Tag: หัวใจ
-
สังเกตตัวเอง.. ว่ามีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจหรือเปล่า
สังเกตตัวเอง.. ว่ามีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจหรือเปล่า บางทีโรคหัวใจก็สามารถเกิดขึ้นในร่างกายของคนที่มีสุขภาพดีได้เหมือนกัน โรคนี้เป็นโรคที่จำเป็นต้องเฝ้าระวัง ดังนั้นเราจึงควรหมั่นสังเกตตัวเองไว้ดังต่อไปนี้ค่ะ – เหนื่อยเวลาออกกำลังกายแม้เพียงเล็กน้อย แต่กลับเหนื่อยผิดปกติ เพราะในขณะที่เรากำลังออกกำลังกายหัวใจจะทำงานหนักขึ้น คุณจึงรู้สึกได้ถึงความเหน็ดเหนื่อยมากขึ้นค่ะ – มักจะเจ็บหน้าอก หายใจอึดอัด และแน่นบริเวณหน้าอก พบมากในผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและไขมันอุดตันในหลอดเลือดหัวใจ อาการจะคล้ายมีของหนักกดทับหน้าอกไว้หรือมีโดนรัดหน้าอกทำให้หายใจไม่ออก – เป็นลมหมดสติบ่อย ๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ เกิดเพราะจังหวะการเต้นของหัวใจไม่สม่ำเสมอ เพราะเซลล์ที่ทำหน้าที่ให้จังหวะไฟฟ้าในหัวใจเสื่อมสภาพ หัวใจจึงเต้นช้าลง เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ จึงทำให้เป็นลมได้ ใครเป็นลมหมดสติบ่อย ๆ ควรรีบไปพบแพทย์ – เท้าหรือขาบวม เมื่อกดดูแล้วมีรอยบุ๋มตามนิ้ว และเป็นโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน เพราะคุณอาจอยู่ในภาวะหัวใจล้มเหลวไม่รู้ตัวเมื่อใดก็ได้ – หัวใจหยุดเต้นกะทันหัน มักเกิดกับคนที่ปกติไม่มีอาการของโรคหัวใจมาก่อน หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วอาจถึงกับเสียชีวิตได้ – ตรวจพบความผิดปกติ เช่น เป็นเบาหวานหรือมีไขมันในเลือดสูง หรือเอ็กซเรย์พบว่าหัวใจโตกว่าปกติ ก็มีความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดหัวใจตีบได้เช่นกัน นับว่าเป็นความเสี่ยงที่สูงไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรรีบไปพบแพทย์ด้วย ส่วนผู้ที่ยังมีหัวใจเป็นปกติอยู่นั้น เราก็ควรดูแลสุขภาพของตัวเองไว้ก่อนที่จะเกิดโรคหัวใจตามมา ได้แก่ การหมั่นสังเกตความผิดปกติของตนเองอยู่เสมอ เช็คอัตราการเต้นของหัวใจว่าปกติดีหรือไม่ มีอาการดังกล่าวข้างต้นบ้างหรือเปล่า และควรออกกำลังกายเป็นประจำ หลีกเลี่ยงความเครียด ดูแลจิตใจให้สดใสเสมอ…
-
ดูแลหัวใจของคุณ…ให้ดีนะ
ดูแลหัวใจของคุณ…ให้ดีนะ โรคที่เป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งก็คือโรคหัวใจนั่นเองค่ะ แล้วก็ยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งในประเทศไทยนั้นมีคนตายจากกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด ทั้งโรคหัวใจขาดเลือด หัวใจล้มเหลว หลอดเลือดสมองและความดันโลหิตสูง ฯลฯ และแต่ละปียังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างน่ากลัวอีกด้วยค่ะ ซึ่งสาเหตุของโรคหัวใจและหลอดเลือดนั้น เกิดจากการที่ผนังด้านในของหลอดเลือดมีไขมันมาพอกตัวจนหนาขึ้น หลอดเลือดจึงขาดความยืดหยุ่น