Tag: สารก่อมะเร็ง
-
ทานเนื้อสัตว์แปรรูปมาก ๆ อาจเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง
ทานเนื้อสัตว์แปรรูปมาก ๆ อาจเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ไส้กรอก หมูแฮม เบคอน เป็นอาหารที่ซื้อหาทานได้ง่าย และหลาย ๆ คนก็ชอบด้วย เพราะหาซื้อง่าย กินก็อร่อย แต่รู้กันบ้างหรือเปล่าคะว่า สารโซเดียมไนไตรท์ ที่ผสมอยู่ในอาหารเหล่านี้นั้นหากทานมากเกินไป จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้ โซเดียมไนไตรท์นี้ จะผสมอยู่ในอาหารแปรรูปจำพวกไส้กรอก แฮม เบคอน แหนม กุนเชียง ไส้กรอกเปรี้ยว มีลักษณะเป็นผลึกสีขาว คล้ายน้ำตาลทราย ผสมลงไปเพื่อให้คงสภาพของสีสันและกลิ่นของไส้กรอกไว้ได้นาน ๆ หากได้รับสารนี้ในปริมาณมากก็จะเป็นอันตรายได้ เมื่อสารชนิดนี้ทำปฏิกิริยาเคมีกับเนื้อสัตว์อาจทำให้เกิดโรคชนิดเฉียบพลัน และโรคเรื้อรังเช่นมะเร็งได้ เมื่อเราทานอาหารเหล่านี้ลงไป ไนไตรท์จะทำปฏิกิริยาในร่างกายเกิดเป็นกรดไนตรัสขึ้นมา เมื่อเราทานโปรตีนลงไปจะทำปฏิกิริยากับโปรตีน เกิดเป็นไนโตรซามีน ซึ่งไนโตรซามีนนี่ล่ะค่ะเป็นสารก่อเกิดมะเร็ง หากเราทานอาหารที่มีไนไตรท์สะสมไว้นาน ๆ สารนี้ก็จะทำปฏิกิริยาภายในร่างกายเราไปเรื่อย ๆ เราจึงมีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ นั่นเอง แต่ก็มิใช่ว่าจะไม่สามารถทานอาหารเหล่านี้ได้เลย เพียงแต่เลือกทานน้อย ๆ และนาน ๆ ทานทีหนึ่งก็พอ ควรทานเนื้อสัตว์ที่นำมาปรุงสุกแบบสดๆ ใหม่ ๆ ดีกว่า เพราะจะไม่เกิดสารพิษตกค้างในร่างกายมากเท่าอาหารแปรรูป และควรเลือกทานอาหารให้หลากหลายมากขึ้น เพิ่มสัดส่วนของผักและผลไม้เข้าไป…
-
ทานถั่วป่นและพริกป่นมากเสี่ยงเป็นมะเร็งตับได้นะ
ทานถั่วป่นและพริกป่นมากเสี่ยงเป็นมะเร็งตับได้นะ นอกจากสารอะฟลาทอกซินจะพบมากในถั่วป่นแล้ว ในพริกป่นก็สามารถพบได้มากเช่นเดียวกัน โดยสารชนิดนี้เป็นสารก่อมะเร็งตับร้ายแรง พบได้ในถั่วลิสงและผลิตภัณฑ์ทำจากถั่วลิสงทุกชนิด รวมไปถึงธัญพืชและผลิตภัณฑ์แปรรูปหลากหลาย เนื่องจากสารพิษอะฟลาทอกซินนี้สามารถทนความร้อนได้ถึง 250 องศาเซลเซียส ดังนั้นแม้จะนำเอามาปรุงอาหารแล้วก็ยังไม่สามารถทำลายสารพิษชนิดนี้ได้อยู่ดี ยิ่งหากเป็นแม่ลูกอ่อนทานอาหารที่มีสารพิษนี้เข้าไป สารพิษจะถ่ายทอดสู่ลูกได้ผ่านทางน้ำนมและทำอันตรายต่อทารก