Tag: อัมพฤกษ์

  • ป้องกันตัวเองจากอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต

    ป้องกันตัวเองจากอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต

    ป้องกันตัวเองจากอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต ทุกปีจะมีคนเสียชีวิตจากอาการอัมพาตถึงกว่าปีละหกล้านคน มากกว่าการตายจากโรคเอดส์ วัณโรคและมาเลเรียรวมกันเสียอีก เฉพาะในประเทศไทยเองมีคนตายจากโรคหลอดเลือดสมองโดยเฉลี่ยถึงวันละเกือบ 40 ราย หากคุณไม่อยากเป็นหนึ่งในนั้น ก็ควรมาทำความรู้จักกับโรคนี้และหาวิธีป้องกันไว้ก่อนดีกว่า โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือโรคหลอดเลือดสมองนี้เป็นโรคที่เกิดจากการที่สมองได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ ทำให้สูญเสียการควบคุมการทำงานของร่างกาย แบ่งออกเป็นหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน และอีกชนิดก็คือหลอดเลือดสมองแตก ผู้ที่มีความเสี่ยงมากก็จะเป็นในกลุ่มผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง มีกรรมพันธ์เป็นโรคหลอดเลือดสมอง กลุ่มคนอ้วน ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย รวมไปถึงผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำและผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะด้วย ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่กล่าวมานี้ควรใส่ใจสุขภาพให้มากขึ้น จะป้องกันได้กว่าร้อยละ 80 ควรปฏิบัติตามดังต่อไปนี้ 1. ควบคุมน้ำหนักตัวอย่าให้อ้วนเกินมาตรฐาน โดยให้มีค่าดัชนีมวลกายอยู่ที่ 18.5-22.9 กิโลกรัมต่อตารางเมตร 2. ลดอาหารหวาน มัน เค็ม แล้วทานผักและผลไม้ไม่หวาน รวมไปถึงธัญพืชต่าง ๆ ให้มากขึ้น 3. หากตนเองเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือโรคอื่น ๆ ก็ควรเข้ารับการตรวจรักษาจากแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำ 4. ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง อาทิตย์ละ 3-4 วัน 5. งดการดื่มเหล้า และการสูบบุหรี่ รวมไปถึงควันบุหรี่มือสองด้วย…

  • ผู้หญิงวัยทอง อ้วนง่ายขึ้นนะจ๊ะ

    ผู้หญิงวัยทอง อ้วนง่ายขึ้นนะจ๊ะ

    ผู้หญิงวัยทอง อ้วนง่ายขึ้นนะจ๊ะ ในผู้หญิงวัยทองเมื่อฮอร์โมนหมดไปแล้วจะมีอาการหงุดหงิดได้ง่าย อารมณ์แปรปรวน นอนไม่หลับและใจสั่น ซึ่งอาการก็ไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่สิ่งที่รุนแรงกว่าคือโรคเรื้อรังที่เกิดจากวัยหมดประจำเดือน เกิดจากความชราภาพของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายตามกระบวนการธรรมชาติ ซึ่งฮอร์โมนก็เป็นส่วนหนึ่งด้วย หากร่างกายมีภาวะอ้วนน้ำหนักเกิน ความเสี่ยงก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีกที่จะเป็นโรคความดันโลหิต เบาหวาน ไขมันเลือด โรคมะเร็ง โรคหัวใจขาดเลือด อัมพฤกษ์ อัมพาตได้ง่ายมากยิ่งขึ้นด้วย ในช่วงวัยหมดประจำเดือนจึงต้องเป็นช่วงเวลาที่ควบคุมการเพิ่มของน้ำหนักอย่างเข้มงวด เพราะเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุของโรคร้ายแรงที่อาจคร่าชีวิตก่อนวัยอันควรได้ ในวัยอื่นนั้น ปัจจัยที่ทำให้ร่างกายมีความอ้วนน้ำหนักเกินขึ้นอยู่กับการทานอาหารเป็นสำคัญ แต่ในวัยหมดประจำเดือน บางครั้งแม้จะควบคุมอาหารอย่างเต็มที่แล้วก็ยังไม่สามารถควบคุมน้ำหนักไว้ได้ ซึ่งทางที่ดีที่สุดก็คือควรควบคุมไว้ตั้งแต่วัยก่อนหมดประจำเดือน ในสังคมคนเมืองปัจจุบันนี้อาหารการกินกลับเริ่มแย่ลง คนเรากินอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีไขมันสูง ไม่มีคุณค่าทางอาหารมากขึ้น ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนได้ง่าย จริงอยู่ว่าเราอาจไม่สามารถทำอาหารทานเองได้ทุกมื้อ แต่เป็นไปได้ก็ควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ มีไขมันต่ำ มีรสหวานน้อย ๆ เค็มน้อย ๆ แล้วทานผักผลไม้ให้มากขึ้น ก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้ตั้งแต่วัยก่อนหมดประจำเดือน ในส่วนของการออกกำลังกาย อย่างน้อยที่สุดควรให้ร่างกายได้ออกกำลังกายบ้าง แต่ละวันให้มีเวลาเดินเล่นอย่างน้อย 30-60 นาที จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นมาก ควรเดินในเวลาที่มีแดดอ่อน ๆ อย่างช่วงเช้า ช่วงเย็น การตากแดดอ่อน ๆ จะช่วยให้ผิวหนังได้รับวิตามินดี ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย เพราะเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันรุดหน้าไปมาก…

