Tag: หลับใน
-
อย่าปล่อยให้ตัวเองหลับใน ป้องกันไว้ก่อนเกิดอุบัติเหตุ
อย่าปล่อยให้ตัวเองหลับใน ป้องกันไว้ก่อนเกิดอุบัติเหตุ อาการหลับในนั้น แม้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ แต่หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นก็เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณไปตลอดกาลเลยทีเดียว ดังนั้นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เราต้องสังเกตตัวเองด้วยว่าเริ่มๆ จะมีอาการหลับในแล้วหรือยัง ได้แก่การสังเกตว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดนั้น ขับรถไปหาวไปหรือหาวบ่อยและต่อเนื่องหรือเปล่า เหม่อลอยหรือมีสมาธิหรือไม่อย่างไร จำเส้นทางในระยะ 2-3 กิโลเมตรที่ผ่านมาได้หรือไม่ และหากรู้สึกว่าเหนื่อยล้า หงุดหงิด มึนหนักหัว กระวนกระวาย ลืมตาไม่ขึ้น เริ่มขับรถส่ายหรือออกนอกเส้นทาง มองข้ามสัญญาณไฟและป้ายจราจรแล้วล่ะก็ คุณกำลังจะหลับในแล้วล่ะ ซึ่งเป็นอันตรายมากไม่ควรขับรถต่อไป แม้อาการจะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ข้อหรือหลายข้อด้วยกัน ควรแก้ไขด่วนด้วยด้วยการปฏิบัติดังต่อไปนี้ 1. หาผลไม้รสชาติเปรี้ยว ๆ มาทาน เพราะผลไม้รสเปรี้ยวนอกจากมีวิตามินซีสูงแล้วยังช่วยกระตุ้นให้สดชื่นขึ้นได้ 2. ใช้น้ำแข็งถูขมับหรือดื่มน้ำเย็น ๆ อมน้ำแข็งเย็น ๆ จะตื่นตัวขึ้น 3. ปิดแอร์แล้วเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท ลดปริมาณก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในรถออกไป ลมจากธรรมชาติจะทำให้คนขับรู้สึกสดชื่นขึ้น 4. เปิดเพลงจังหวะเร็ว ๆ ดัง ๆ ร้องตามไปด้วยก็ได้ จะช่วยแก้ง่วงได้ 5. หากทนไม่ไหวจริง ๆ ให้หาที่จอดรถที่ปลอดภัยนอกพักสัก 10-15 นาที อย่างตามจุดจอดรถของด่านตรวจฯ หรือตามสถานีตำรวจฯ…
-
หลับใน.. ตายง่ายกว่าเมาแล้วขับ
หลับใน.. ตายง่ายกว่าเมาแล้วขับ เพราะปัจจุบันยังไม่มีมาตรการทางกฎหมายใดมาบังคับใช้ได้ว่า คนง่วงไม่สามารถขับรถได้ อุบัติเหตุจากการหลับในจึงยังเกิดขึ้นอยู่เสมอ มากกว่าเมาแล้วขับเสียด้วยซ้ำไป ผู้ที่มีอาการหลับในนั้นนอกจากจะเกิดจาการอดนอนหรือนอนไม่พอแล้วยังเกิดจาก.. – ป่วยไข้ไม่สบาย กำลังกินยาแก้หวัด ยาลดน้ำมูกหรือยาแก้แพ้อยู่ อาจเสี่ยงต่อการหลับในขณะขับรถได้ อาการวูบหลับแค่ 3 วินาทีนั้นอาจเกิดอุบัติเหตุร้างแรงที่ไม่คาดคิดได้ เพราะรถพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วอย่างปราศจากความควบคุม อาจประสานงากับรถคันอื่น เกยข้างทาง ชนต้นไม้หรือปีนเกาะไปชนกับอีกฝั่ง รวมไปถึงขับตกเหวได้เลยทีเดียว ฯลฯ คนที่อ่อนเพลียหรืออดนอนมักจะง่วงมากในตอนบ่าย หลังอาหารเที่ยง หรือหลังเที่ยงคืน ดังนั้นช่วงเวลาเหล่านี้จึงมีอุบัติเหตุบนท้องถนนบ่อยครั้งที่สุด – เมาแล้วง่วง แล้วก็ขับรถอีก ก็อันตรายอย่างมาก เพราะประสาทสัมผัสทุกอย่างจะช้าลงไปหมด สมองตื้อทำให้การสั่งการไปยังอวัยวะต่าง ๆ ช้าลง หากเกิดภาวะคับขันทำให้การตัดสินใจช้าและผิดพลาดได้ การขับรถทางไกลจึงควรเตรียมตัวเองให้พร้อมด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ งดเครื่องมึนเมาทั้งหลาย – ผู้ที่อ้วนน้ำหนักเกิน หรือนอนกรนจนหลับไม่สนิทก็ไม่ควรขับรถทางไกลคนเดียวโดยลำพัง หากมีคนนั่งไปด้วยควรชวนคุยเพื่อไม่ให้ง่วงหรือเปลี่ยนกันขับ หากเริ่มรู้สึกง่วงแล้วให้ลองผ้าเช็ดเช็ดหน้า เช็ดลำคอ หน้าอก หรือจิบน้ำเย็น ๆ หรืออมน้ำเข็งก็จะทำให้สดชื่นขึ้น ลองหาลูกอมรสชาติเปรี้ยว ๆ ซ่า ๆ หรือเผ็ด ๆ จัด ๆ อมไว้ก็ช่วยให้ตื่นตัวได้เช่นกัน…
-
ป้องกันหลับใน ก่อนเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน
ป้องกันหลับใน ก่อนเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน การหลับใน เป็นอาการทางร่างกายที่แม้เกิดขึ้นเพียงช่วยแว่บเดียว แต่อาจทำให้เกิดอุบัติสูญเสียชีวิตได้ในขณะขับรถเลยทีเดียว ดังนั้นสำหรับผู้ที่ต้องขับรถทุกคนควรหาทางป้องกันอาการหลับในไว้ทุกคนนะคะ ในช่วงระยะเวลาที่มีวันหยุดยาว ๆ หลาย ๆ วันอย่างในช่วงหน้าร้อนของประเทศไทยนี้ เป็นช่วงที่มีคนขับรถเพื่อไปท่องเที่ยวทางไกลกันมากที่สุดระยะหนึ่งของประเทศ นอกจากทางจะไกลและเที่ยวกันจนเพลียพักผ่อนไม่เพียงพอแล้ว การที่รถติดในเส้นทางไกล ๆ ด้วยอาการเหนื่อยก็เลยทำให้หลับในกันได้ไม่ยาก คนที่หลับใจจะเหมือนคนที่หูหนวกตาบอดไปชั่วอึดใจหนึ่ง เพราะว่าสมองภายในของคุณหลับไปแว่บหนึ่ง แล้วก็ยังไม่เรื่องที่ไม่สามารถบังคับกันได้ด้วย หากง่วงนอนมาก ๆ การหลับในเพียงชั่วไม่กี่วินาที นานพอที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตได้ การหลับในจึงเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุที่ค่อนข้างน่ากลัว วิธีที่ดีที่สุดก็คือการจับสังเกตอาการหลับในเพื่อหาทางป้องกัน พร้อมทั้งวิธีแก้ง่วงเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางดังวิธีต่อไปนี้ อาการหลับใน มาสังเกตดูซิ ! – หาวบ่อย ๆ และหาวอย่างต่อเนื่อง – เริ่มใจลอยและไม่มีสมาธิ – หงุดหงิดกระวนกระวาย และอ่อนล้า – เริ่มจำไม่ได้ว่าขับรถผ่านอะไรมาในระยะ 2-3 กิโลเมตรล่าสุด – หนักหนังตา ลืมตาไม่ขึ้น มองภาพเบลอ ๆ ไม่ชัด – รู้สึกมึนและหนักศีรษะ – ขับรถเริ่มส่ายไปมา หรือออกนอกเส้นทาง – มองข้ามป้ายจราจรและสัญญาญไฟจราจร…