แข็งตัวขึ้น การไหลเวียนของเลือดจึงลดลง จึงทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง รวมไปถึงการสูบบุหรี่และสูดควันจากผู้อื่น การดื่มเหล้าและมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานก็เป็นสาเหตุด้วยเช่นกัน และเพื่อหัวใจที่จะมีสุขภาพแข็งแรงไปนาน ๆ เราจึงควรปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้ – ทานโปรตีนที่ไขมันต่ำ ทั้งเนื้อปลาและถั่ว ทานปลาและผลไม้รสไม่หวานให้บ่อย ๆ – อย่าทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและอาหารสำเร็จรูปที่มีส่วนผสมของโซเดียม(เกลือ) มากนัก – ไม่ควรปรุงอาหารมากเกินไปนัก ทานแต่รสที่พอเหมาะ ไม่ควรทานหวาน มัน เค็ม เผ็ดมากเกิน – เลี่ยงการดื่มน้ำอัดลม น้ำหวาน เครื่องดื่มชูกำลังทั้งหลาย – ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในมาตรฐาน และกินให้น้อยกว่าพลังงานที่ใช้หากมีน้ำหนักตัวเกิน – คุมรอบพุงให้ดี เพศชายไม่เกิน 90 เซนติเมตรและเพศหญิงไม่เกิน 80 เซนติเมตร – หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอวันละครึ่งชั่วโมง อาทิตย์ละ 3-4…
-
ออกกำลังกายน่ะดี แต่ทำให้ถูกวิธีด้วยนะ
ออกกำลังกายน่ะดี แต่ทำให้ถูกวิธีด้วยนะ ระยะนี้คนไทยเราเริ่มหันมาสนใจการออกกำลังกายดูแลสุขภาพ และดูแลอาหารการกินกันมากขึ้นแล้วนะคะ การจะมีสุขภาพที่ดีได้นั้นจำเป็นต้องใช้เวลาในการพัฒนาร่างกายขึ้นด้วยเช่นกัน ดังเช่นกันเล่นกีฬาก็จำเป็นต้องค่อยเป็นค่อยไป แต่ให้กระทำอย่างสม่ำเสมอด้วยกระบวนการที่เหมาะสม จะทำให้ร่างกายเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้อย่างมั่นคงนั่นเอง ผู้ที่เพิ่งหันมาออกกำลังกายใหม่ ๆ นั้น ควรเลือกออกกำลังกายในระดับเบาก่อน ยังไม่ควรหักโหมไปวิ่งทันที ควรเริ่มด้วยการเดินเบา ๆ หรือปั่นจักรยานช้า ๆ ก่อน โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากหากหักโหมอาจปวดข้อหรือได้รับบาดเจ็บได้ง่าย ในช่วงเริ่มแรกควรค่อย ๆ ฟิตร่างกายให้ดีก่อนแล้วค่อยพัฒนาไปออกกำลังกายที่หนักขึ้นจะช่วยถนอมกล้ามเนื้อ ข้อต่อและกระดูกไปได้อีกทาง การเตรียมตัวก่อนการออกกำลังกาย ต้องเริ่มด้วยการอบอุ่นร่างกายก่อนทุกครั้ง และใช้การยืดเหยียดกล้ามเนื้อเพื่อวอร์มร่างกาย ข้อต่อส่วนต่าง ๆ ด้วยก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน คุณอาจวิ่งเหยาะ ๆ อยู่กับที่เบา ๆ หรือเดินเบา ๆ ก่อนสัก 5-10 นาทีแล้วค่อยเดินเร็วหรือเริ่มวิ่ง ข้อดีของการอบอุ่นร่างกายอีกอย่างก็คือจะกระตุ้นให้โลหิตไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ได้มากขึ้น ช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บได้อีกทางหนึ่ง การออกกำลังกายควรเป็นกิจวัตรที่มีความสม่ำเสมอ และเป็นชนิดกีฬาที่ชื่นชอบด้วยจึงจะทำให้ไม่เบื่อ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย ในการออกกำลังกายแต่ละครั้งไม่ควรหักโหมจนเกินไป การจะวัดว่าเหนื่อยเกินไปหรือยังให้สังเกตว่ายังพูดเป็นคำได้อยู่หรือเปล่า หากเหนื่อยจนพูดไม่เป็นคำก็ถือว่าหักโหมเกินไปแล้ว ควรค่อย ๆ…