  • เป็นโรคความดันโลหิตสูงต้องลดอาหารเค็มนะ

    เป็นโรคความดันโลหิตสูงต้องลดอาหารเค็มนะ

    เป็นโรคความดันโลหิตสูงต้องลดอาหารเค็มนะ โรคความดันโลหิตสูงคือ โรคที่ผู้ป่วยมีค่าความดันโลหิตเกินกว่า 140/90 ขึ้นไป เป็นฆาตกรเงียบ ผุ้ป่วยมักไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีอาการ อาจมีอาการเตือนบ้างเช่น ปวดมึนท้ายทอย วิงเวียน ปวดหัวตุบ ๆ ยิ่งปล่อยให้เป็นนานเท่าไรก็ยิ่งเป็นอันตรายต่อหลอดเลือดทั่วร่างกายเท่านั้น ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต กล้ามเนื้อหัวใจวายเฉียบพลัน ไตวาย ฯลฯ ซึ่งมีความอันตรายมาก ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงความดูแลตนเอง ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทานผัก ผลไม้สดไม่หวานและลดอาหารที่มีรสหวานมันเค็ม อีกทั้งยังควรผ่อนคลายความเครียดด้วย อีกสองอย่างที่ควรเลิกอย่างเด็ดขาดเลยก็คือเหล้าและบุหรี่ สาเหตุที่คนป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงควรลดอาหารเค็ม ก็เพราะในเกลือนี้จะมี โซเดียม อยู่มากโซเดียมจะดูดน้ำได้ดี นอกจากพบมากในเกลือแล้ว ยังพบได้อีกใน ผงชูรส สารกันเสีย ผงฟูที่ใส่ในอาหารพวกเบเกอรี่ ขนมปังต่าง ๆ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าเวลาทานอาหารเหล่านี้แล้วเรามักหิวน้ำมากนั่นเอง การงดอการเค็มก็เพื่อป้องกันมิให้น้ำคั่งในร่างกายมากขึ้น น้ำเลือดเพิ่มขึ้นแต่หลอดเลือดมีขนาดเท่าเดิม บางคนยังแข็ง ตีบ เปราะอีก อาจทำให้เกิดแรงดันในหลอดเลือดสูงขึ้น จนเส้นเลือดแตกหรือฉีกขาดได้ นอกจากนี้การกินเค็มมากยังทำให้เกิดมะเร็งในกระเพาะอาหารได้อีก ซึ่งการลดโซเดียมในอาหารนี้ก็มีเคล็ดลับง่าย ๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ – ไม่เติมเครื่องปรุงเพิ่มไม่ว่าจะเป็น ผงชูรส น้ำปลา เกลือ…

  • สัญญาณอันตรายของโรค อัมพฤกษ์ อัมพาต!