ซึ่งเคยปรากฏในการศึกษาวิจัยมาแล้ว หากจำเป็นต้องทาน ก็ควรเลือกให้ดี เมื่อไปกินอาหารนอกบ้านควรระวังอาหารที่ต้องปรุงรส ไม่ว่าจะเป็น ก๊วยเตี๋ยว ผัดไทย ยำ ฯลฯ หรืออาหารที่ปรุงรสจัดอื่น ๆ หากสังเกตได้ว่าเครื่องปรุงในพวงเครื่องปรุงมีความอับชื้นและมีกลิ่นหืน จับตัวเป็นก้อนและมีสีที่ไม่ปกติ เช่น มีสีเหลืองคล้ำหรือมีเชื้อรา ฯลฯ ก็ไม่ควรตักมาปรุง หลีกเลี่ยงไปเลยจะปลอดภัยกว่า และควรกำชับให้แม่ค้าว่าไม่ใส่ถั่วป่นหรือพริกป่น แต่ให้ปรุงด้วยพริกสดแทน ก็จะได้รสชาติที่เผ็ดร้อนเหมือนกัน
-
สารพิษที่ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกายจากบุหรี่
สารพิษที่ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกายจากบุหรี่ เหตุผลที่การสูบบุหรี่เป็นการทำลายสุขภาพนั้นก็เป็นเพราะว่าในควันบุหรี่ประกอบไปด้วยสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และมีสารก่อมะเร็งไม่ต่ำกว่า 42 ชนิด ซึ่งสารสำคัญที่อันตรายมากได้แก่ – คาร์บอนมอนอกไซด์ เป็นสารที่ทำให้เม็ดเลือดไม่สามารถจับออกซิเจนได้เท่ากับเวลาปกติ หากได้รับมากเกินไปจะทำให้ขาดออกซิเจน มึนงง วิงเวียน เหนื่อยง่าย ตัดสินใจช้าและทำให้เกิดโรคหัวใจได้ – นิโคติน เป็นสารระเหยในบุหรี่ มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดการหลั่งอิพิเนฟริน จึงทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น หัวใจเต้นเร็วและไม่เป็นจังหวะ หลอดเลือดที่แขนขาหดตัว ทำให้มีไขมันในเส้นเลือดเพิ่มขึ้น ซึ่งก้นกรองที่บุหรี่ไม่ได้ช่วยกรองนิโคตินให้ลดลงแต่อย่างใดเลย – ทาร์ หรือน้ำมันดินนี้จะเป็นคราบข้นเหนียวสีน้ำตาลแก่จากการเผาไห้ของกระดาษและใบยาสูบ เป็นสารก่อมะเร็งหลายชนิด และกว่าครึ่งของน้ำมันดินจะจับที่ปอดทำให้ไอเรื้อรัง มีเสมหะ ในผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดนั้นกว่าร้อยละ 90 เป็นผลมาจากการสูบบุหรี่ ผู้ที่สูบบุหรี่มากเกินวันละ 1 ซองนั้นจะมีโอกาสเป็นมะเร็งปอดมากกว่าปกติถึง 5-20 เท่าเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคทางเดินหายใจ ไอเรื้อรัง ไอถี่จนนอนไม่ได้ สารทาร์ยังทำให้เกิดโรคถุงลมโป่งพอง ทำให้หายใจขัดและหอบ และอาจทำให้เสียชีวิตได้ ไม่เพียงเท่านั้น การสูบบุหรี่ยังทำให้เกิดโรคอื่น ๆ ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นโรคกระเพาะอาหาร ความดันโลหิตสูง ตับแข็ง โรคปริทนต์ โพรงกระดูกอักเสบ หลอดลมอักเสบ โรคหัวใจ…