-
อาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่หลีกเลี่ยงโซเดียม (เกลือ)
อาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่หลีกเลี่ยงโซเดียม (เกลือ) มีผู้ป่วยอยู่หลายโรคที่จำเป็นต้องจำกัดปริมาณของโซเดียม หรือเกลือในอาหาร ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคไต เพราะโซเดียมนี้จะทำให้เกิดอาการบวม ทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ การเลือกทานอาหารจึงจำเป็นต้องระวังอาหารที่มีปริมาณของโซเดียมให้ดี โดยรายการอาหารด้านล่างนี้จะรายชื่อและปริมาณของโซเดียมต่อหน่วย มก. ในอาหารที่มีน้ำหนัก 100 กรัม 1. ผักทั่วไป (ส่วนใหญ่มีโซเดียม 1 – 20 มิลลิกรัมม) ถั่ว (1- 6) และผลไม้ (1 – 15) ดังนั้นหากเป็นผักต้มหรือข้าวโพดต้มจึงไม่ควรเติมเกลือเพิ่ม 2. อาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว เผือก มัน ข้าวโพด (มีโซเดียม 2 – 7 มก. / 100 กรัม) แต่หากแปรรูปแล้วจะทำให้มีโซเดียมเพิ่มขึ้นได้ เช่น ซีเรียลคอร์นเฟลค (1,158) มันฝรั่งแผ่น (997) ขนมปังแครกเกอร์ (613) ขนมปังขาว ขนมปังโฮลวีต (541)…
-
วิธีระวังป้องกันฟ้าผ่า จากฝนฟ้าคะนองในหน้าฝน
วิธีระวังป้องกันฟ้าผ่า จากฝนฟ้าคะนองในหน้าฝน ปรากฎการณ์ฟ้าผ่านั้น เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากความไม่สมดุลของอุณหภูมิในชั้นบรรยากาศโลก ทำให้เกิดไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงถึง 100 ล้านโวลต์ ซึ่งในแต่ละปีเกิดฟ้าผ่ากว่าแปดล้านครั้ง และมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากฟ้าผ่าถึงปีละประมาณห้าพันราย การเสียชีวิตและบาดเจ็บจากฟ้าผ่านี้เกิดจากความร้อนของประจุไฟฟ้าของฟ้าผ่า จะส่งผลต่อหัวใจและสมอง ทำให้หัวใจหยุดเต้น ก้านสมองไม่ทำงาน ซึ่งหนึ่งในสามคนของผู้ถูกฟ้าผ่าจะตายทันที ส่วนผู้ที่รอดชีวิตมากได้มักจะพิการถาวรจากระบบประสาทและไขสันหลังที่ถูกทำลาย ทำให้ตาบอด หูหนวก หรือเป็นอัมพาตได้ ดังนั้นหากเกิดฝนตกฟ้าคะนองขึ้น เพื่อให้รอดพ้นจากภัยฟ้าผ่าควรปฏิบัติดังนี้ 1. ถอดเครื่องประดับโลหะไว้ไกล ๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกา แหวน กำไล สร้อยคอ ฯลฯ 2. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง หรือกิจกรรมที่ทำกลางแจ้งทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ตีกอล์ฟ เตะฟุตบอลในสนาม การหาปลาหากลในทุ่งนา ฯลฯ เพื่อลดความเสี่ยง 3. อย่าหลบอยู่ใต้ต้นไม้กลางทุ่ง เสาไฟ ป้ายโฆษณา กำแพงหรือรั้วที่มีโลหะ หากจำเป็นต้องหลบใต้ต้นไม้ควรเลือกที่ไม่สูงมาก และเลือกต้นที่มีกิ่งใบแผ่ปกคลุมหนา อยู่ให้ห่างจากโคนต้นไม้ 2-3 เมตรขึ้นไป หรือหากหลบอยู่ในศาลาริมทาง ควรอยู่ให้ห่างเสาเพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าโคจรมาถึงตัว 4. หากอยู่ในรถควรปิดประตู กระจกหน้าต่างให้มิดชิด และอย่าให้ร่างกายสัมผัสกับตัวถังรถที่เป็นโลหะ…