    สัญญาณอันตรายของโรค อัมพฤกษ์ อัมพาต!

    สัญญาณอันตรายของโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต! โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือ โรคหลอดเลือดสมองนั้น นับเป็นโรคที่อันตรายและเป็นสาเหตุของการตายเป็นลำดับต้น ๆ ของคนไทย แม้จะรอดมาได้แต่ก็ต้องอยู่อย่างพิการ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน คอเลสเตอรอลในเลือดสูง มีกรรมพันธุ์หรือญาติสายตรงเคยเป็นโรคหลอดเลือดสมองมาก่อน ไม่ยอมออกกำลังกาย อ้วนน้ำหนักเกินมาตรฐาน สูบบุหรี่ และมีภาวะหัวใจห้องบนเต้นแผ่วระรัว ผู้ที่มีอาการของโรคหลอดเลือดสมองมักจะสัญญาณเตือนได้แก่ – อ่อนแรงบริเวณใบหน้า แขนขาแบบฉับพลัน และมักจะเป็นข้างเดียวของร่างกาย – จู่ ๆ ก็พูดไม่รู้เรื่อง สับสน พูดลำบาก – ตามัว หรือมีปัญหาการมองเห็นทันทีอาจเป็นข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ – มึนงง เสียสมดุลในการเดินแบบฉับพลันทันด่วน หากพบเห็นผู้ใดมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งข้างต้นแค่ข้อเดียวหรือหลายข้อรวมกัน ควรรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที และควรมาให้ทันภายใน 3 ชั่วโมงที่มีอาการ ผู้ป่วยจะมีโอกาสรอดจากภาวะอัมพฤกษ์อัมพาต และหายได้ ในส่วนของการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองนี้ มีแนวทางง่าย ๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ 1. ควบคุมความดันโลหิต ระดับของน้ำตาล และไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน 2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3-4…

  • สัญญาณเตือนก่อนเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต

    สัญญาณเตือนก่อนเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต

    สัญญาณเตือนก่อนเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือโรคหลอดเลือดสมองนั้น เกิดจากการที่สมองได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่พอเพียงจึงสูญเสียการควบคุมร่างกายไป มีสถิติพบว่ามีคนเกิดอาการเช่นนี้ถึงราว 3 ในทุกสองชั่วโมงและยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกด้วย อาการของสมองขาดเลือดชั่วคราวนั้นอาจมีเพียงอาการเดียวหรือมากกว่าก็ได้ แต่จะมีอาการที่สังเกตและจดจำได้ง่ายดังตัวย่อว่า FAST นี้ ได้แก่ Face ดูที่ใบหน้า จะเห็นว่าเวลายิ้มมุมปากข้างใดข้างหนึ่งตกลงหรือดื่มน้ำแล้วน้ำไหลออกมุมปากข้างใดข้างหนึ่งควบคุมไม่ได้ Arms ดูที่ท่อนแขน จะยกแขนข้างใดข้างหนึ่งไม่ได้ Speech ดูที่การพูด มีปัญหาทางด้านการพูดแม้แต่ประโยคง่าย ๆ ก็พูดให้คนอื่นเข้าใจไม่ได้ Time สังเกตที่เวลา หากมีอาการเหล่านี้ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลภายในสามชั่วโมง การจำหลักเหล่านี้จะสามารถสังเกตอาการที่สำคัญของโรคหลอดเลือดสมองและจะได้นำตัวเองหรือผู้ป่วยใกล้ชิดส่งแพทย์ได้ทันเวลา จะสามารถช่วยรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยได้กลับมาเป็นปกติหรือใกล้เคียงได้มากที่สุด โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพตัวเองดังนี้ 1. ควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม ตามส่วนสูงและโครงร่าง มีเกณฑ์อยู่ว่าผู้ใหญ่ควรมีค่าดัชนีมวลกายหรือ BMI อยู่ในช่วงระหว่าง 18.5-22.9 2. งดหรือหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสชาติหวาน มีไขมันมาก หรือเค็มจัด กินผัก ผลไม้ที่ไม่หวาน และอาหารพวกธัญพืชเพิ่มขึ้น 3. ตรวจเช็คตัวเองว่ามีความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือไขมันในเลือดสูงหรือโรคอื่นหรือไม่แล้วควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษา 4. ออกกำลังกายในระดับปานกลางอย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง สัปดาห์ละ 3-4 วันขึ้นไป 5.…

  • ทำความเข้าใจกับโรคหลอดเลือดสมองกัน

    ทำความเข้าใจกับโรคหลอดเลือดสมองกัน

    ทำความเข้าใจกับโรคหลอดเลือดสมองกัน โรคหลอดเลือดสมอง คืออาการที่มีสาเหตุมาจากหลอดเลือดในสมองถูกอุดกั้นอย่างทันที ทำให้เลือดไหลผ่านไม่ได้ สมองจึงขาดออกซิเจนและสารอาหารอื่น ๆ เรียกว่า ภาวะเส้นเลือดสมองตีบหรือสมองขาดเลือดจากลิ่มเลือดอุดตันก็ได้เช่นกัน ส่วนสาเหตุอื่น ๆ ได้แก่การที่เส้นเลือดสมองแตกจะทำให้มีเลือดไหลซึมอยู่รอบ ๆ เนื้อสมอง เซลล์ประสาทที่อยู่ในสมองจะขาดออกซิเจนและสารอาหารก็จะตายอย่างรวดเร็วเช่นกัน รวมไปถึงร่างกายในส่วนที่เซลล์ประสาทเหล่านี้ควบคุมอยู่ด้วย ซึ่งมักจะเป็นไปอย่างถาวร ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดูแลผู้ป่วยให้เร็วที่สุดเพื่อลดความพิการทั้งทางร่างกายและจิตใจในระยะยาว ซึ่งจะรักษาได้ดีที่สุดหากได้รับความช่วยเหลือให้มาถึงโรงพยาบาลภายในสามชั่วโมงที่เกิดอาการ มิเช่นนั้นอาจช้าเกิดนกว่าจะได้รับการรักษาให้กลับมาดีขึ้นได้ อาการแสดงของโรคหลอดเลือดสมองที่พบบ่อยและเกิดขึ้นอย่างทันทีทันใดก็คือ – มีอาการอ่อนแรงหรือชาที่ใบหน้า แขนขา ซึ่งมักเป็นที่ซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย – พูดไม่ออกหรือฟังไม่เข้าใจ – มองเห็นภาพพร่ามัว หรือมองไม่เห็น อาจเป็นข้างเดียวหรือสองข้าง – เวียนหัว การทรงตัวไม่ดี – ปวดศีรษะอย่างรุนแรงโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งผลจากโรคนี้ขึ้นอยู่กับว่าสมองมีการอุดตันของเลือดที่บริเวณใด อาจมีอาการเพียงเล็กน้อยหรือเกิดเป็นระยะเวลาแค่สั้น ๆ ไม่กี่นาที เรียกว่าสมองขาดเลือดชั่วคราวหรืออัมพฤกษ์ แม้จะเป็นอาการไม่รุนแรงหรือเป็นแค่เวลาสั้น ๆ อย่างไรก็ควรรีบส่งโรงพยาบาลโดยด่วน  

  • ปรับพฤติกรรมและการใช้ชีวิตลดโรคความดันโลหิตสูงได้

    ปรับพฤติกรรมและการใช้ชีวิตลดโรคความดันโลหิตสูงได้

    ปรับพฤติกรรมและการใช้ชีวิตลดโรคความดันโลหิตสูงได้ ในประเทศไทยเองมีผุ้ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงที่ไม่รู้ตัวว่าป่วยอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนมากเพราะไม่แสดงอาการออกมา บางรายอาจแค่มึนงง หรือปวดหัวบริเวณท้ายทอย จึงไม่ไปตรวจรับการรักษา เมื่อเป็นนาน ๆ เข้า หลอดเลือดแดงในร่างกายจึงแข็งตัวและตีบตัน เลือดจึงไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ไม่พอ เกิดภาวะหัวใจโต ไตเสื่อม จนไตวายได้ เส้นเลือดในสมองตีบหรือแตกอาจเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเสียชีวิตได้ โรคนี้จึงอันตรายมากเพราะเป็นโรคแอบแฝง แต่สามารถคร่าชีวิตเราได้ทุกเมื่อ ผู้ใหญ่ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งประเทศไทยด้วยนั้น มีภาวะป่วยเป็นความดันโลหิตสูงถึง 1 ใน 3 คน เสียชีวิตปีละ 1.5 ล้านคนเลยทีเดียว ดังนั้นเพื่อป้องกันภาวะความดันโลหิตสูง ควารดูแลตนเองด้วยหลัก 3 ข้อดังต่อไปนี้ 1. รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน อย่าให้อ้วนเกินไป มีค่า BMI อยู่ระหว่าง 18.5-22.9 2. เลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกาย รสชาติพอดีไม่ปรุงแต่งมากเกินไปจนเค็ม หวานหรือมัน ชิมอาหารก่อนปรุงทุกครั้ง ทานผักและผลไม้ที่ไม่หวานให้มากขึ้น เลือกอบายมุขทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และน้ำหวานน้ำอัดลมต่าง ๆ ด้วย 3. หมั่นขยับเขยื้อนร่างกายเสมอ…

  • จิตใจดี อารมณ์ดีป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง

    จิตใจดี อารมณ์ดีป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง

    จิตใจดี อารมณ์ดีป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดสมอง เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งล้วนมีต้นเหตุมาจากอารมณ์ของคนด้วยส่วนหนึ่ง คนที่อารมณ์ดี มักจะดูสดใสมีชีวิตชีวิต คนที่อยู่รอบข้างก็รู้สึกเย็น ๆ สบายใจ คนในครอบครัวก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข มีแต่คนอยากเข้ามาคุยด้วย ในทางตรงข้ามหากเป็นคนที่ขี้โมโหหงุดหงิด ขี้บ่นแล้วก็คงไม่มีใครอยากเข้าหาเป็นแน่ การที่เรามีอารมณ์ดีนั้นไม่ได้ส่งผลต่อคนรอบข้าง หน้าที่การงานเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพกายอีกด้วย ผู้ที่มักมีอารมณ์ร้าย ๆ จึงทำให้ร่างกายอ่อนแอเป็นโรคได้มากเช่นกัน – ผู้ที่มีอารมณ์ด้านลบ มักมีความเครียดสูง มีความคาดหวังสูง ไม่พอใจกับนสิ่งรอบตัว หงุดหงิด โมโหได้ง่าย รวมไปถึงมักมีอารมณ์อาฆาตพยายามแรงด้วย ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง หรือสโตรคได้มาก – คนที่วิตกกังวลบ่อย ๆ มักชอบกลัวความผิดพลาด ร้อนใจ และวุ่นวายใจกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ไม่อยู่กับปัจจุบัน ขาดความมั่นใจ มักจะเป็นคนที่ไม่ค่อยดูแลตนเอง กินนอนไม่ถูกสุขอนามัย มักสูบบุหรี่และออกกำลังกายน้อยกว่าปกติอีกด้วยค่ะ – คนท้อแท้หดหู่ มักชอบคิดว่าตัวเองไม่มีค่า ไม่มีที่พึ่ง ไม่มีเพื่อน มักรู้สึกหงอยเหงา เปล่าเปลี่ยน เบื่อ ละเหี่ยใจ ห่อเหี่ยวสิ้นหวัง จะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมองมากกว่าคนทั่วถึงสามเท่า การรักษาสภาพจิตใจให้ดี อารมณ์ดีอยู่เสมอช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมองได้เพราะ…

