Tag: สตีรอยด์

  • ระวังดวงตามีปัญหาจากยาสตีรอยด์ได้

    ระวังดวงตามีปัญหาจากยาสตีรอยด์ได้

    ระวังดวงตามีปัญหาจากยาสตีรอยด์ได้ ยาในกลุ่มสตีรอยด์หรือคอร์ติโคสตีรอยด์ เป็นยาที่สังเคราะห์จากฮอร์โมนชนิดหนึ่ง มีหลายประเภท ซึ่งในทางจักษุวิทยา นิยมใช้ยากลุ่มนี้ในการรักษาการอักเสบในช่องหน้าลูกตาหรือเยื่อบุตา หรือกระจกตาอักเสบบางประเภทได้ รวมทั้งการอักเสบหลังการผ่าตัด ฯลฯ ซึ่งข้อดีของยานี้ก็คือลดการอักเสบได้หลายโรค โดยเฉพาะการอักเสบหรือภูมิแพ้ชนิดที่เป็นรุนแรง แต่หากใช้อย่างต่อเนื่องก็อาจทำให้มีผลข้างเคียงได้หลายประการ 1. ต้อหิน หากหยอดยากลุ่มสตีรอยด์เกินกว่าสองอาทิตย์ขึ้นไปอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของการระบายน้ำหล่อเลี้ยงในลูกตา ทำให้ความดันตาสูงขึ้นและทำลายขั้วประสาทตาจนเกิดต้อหินได้ ซึ่งในระยะแรกจะไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาแต่จะค่อย ๆ แสดงอาการมากขึ้น จนสูญเสียลานสายตา ตาพร่ามัวจนสุดท้ายก็ตาบอด การรักษานั้นก็ควรรีบหยุดยาสตีรอยด์ที่ใช้อยู่ จะทำให้ความดันตาลดลง แต่หากเป็นต้อหินระยะรุนแรงแล้วแม้จะหยุดยาความดันตาก็อาจไม่ลดลง อาจต้องให้ยาลดความดันลูกตา เพื่อชะลอการสูญเสียสายตา และต้องติดตามรักษาอย่างต่อเนื่องด้วย 2. ต้อกระจก เกิดจากยาหยอดและยากิน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเมตาบอลิซึมของเลนส์ตา เลนส์ตาจึงขุ่นและเป็นต้อกระจกได้ ผู้ป่วยจะตามัวโดยค่อย ๆ มัวลงคล้ายหมอกบัง การหยุดยาหลังจากเป็นไปแล้วจะไม่สามารถทำให้ดวงตากลับมาใสเหมือนเดิมได้อีก 3. ตาติดเชื้อ เกิดจากยาลดการอักเสบ ซึ่งยานี้ก็มีฤทธิ์ในการลดภูมิต้านของร่างกายได้ด้วย ทำให้เกิดการติดเชื้อบางอย่างได้ 4. เปลืองตาบางตัวลง มักเกิดจากยาหยอดหรือยาป้ายตา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อและเซลล์เม็ดสีของผิวหนังเปลือกตา ทำให้ผิวหนังบริเวณนี้สีดูจางและบางตัวลง 5. ผลข้างเคียงอื่น ๆ ได้แก่ รูม่านตาขยายขึ้น หนังตาตก มักพบในรูปยาหยอดตา…