-
อันตรายในห้องน้ำที่ทำให้คุณป่วยซ้ำ ๆ ป่วยบ่อย ๆ
อันตรายในห้องน้ำที่ทำให้คุณป่วยซ้ำ ๆ ป่วยบ่อย ๆ ใครที่มีอาการเจ็บป่วยบ่อย ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ บางทีลองมาสังเกตห้องน้ำของคุณบ้างนะคะ ว่ามีเชื้อโรคร้ายแฝงอยู่บ้างหรือเปล่า ลองมาเช็คดูไปพร้อม ๆ กันนะคะ 1. ยาแนวในห้องน้ำทำให้เกิดโรคภูมิแพ้และระบบทางเดินหายใจ หากสูดดมในปริมาณมาก อาจทำให้ระคายเคืองผิวหนัง ดังนั้นหลังจากการก่อสร้างบ้านหรือต่อเติมซ่อมแซมห้องน้ำ ควรเปิดประตู หรือพัดลมระบายอาการเพื่อระบายความเข้มข้นของสารเคมีจากยาแนวเหล่านี้ออกไปให้มากที่สุด 2. ความชื้นในห้องน้ำทำให้คุณป่วยได้ ไม่ควรปล่อยให้ห้องน้ำชื้น ควรเปิดพัดลมดูดอากาศและใช้ม๊อบถูกพื้น เช็คห้องน้ำให้หมาดหรือแห้งได้ก็จะยิ่งดี ป้องกันการก่อตัวของเชื้อราด้วย 3. ติดตั้งพัดลมดูดอากาศผิดตำแหน่ง เช่นติดไว้บนเพดาน ทำให้ความชื้นไม่ถูกระบายออกไป ทางที่ดีควรติดพัดลมระบายอากาศที่สามารถระบายอากาศสู่ภายนอกได้จะดีที่สุด 4. ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์รุนแรง ยิ่งโดยเฉพาะที่มีส่วนผสมของแอมโมเนียและคลอรีน เพราะสารทั้งสองชนิดทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนัง ปอด และทำให้เกิดโรคหอบหืดได้ด้วย 5. ก๊อกน้ำไม่สะอาดหรือไม่ยอมทำความสะอาด แพร่เชื้อโรคได้มากที่สุดนะคะ เพราะก็อกน้ำเป็นส่วนที่ทุกคนในบ้านจับต้องมากที่สุดแต่มักได้รับการทำความสะอาดน้อยที่สุดด้วย 6. ม่านห้องน้ำแบบไวนิล มีสารที่ก่ออันตรายและสารก่อมะเร็งได้ ควรเปลี่ยนมาเป็นแบบโพลีเสเตอร์หรือไนลอนดีกว่า 7. น้ำยาทำความสะอาดสำเร็จรูปที่มีความสามารถในการกัดเซาะได้ดีนั้น จะทำความรุนแรงต่อผิวและกลิ่นฉุน ๆ ยังระคายเคืองทางเดินหายใจได้อีก ลองเปลี่ยนมาใช้เบกกิ้งโซดาซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ กับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ทำความสะอาดห้องน้ำดีกว่า นำสองอย่างนี้มาผสมกันแล้วป้ายไว้บนสิ่งสกปรกประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วขัดล้างตามปกติ จะปลอดภัยต่อสุขภาพของคุณมากกว่าค่ะ 8. ควรกรองคลอรีนออกจากน้ำด้วย…
-
คนที่ชอบทานแมลงทอด ให้ระวัง!
คนที่ชอบทานแมลงทอด ให้ระวัง! บรรดาแมลงทอดทั้งหลายนั้น มีจุดเด่นทางโภชนาการก็คือ มีสารอาหารกลุ่มโปรตีน ไขมันสูงมาก แต่เกลือแร่และวิตามินกลับมีไม่มากเท่าไรนัก ซึ่งแมลงเหล่านี้จะให้พลังงานดังนี้คือ – กลุ่มหนอนไหม หนอนไม้ไผ่ ไข่มดแดง ตัวต่อ ตัวอ่อนของผึ้ง จะให้พลังงานสูงคือ แมลงดิบหนัก 100 กรัม จะให้พลังงานตั้งแต่ 140-230 กิโลแคลอรี่ – ส่วนกลุ่มแมลงปีกแข็ง ตัวอย่างเช่น แมงตับเต่า จิ้งหรีด ตั๊กแตนปาทังก้า ถ้าเด็ดปีกออกเลือกเฉพาะส่วนที่กินได้ 100 กรัม จะให้พลังงานตั้งแต่ 90-150 กิโลแคลอรี่ ปริมาณพลังงานข้างต้นคือผ่านการปรุงให้สุกด้วยการลวก นึ่ง แกง แต่หากนำไปทอดจะเพิ่มพลังงานขึ้น 3-4 เท่า เพราะแมลงเหล่านี้จะดูดซับเอาไขมันจากน้ำมันระหว่างการทอดไว้อีกถึง 13-17 กรัม ต่อน้ำหนักแมลง 100 กรัมเลยทีเดียว ดังนั้นแมลงที่ผ่านการทอดอาจให้พลังงานสูงถึง 650-700 กิโลแคลอรี่เลยทีเดียว เรียกได้ว่าถ้ากินมาก ๆ อาจอ้วนไม่รู้ตัวเลยค่ะ และหากคุณชอบกินแมลงทอดเหล่านี้มาก ๆ ควรระมัดระวังดังต่อไปนี้ด้วย –…
-
หลีกเลี่ยงอาหารที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำดีกว่านะ
หลีกเลี่ยงอาหารที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำดีกว่านะ อาหารที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำพบได้มากในท้องตลาดจริง ๆ นับตั้งแต่เช้าที่เราทานปาท่องโก๋ทอด ก็ใช้น้ำมันทอดซ้ำ ลูกชิ้นไส้กรอกทอด ทอดมัน เฟรนส์ฟราย ฯลฯ ล้วนก็ใช้น้ำมันทอดซ้ำในการปรุงอาหารทั้งนั้น อาหารที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำเสื่อมสภาพนั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพมาก เพราะมีสารที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ และอาจทำให้ร่างกายได้รับสารก่อมะเร็งอีกด้วย สารดังกล่าวก็คือสารโพล่าร์ และโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน พบได้ทั้งในน้ำมันที่ทอดและจากไอระเหยขณะทอด เป็นอันตรายทั้งผู้ขายและผู้บริโภคนั้นเอง ซึ่งน้ำมันที่เสื่อมสภาพจากการทอดซ้ำนั้น เมื่อดูด้วยสายตาจะพบว่ามีความข้นหนืดมากกว่าปกติ มีสีดำเป็นฟองมาก เหม็นไหม้ เกิดควันมากขณะทอด น้ำมันปรุงอาหารจะเสื่อมสภาพได้มากเมื่อถูกความร้อนสูงและมีความชื้น ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนจนเกิดสารโพลาร์ ยิ่งเติมเครื่องปรุงหรือเกลือลงไปด้วยแล้ว ยิ่งเท่ากับเป็นการเร่งให้เกิดสารโพล่าร์มากขึ้นเท่านั้น ในภาคเหนือเองก็มีการใช้น้ำมันทอดซ้ำสำหรับการแคบหมูกับอยู่เนือง ๆ การใช้น้ำมันซ้ำ และนำเอาน้ำมันหมูไปแบ่งขายอีก อาจทำให้ผู้บริโภคและผู้ผลิตได้รับอันตรายจากสารต่าง ๆ ดังนั้นหลีกเลี่ยงได้ก็จะเป็นการดีกว่าค่ะ
-
เคล็ดลับ 5 ประการห่างไกลมะเร็งตับ
