Tag: สารกระตุ้น

  • เบียร์ (รสขม) ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

    เบียร์ (รสขม) ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

    เบียร์ (รสขม) ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ รู้หรือไม่ว่าการดื่มเบียร์ในปริมาณที่เหมาะสมนั้น มีประโยชน์ต่อสุขภาพได้เหมือนกัน เนื่องจากในเบียร์ มีรสขมของ “ฮอป” ที่สร้างสมดุลความหวานของมอลต์ แถมยังมีสารต่างๆ มากกว่าพันชนิด ที่จะช่วยประคับประคองอวัยยะหลายๆส่วนให้ร่างกายแข็วแรง แถมยังปกป้องโรคได้สารพัดโรค แต่…ก็ต้องขึ้นอยู่กับการที่คุณดื่มด้วยนะ ควรดื่มให้เป็นกระษัย ไม่ใช่ดื่มเพื่อทำร้ายตัวเอง นักวิจัยได้วิจัยเรื่องนี้ไว้ว่า เบียร์ สามารถช่วยบำบัดโรคร้ายต่างๆได้จริง อย่างเช่น การดื่มเบียร์ในปริมาณครึ่งลิตร จะช่วยบำบัดในโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ เพราะสารโทฮูมอลในเบียร์นั้น จะไปช่วยยับยั้งโปรตีนที่ไปพัฒนามะเร็งให้หยุดลง แและสารที่มีในเบียร์อีกตัวนึงที่ชื่อว่า เซนโทอูมอล มีปฏิกริยาที่จะช่วยยับยั้งการเกิดเนื้องอก ได้อีก แถมยังเป็นยาขับปัสสะวะชั้นดี เพราะเบียร์นั้นเป็นสารกระตุ้นของไต และของเสียต่างๆให้ออกจากร่างกาย และนั่นแหละ เป็นเหตุผลที่คนที่ดื่มเบียร์นั้นเกิดการปัสสะวะบ่อย และข้อดีของเบียร์อีกอย่างคือ เบียร์จะช่วยเป็นยากรดประสาทเบาๆ เมื่อเราดื่มเบียร์หนึ่งแก้วในเวลาช่วงเย็นนั้น จะช่วยทำให้คุณนอนหลับสบายมากขึ้น นั่นเพราะ ฮอป มีฤทธิ์เป็นยากดประสาทอ่อนๆ เบียร์จึงช่วยในการนอนหลับ เหมือนกับยานอนหลับแบบธรรมชาติ แถมยังช่วยขจัดความเครียดและวิตกกังวลที่ส่งผลต่อประสาทให้ผ่อนคลาย ยังไงแล้วก็อย่าดื่มเบียร์เพื่อทำร้ายตัวเองกันหละ…นอกจากจะไม่ได้ช่วยเรื่องสุขภาพแล้ว ยังทำให้สุขภาพร่างกายทรุดโทรม..ก่อนวัยอันควรอีกด้วย ^__^

  • นักวิจัยพบว่า สารเคมีในเนื้อแดง เสี่ยงต่อโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตัน

    นักวิจัยพบว่า สารเคมีในเนื้อแดง เสี่ยงต่อโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตัน

    นักวิจัยพบว่า สารเคมีในเนื้อแดง เสี่ยงต่อโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตัน นักวิจัยอเมริกัน ศึกษาเกี่ยวกับสารกระตุ้นที่ก้อให้เกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตัน พบว่า สารเคมีที่อยู่ในเนื้อแดงนั้น เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่นอกจากไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลที่ไปอุดตันเส้นเลือดและก่อให้เกิดโรคหัวใจได้ ทีมแพทย์ผู้รักษาผู้ป่วยที่เกี่ยวกับโรคเหล่านี้ แนะนำให้ผู้ป่วยโรคหัวใจควบคุมปริมาณเนื้อเเดงที่รับประทานให้น้อยลง รวมทั้งเนื้อสเต็กและเนื้อแกะ เนื่องจากไขมันและคอเลสเตอรอลในเนื้อแดงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด เพราะในเนื้อแดงยังมี สารเคมีชนิดหนึ่งที่เรียกว่า สารคาร์นิทีน (carnitine) เมื่อสารเคมีตัวนี้ถูกย่อยโดยเชื้อเเบคทีเรียในลำใส้ จะผลิตสารอีกชนิดหนึ่งออกมาเรียกว่า สาร TMOA เป็นสารที่พบในปริมาณสูงในกลุ่มคนที่นิยมรับประทานเนื้อแดงและเชื่อว่าเป็นสารเคมีที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ทีมนักวิจัยทดลองสารเคมีตัวนี้ในหนูทดลอง โดยการให้หนูทดลองกินอาหารที่มีสาร TMOA ผสมอยู่ในปริมาณสูงเริ่มมีอาการเส้นเลือดอุดตัน และเมื่อทีมนักวิจัยทดลองกำจัดแบคทีเรียในลำใส้ของหนูที่ทำหน้าที่ย่อยสารคาร์นิทีนให้เป็นสาร TMOA หนูทดลองเริ่มหายจากอาการเส้นเลือดอุดตัน สารคาร์นิทีนพบในปริมาณต่ำในเนื้อปลาและเนื้อไก่ และยังพบในผักบางชนิดและข้าวสาลี ตลอดจนในคนที่รับประทานเม็ดอาหารเสริม คุณไซเดซ กล่าวว่ายังเร็วเกินไปที่จะเเนะนำให้คนหลีกเลี่ยงอาหารอื่นๆที่มีสารคาร์นิทีนนอกเหนือไปจากเนื้อแดง