  • ขยับเนื้อตัวเสียบ้าง ป้องกันโรคร้ายทั้งเจ็ด

    ขยับเนื้อตัวเสียบ้าง ป้องกันโรคร้ายทั้งเจ็ด

    ขยับเนื้อตัวเสียบ้าง ป้องกันโรคร้ายทั้งเจ็ด การขยับเขยื้อนร่างกายเพื่อให้สุขภาพดีขึ้นนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นการออกกำลังกายที่ต้องมีกฎ กติกา พื้นที่ อุปกรณ์อะไรเหล่านั้นหรอกค่ะ การขยับร่างกายซ้ำ ๆ หรือกายบริหารเบาๆ ที่สามารถทำให้ร่างกายได้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ ก็ช่วยฟิตหรือเสริมความแข็งแรงให้กับร่างกายได้แล้ว สำหรับผู้ที่ทำงานนั่งโต๊ะทั้งวันหรือนั่ง ๆ นอน ๆ ทั้งวันไม่ได้ทำอะไร อาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ดังต่อไปนี้ – เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดตีบและโรคหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจตาย 1.5-2 เท่า – อัมพฤกษ์ อัมพาต 1.5-2 เท่า – ความดันโลหิตสูง 1.3-1.5 เท่า – เบาหวาน 1.3-1.5 เท่า – มะเร็งลำไส้ใหญ่ 1.3-2 เท่า – มะเร็งเต้านม 1.1-1.3 เท่า – กระดูกพรุน 1.5-2 เท่า รวมไปถึงโรคอ้วน น้ำหนักเกิน และโรคอื่น ๆ อีกกว่า 20 โรคด้วย ดังนั้นในแต่ละวันเราควรหากิจกรรมทำเพื่อขยับเขยื้อนร่างกายบ้าง…

  • มาวิ่งจ๊อกกิ้งกันเถอะค่ะ !!!

    มาวิ่งจ๊อกกิ้งกันเถอะค่ะ !!!

    มาวิ่งจ๊อกกิ้งกันเถอะค่ะ !!! ช่วงเวลาที่อากาศดี ๆ ฝนไม่ตกเท่าไรอย่างระยะปลายหน้าฝนเข้าสู่หน้าหนาวนี้ ตามสนามกีฬากลางแจ้งมักจะพบนักวิ่งที่พากันวิ่งออกกำลังกาย หลังจากอัดอั้นกันมากในฤดูฝนที่ฝนตกเฉอะแฉะจนไม่ได้ออกกำลังกายกันเลย การวิ่งจ๊อกกิ้งนั้นเป็นกีฬาที่แทบไม่ต้องมีต้นทุนอะไรเลย นอกจากรองเท้าดี ๆ สักคู่หนึ่งแล้ว แต่กลับเป็นกีฬาที่ให้ประโยชน์มากมาย ช่วยป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไต อัมพฤกษ์ อัมพาต เบาหวาน โรคอ้วน ฯลฯ ดังนั้นแล้วก่อนที่สุขภาพจะแย่เพราะไปรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงมากเกินไป จึงควรหันมาออกกำลังกายกันดีกว่าค่ะ แม้ในระยะแรก ๆ จะเหนื่อยมากกับการวิ่ง อาจต้องวิ่งไปเดินไปอยู่บ้าง แต่เมื่อหัดวิ่งไปมาก ๆ เข้าก็จะเริ่มวิ่งได้นานขึ้นจนกลายเป็นวิ่งเป็นชั่วโมงได้สบาย ๆ เลยทีเดียว คู่มือสำหรับนักวิ่งหน้าใหม่นั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมาก เพียงเลือกซื้อรองเท้าสำหรับวิ่ง หรือรองเท้าที่สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี สวมเสื้อผ้าที่สบายและระบายเหงื่อได้ง่าย และควรเลือกสถานที่วิ่งเป็นพื้นที่เรียบ ไม่ว่าจะเป็นบนฟุตบาทที่ปลอดภัยและมีพื้นผิวราบเรียบ บนพื้นถนนที่ราดยางหรือคอนกรีตป้องกันเท้าพลิกหรือสะดุด ขณะที่ไปวิ่งไม่ควรทานอาหารจนอิ่มมากเกินไป ควรทานอาหารเบา ๆ ก่อนวิ่งสักครึ่งชั่วโมงเพื่อให้อาหารได้ย่อยก่อน ดื่มน้ำล่วงหน้าแต่ไม่ต้องมากนัก และหลังการวิ่งทุกครั้งให้ดื่มน้ำเข้าไปทดแทนเหงื่อที่ไหลออกไป ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้นด้วย การวิ่งจ๊อกกิ้งเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้หัวใจบีบส่งเลือดได้ดีขึ้น เลือดจึงไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อและอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ หลอดเลือดขยายตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น…