เคล็ดลับ 5 ประการห่างไกลมะเร็งตับ “ตับ” ถือได้ว่าเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดภายในร่างกาย จะอยู่ภายในช่องท้องบริเวณชายโครงด้านขวา หน้าที่ขอตับก็คือช่วยขจัดของเสียสะสมในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ยา สารเคมี หรือสารพิษที่ร่างกายไม่ต้องการ ทำหน้าที่เหมือนคลังสะสมอาหารเพื่อเป็นพลังงานไปหล่อเลี้ยงและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายด้วย นับเป็นหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่และสำคัญมากของร่างกาย แต่หากเราดูแลร่างกายเราไม่ดีก็อาจทำให้เกิดโรคตับขึ้นได้ โดยโรคตับนี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบทุกชนิด การดื่มเหล้า การทานยาบางชนิด ทั้งยาฆ่าเชื้อ ยาคุมกำเนิด และที่พบบ่อยก็คือไขมันพอกตับในผู้ที่เป็นโรคอ้วน ซึ่งสาเหตุเหล่านี้อาจทำให้ตับอักเสบ และกลายเป็นตับแข็งหรือมะเร็งตับได้ด้วย เคล็ดลับ 5 ประการที่จะช่วยให้เราห่างไกลมะเร็งตับมีดังต่อไปนี้ 1. ผู้ที่มีอาการป่วยเกี่ยวกับโรคตับควรตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ และไปพบแพทย์ตามนัดอย่างเคร่งครัด ปฏิบัติตามแพทย์แนะนำ ส่วนคนทั่วไปที่ยังไม่เป็นโรคตับก็ควรป้องกันตนเองจากอาการอักเสบ 2. ห่างไกลอาหารที่ปนเปื้อนสารพิษทั้งหลาย รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการดื่มเหล้า เบียร์ ไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมด เพราะอาจทำลายเซลล์ตับได้มากกว่าอวัยวะอื่น ๆ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงได้อีกก็คือของหมักดอง ที่อาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค อาหารปิ้ง ๆ ย่าง ๆ หรือทอดน้ำมัน เพราะมีสารก่อมะเร็งเป็นจำนวนมาก อาหารที่มีไขมันสูงก็เช่นเดียวกัน และรวมไปถึงยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวดข้อ ยาคุม ยาฆ่าเชื้อที่อาจส่งผลเสียต่อตับได้ 3. หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้ร่างกายมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสม…
-
เมนูอาหารก่อมะเร็ง.. ถ้าไม่อยากเป็นก็ต้องเลี่ยงนะ
เมนูอาหารก่อมะเร็ง.. ถ้าไม่อยากเป็นก็ต้องเลี่ยงนะ ต่อไปนี้เป็นเมนูอาหารที่ก่อมะเร็งได้ เพราะมีสารก่อมะเร็งแฝงอยู่ มาดูกันเป็นข้อเลยจะได้หลีกเลี่ยงได้ถูกนะคะ 1. อาหารจากน้ำมันทอดซ้ำ 2. อาหารพวกเนื้อสัตว์หมักดอง ทุกประเภท 3. อาหารอบปิ้งย่างที่ไหม้เกรียม 4. อาหารที่ทำจากปลาน้ำจืดดิบหรือสุกๆ ดิบๆ 5. อาหารรสเค็ม 6. อาหารขึ้นราที่มีสารอะฟลาทอกซิน 7. อาหารฟาสต์ฟู้ด ไม่ว่าจะเป็นพวกเบอร์เกอร์ ฮอตด็อก มันฝรั่งทอดต่าง ๆ 8. อาหารที่มีไขมันสูง นอกจากทำให้เกิดมะเร็งแล้วยังทำให้อ้วนซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งได้อีก 9. อาหารที่มีสารพิษตกค้าง เช่น ยาฆ่าแมลงในผักผลไม้ ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิด มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งสมอง, สารหนูที่เป็นสาเหตุของมะเร็งผิวหนัง มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ รวมไปถึงพวกฟอร์มาลีนด้วย 10. สารสไตรีนที่เป็นส่วนประกอบของกล่องโฟมใส่อาหาร ซึ่งจะละลายออกมาในอุณหภูมิสูง ๆ ดังนั้นอย่านำไปใส่อาหารที่มีไขมันที่มีความร้อนสูง รวมทั้งแอลกอฮอล์ด้วยเพราะจะทำให้คุณได้รับสารก่อมะเร็งมากขึ้น รายการอาหารทั้งสิบรายการข้างต้น ถ้านาน ๆ ทานทีก็พอไหว แต่ถ้าไม่อยากเป็นมะเร็งก็อย่าทานบ่อย หรือทานซ้ำ ๆ นะคะ