-
กินปลาทูน่าและปลาแซลมอนกันเถอะ…ช่วยลดความดันได้นะ
กินปลาทูน่าและปลาแซลมอนกันเถอะ…ช่วยลดความดันได้นะ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่าปลาทูน่าและปลาแซลมอน ซึ่งอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้าสามนั้น สามารถป้องกันการเต้นผิดจังหวะของหัวใจ แล้วยังช่วยลดความดันโลหิตได้อีกด้วย ซึ่งผลการวิจัยนี้ทางด้านมหาวิทยาวอชิงตันก็ได้มีความเห็นที่สอดคล้ายไปในทางเดียวกัน แล้วยังแนะอีกว่าสำหรับผู้สูงวัยที่ทานปลาทูน่าสัปดาห์ละ 3 ครั้งขึ้นไปนั้น ช่วยลดภาวะความเสี่ยงของโรคหัวใจได้ถึง 50% เลยทีเดียว แต่การทานทูน่าที่จะเป็นประโยชน์และดีต่อสุขภาพได้จริงๆ นั้น ควรปรุงให้สุกด้วยวิธี นึ่ง อบ หรือย่างเท่านั้น เพราะหากนำไปทอด จะทำให้ผู้ที่รับประทานไม่ได้รับประโยชน์จากการลดภาวะความเสี่ยงโรคหัวใจ ในส่วนของคนไทยนั้นการหาปลาทูน่าและปลาแซลมอนมาทานเป็นประจำอาจเป็นเรื่องยาก คุณอาจลองเลือกซื้อน้ำมันโอเมก้าสามที่สกัดจากปลาแซลมอนมาทานแทนก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าค่ะ
-
โรคหัวใจขาดเลือด มีอาการอย่างไรบ้าง?
โรคหัวใจขาดเลือด มีอาการอย่างไรบ้าง? โรคหัวใจขาดเลือด นั้น คืออาการที่หัวใจไม่ได้รับโลหิตที่มีออกซิเจนอย่างพอเพียง ก็จะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดที่เรียกว่า หัวใจขาดเลือด (angina) ซึ่งมีสาเหตุมาจากการกระตุกในหลอดเลือดหัวใจ อาการดังกล่าวเป็นการเตือนว่าหัวใจต้องการออกซิเจนมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งอาการที่แสดงถึงโรคหัวใจขาดเลือดของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป เช่น – เจ็บ ปวดหรือรู้สึกไม่สบาย – แน่นท้อง – เป็นตะคริว – ชา – หายใจลำบาก จุกเสียด – แน่นหน้าอก – ร้อน – เหงื่อแตก – วิงเวียนศีรษะ อาการดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในบริเวณหน้าอก ไหล่ หลังส่วนบน แขน คอ ในลำคอ หรือกราม เป็นต้น และอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงเวลาที่รู้สึกเครียด ขณะที่ใช้แรงมากในการทำกิจกรรมหรือหลังอาหารมื้อหนัก ๆ อย่าละเลยโรคหัวใจขาดเลือด การพักผ่อนและการรักษาด้วยยา เป็นวิธีที่ช่วยลดอาการหัวใจขาดเลือดอย่างได้ผล
-
เคล็ดลับง่ายๆ ดูแลหัวใจให้แข็งแรง
เคล็ดลับง่ายๆ ดูแลหัวใจให้แข็งแรง การดูแลสุขภาพของอวัยวะอย่างหัวใจ ที่ต้องทำงานหนักตลอด 24 ชั่วโมงนั้น ไม่ใช่เรื่องยากหรอกค่ะ แค่ใส่ใจให้มากขึ้นอีกนิด ลองดูเคล็ดลับดังต่อไปนี้ค่ะ 1. เลือกทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น เพราะนอกจากจะปราศจากไขมันและคอเลสเตอรอลแล้วยังมีผลการวิจัยชิ้นล่าสุดพบด้วยว่า ผู้ที่ ผู้ที่รับประทานผักปรุงสุกอย่างน้อยวันละ 4 ถ้วย หรือผักสลัด หรือ ผลไม้ 8 ถ้วย เป็นประจำทุกวัน ช่วยลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจได้ 2. ดูทีวีให้น้อยลง มีผลการวิจัยพบว่าผู้ที่ดูทีวีตอนกลางคืนมากกว่า 4 ชั่วโมงขึ้นไปจะเสี่ยงเป็นโรคหัวใจมากกว่าผู้ที่ดูทีวีน้อยกว่าวันละ 2 ชั่วโมง ซึ่งข้อสันนิษฐานเป็นเพราะว่า การนั่งดูทีวีเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้เกิดการอักเสบและมีส่วนทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้นได้ สำหรับการดูทีวีให้น้อยลงแล้วคอเลสเตอรอลลดน้อยลงนั้น นั่นเป็นเพราะมีเวลาในการไปทำกิจกรรมอย่างอื่นเพิ่มขึ้น อีกทั้งระหว่างเวลาที่เราดูทีวีเรายังหยิบขนมหรือของว่างกินไม่รู้ตัวอีกด้วย เมื่อดูทีวีน้อยลงก็จะทำให้บริโภคอาหารน้อยลง ไขมันและคอเลสเตอรอลก็จะน้อยลงไปโดยปริยาย เป็นเคล็ดลับที่ง่าย ๆ นะคะ ลองทำตามดูแล้วจะพบว่าคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือดลดลงได้จริง แล้วยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้นอีกด้วยค่ะ
-
หากผู้ป่วยโรคหัวใจ ได้รับประทานยาเพียงมื้อละเม็ด พวกเค้าจะทานยานี้ต่อไปตามที่หมอสั่ง
หากผู้ป่วยโรคหัวใจ ได้รับประทานยาเพียงมื้อละเม็ด พวกเค้าจะทานยานี้ต่อไปตามที่หมอสั่ง ผู้ป่วยหลายคนที่เป็นโรคหัวใจหรือป่วยด้วยอาการสมองขาดเลือดหล่อเลี้ยงเพราะเส้นเลือดอุดตันจากคอเลสเตอรอล มักไม่รับประทานยาเป็นประจำตามคำสั่งแพทย์โดยผู้ป่วยจำนวนมากเลิกรับประทานยาภายในเวลาสามเดือนหลังจากล้มป่วยเนื่องจากต้องรับประทานยาครั้งละหลายเม็ด ผู้ป่วยหลายคนที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจหรือเสี่ยงที่จะเกิดอาการสมองขาดเลือดหล่อเลี้ยงอาจต้องรับประทานยามื้อละหลายเม็ด ยาเเต่ละเม็ดมีคุณสมบัติต่างกันไป อาทิ เพื่อลดความดันโลหิต บางเม็ดช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และบางคนอาจต้องรับประทานยาช่วยป้องกันหัวใจวายร่วมด้วย ด็อกเตอร์ทอมเป็นหัวหน้าการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในกลุ่มผู้ป่วยมากกว่าสองพันคน เกือบ 90 % ของผู้ป่วยในการวิจัยล้มป่วยด้วยอาการสมองขาดเลือดไปหล่อเลี้ยงหรือเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ อีกสิบเปอร์เซ็นต์มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะล้มป่วยด้วยอาการทั้งสองอย่างดังกล่าว ครึ่งหนึ่ีงของผู้เข้าร่วมการวิจัยได้รับยาเเบบเม็ดเดียวเรียกว่า โพลีพิล (Polypill) ในการลดระดับคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิตสูงและป้องกันอาการหัวใจวาย ในขณะที่ผู้เข้าร่วมการวิจัยที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งต้องรับประทานยาแบบหลายเม็ดต่อไป ด็อกเตอร์ทอม กล่าวว่าผลการวิจัยที่ได้แสดงให้เห็นผลดีของยารักษาแบบเม็ดเดียวหรือโพลีพิล การทดลองใช้ยาบำบัดเเบบโพลีพิลมีผลดีโดยเฉพาะต่อผู้ป่วยโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดที่ไม่รับประทานยาตามกำหนด ด็อกเตอร์ทอม กล่าวปิดท้ายว่า ยาโพลีพิลจะมีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาผู้ป่วยไม่รับประทานยาตามคำสั่งแพทย์และช่วยให้การบำบัดโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะในการศึกษาพบว่าผู้ป่วยที่ได้ประโยชน์จากยาขนานนี้มากที่สุดคือผู้ป่วยที่มักไม่รับประทานยาแบบหลายเม็ดตามคำสั่งแพทย์ตั้งแต่ในช่วงต้นๆของการทดลองรักษา
-
แพทย์ ชี้แจง การสูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อชีวิตกว่าที่คิดไว้
แพทย์ ชี้แจง การสูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อชีวิตกว่าที่คิดไว้ แพทย์ชี้แจงว่า การสูบบุหรี่เป็นตัวก่อให้เกิดโรคเบาหวาน มะเร็งตับ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ และการสูบบุหรี่มีผลก่อให้เกิดความบกพร่องแก่ทารกในครรภ์ ในปี 2507 แพทย์สหรัฐรายงายว่า การสูบบุหรี่มีผลเสียต่อสุขภาพ และช่วยกระตุ้นให้เกิดมะเร็งปอดและหัวใจ และปัจจุบันใน 50 ปีให้หลัง แพทย์ได้ออกรายงานฉบับใหม่ นำเสนอเพิ่มว่าบุหรี่ มีผลเสียต่อสุขภาพมากขึ้น แพทย์กล่าวว่าในเรื่องนี้ อยากให้ทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อสร้างสังคมที่ปลอดจากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ทุกคนต้องเข้าใจถึงความเกี่ยวโยงระหว่างสุขภาพกับการสูบบุหรี่เสียก่อน รายงานนี้เร่งเร้าให้เพิ่มความเข้มข้นของมาตรการต่างๆ ที่ใช้ในการควบคุมการสูบบุหรี่ ซึ่งรวมทั้งการเพิ่มราคาบุหรี่และขยายมาตรการห้ามสูบบุหรี่ในตัวอาคารให้ใช้กันอย่างเเพร่หลายรายงานประจำปีพุทธศักราช 2557 นี้ ยังเร่งเร้าให้นักวิจัยทำการศึกษาดูว่าการลดปริมาณสารนิโคตินในบุหรี่สามารถช่วยผู้สูบบุหรี่ เลิกบุหรี่ได้หรือไม่ นอกจากนี้รายงานชิ้นนี้ยังมีข้อมูลใหม่ๆ อีกด้วย แพทย์ใหญ่สหรัฐยังกล่าวด้วยว่า การสูบบุหรี่มีผลกระทบต่อระบบภูมิต้านทานในร่างกายทำให้ผู้สูบบุหรี่ติดเชื้อโรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น และสำหรับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ รายงานชิ้นใหม่นี้ชี้ว่าเเม้คุณไม่สูบบุหรี่แต่ก็มีโอกาสเสี่ยงสูงขึ้นต่อการเกิดโรคหลอดเลือดในสมองอุดตันจากสารพิษในควันบุหรี่ที่มาจากผู้สูบบุหรี่ที่อยู่ใกล้ชิดรายงานผลการวิจัยชิ้นล่าสุดจากรักษาการแพทย์ใหญ่สหรัฐนี้ ยังชี้ถึงผลเสียอันตรายต่อทารกในครรภ์ด้วยโดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ที่สูบบุหรี่ ทารกมีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคปากแหว่งและเพดานโหว่ นอกจากนี้สารพิษในควันบุหรี่ยังมีผลเสียอย่างถาวรต่อการพัฒนาทางสมองของทารกในครรภ์ รักษาการแพทย์ใหญ่สหรัฐชี้ว่าอยากให้ราคาบุหรี่สูงขึ้น มีการรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่เพิ่มมากขึ้น เพิ่มการบริการช่วยเหลือผู้ต้องการเลิกบุหรี่และเน้นการป้องกันไม่ให้เด็กวัยรุ่นสูบบุหรี่