย์ ที่ได้จากสมุนไพรและเกสรดอกไม้ทั้งห้าชนิด
สรรพคุณของน้ำยาอุทัยทิพย์ ที่ได้จากสมุนไพรและเกสรดอกไม้ทั้งห้าชนิด น้ำยาอุทัย คือสารสกัดจากธรรมชาติที่เมื่อนำมาหยดน้ำดื่มแล้ว แสนสดชื่นเย็นรื่นในอกนะคะ วันนี้ลองมาดูสรรพคุณของเกสรดอกไม้ที่ผสมอยู่ในน้ำยาอุทัยทิพย์กันบ้างดีกว่าว่ามีสรรพคุณอะไรกันบ้าง – ฝาง สีแดง ๆ น้ำยาอุทัยฯ มาจากเนื้อไม้ฝาก ช่วยบำรุงหัวใจ และบำรุงเลือด – ดอกพิกุล ช่วยแก้ไข บำรุงหัวใจ แก้เจ็บคอและปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ – ดอกมะลิ ให้รสเย็น ช่วยบำรุงหัวใจและเป็นยาชูกำลังชั้นดี – หญ้าฝรั่น ช่วยบำรุงโลหิต บำรุงกำลังและแก้ไขได้ – ดอกสารภี เป็นยาหอมบำรุงหัวใจ ชูกำลัง แก้โลหิตพิการ ช่วยให้เจริญอาหาร – ดอกบุนนาค บำรุงธาตุ ขับลม บำรุงเลือด หัวใจ แก้ไข้ แก้ลมหาวเรอ แก้ตามัว – ดอกคำฝอย บำรุงหัวใจและระบบประสาท ป้องกันการอุดตันของไขมันในเส้นเลือด – ดอกเก๊กฮวย แก้ร้อนใน บำรุงหัวใจ – เกสรบัวหลวง ช่วยให้สดชื่นขึ้น แก้หน้ามืด – อบเชย…