  • นักวิจัยเผย เซลล์ตกแต่งพันธุกรรม อาจเป็นแนวทางบำบัดโรคแบบใหม่ในอนาคต

    นักวิจัยเผย เซลล์ตกแต่งพันธุกรรม อาจเป็นแนวทางบำบัดโรคแบบใหม่ในอนาคต

    นักวิจัยเผย เซลล์ตกแต่งพันธุกรรม อาจเป็นแนวทางบำบัดโรคแบบใหม่ในอนาคต ทีมนักวิจัยที่มหาวิทยาลัย University of California ในซานฟรานซิสโกชี้ว่าการบำบัดโรคด้วยเซลล์เป็นแนวทางการรักษาโรคแบบใหม่ที่มีศักยภาพในการบำบัดโรคร้ายแรงหลายๆโรค รวมทั้งเบาหวาน มะเร็ง และโรคที่เกี่ยวข้องกับกระเพาะปัสสาวะอักเสบ  หัวหน้าทีมวิจัยและผู้อำนวยการศูนย์ Systems and Synthetic Biology ที่มหาวิยาลัยกล่าาว่าเราสามารถกระตุ้นให้ระบบการต่อต้านเชื้อโรคตามธรรมชาติในร่างกายคนเราทำงานได้มากกว่าที่ทำอยู่ ร่างกายคนเราสร้างขึ้นจากเซลล์และภายในร่างกายคนเรา มีเซลล์หลายประเภท  อาทิ เซลล์ภูมิต้านทานที่ปกป้องร่างกายจากเชื้อโรค ร่างกายคนเรามีระบบบำบัดที่ซับซ้อนหลายอย่างอยู่ในตัว เพียงแต่เรายังไม่รู้ว่าจะใช้เซลล์เหล่านี้ให้ทำหน้าที่เหมือนยาที่สามารถบำบัดโรคได้ในตัวได้อย่างไร ทีมวิจัยได้เริ่มต้นพัฒนายุทธวิธีบำบัดโรคด้วยเซลล์ที่ซับซ้อนโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานการทำงานของพันธุกรรมในการกำหนดพัฒนาการและการทำงานของเซลล์ต่างๆในร่างกาย เขายกตัวอย่างว่าเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายตามธรรมชาติที่ต่อสู่กับการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งมักจะอ่อนแอ ทีมนักวิทยาศาสตร์กำลังทำการตกแต่งพันธุกรรมเซลล์ภูมิต้านทานให้เพิ่มจำนวนขึ้นและยังกำหนดให้ทำหน้าที่กำจัดโมเลกุลที่พบในเซลล์มะเร็งเป็นการเฉพาะ เขากล่าวว่าจาการทดลองบำบัดด้วยเซลล์ตกแต่งพันธุกรรม ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นอย่างน่าพอใจ อย่างไรก็ดี ก่อนจะสามารถนำไปใช้บำบัดผู้ป่วยได้ทั่วไป การบำบัดโรคด้วยเซลล์ภูมิต้านทานตกแต่งพันธุกรรมนี้จะต้องผ่านการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยอีกมากมายหลายครั้งโดยทีมนักวิจัยเอกเทศและโดยหน่วยงานควบคุมของรัฐบาลเสียก่อน การทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการบำบัดโรคด้วยเซลล์ตกแต่งพันธุกรรมมีเป้าหมายเพื่อปกป้องผู้ที่จะนำวิธีบำบัดโรคแบบนี้ไปใช้และยังจะมีบทบาทช่วยในการพัฒนาให้การบำบัดแนวใหม่นี้ดีขึ้น สุดท้ายนักวิจัยกล่าวว่ายารักษาโรคมากมายที่เราใช้บำบัดอาการเจ็บป่วยล้วนเริ่มต้นมาจากสารธรรมชาติในพืชหรือในต้นไม้ ที่เรานำมากลั่นกรองจนมีความบริสุทธิ์และเพิ่มประสิทธิิผลในการรักษา ตลอดจนลดความเป็นพิษ การบำบัดด้วยเซลล์ตกแต่งพันธุกรรมก็จะต้องผ่านขั้นตอนเดียวกันนี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีประสิทธิภาพและปลอดภัย