Tag: รักษาเบาหวาน
-
ระวังการใช้สมุนไพร “ปอบิด” เสี่ยงไตวายได้
ระวังการใช้สมุนไพร “ปอบิด” เสี่ยงไตวายได้ ปัจจุบันนี้มีการนิยมนำเอาสมุนไพรบางชนิดมาช่วยบรรเทาและรักษาโรคเบาหวานกันมากขึ้น หนึ่งในนั้นก็คือ “ปอบิด” หรือ “ปอกะบิด” นั่นเอง ซึ่งแม้จะมีฤทธิ์ช่วยในการลดน้ำตาลได้เลือดได้ แต่ก็พบว่ามีผู้ป่วยบางรายมีอาการไตวายเป็นผลข้างเคียงด้วย อันตรายมาก! ซึ่งมีรายงานจากการวิจัยพบว่า ปอบิดนี้ช่วยรักษาเบาหวานได้จริง สามารถลดระดับน้ำตาลในหนูทดลองได้ แต่ก็ทำลายตับของหนู และกระตุ้นหัวใจของกบได้ด้วย ซึ่งสมุนไพรดังกล่าวยังไม่มีงานวิจัยในด้านพิษวิทยาล่าสุดนี้มีงานวิจัยจาก รศ.รุ่งระวี เต็มศิริฤกษ์กุล ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่าแม้ปอบิดจะช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ให้ผลใกล้เคียงกับยาแผนปัจจุบัน แต่ก็ไม่สามารถทดแทนยารักษาเบาหวานได้จริง ผ็ป่วยควรตรวจการทำงานของตับและไตทุก 3 เดือน และห้ามใช้สมุนไพรชนิดนี้ในผู้ที่มีประวัติเป็นโรคตับหรือโรคไต รวมไปถึงผู้ที่มีพันธุกรรมเป็นโรคตับโรคไตในครอบครัวด้วย ผู้ป่วยเบาหวานนั้นมักจะมีตับ ไต ตับอ่อน หัวใจไม่แข็งแรงอยู่แล้ว เสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่าย หากต้องการใช้สมุนไพรไม่ควรกินติดต่อกันเกิน 7 วัน เพราะปริมาณสารเคมีจากสมุนไพรควบคุมได้ยาก และไม่ควรกินแทนยา จึงควรมีช่วยหยุดพักในการกินหรือทานสมุนไพรชนิดอื่น ๆ สลับกันไป เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่คาดไม่ถึงได้อีกในอนาคตค่ะ
-
การรักษาเบาหวานด้วยการปลูกถ่ายตับอ่อน
การรักษาเบาหวานด้วยการปลูกถ่ายตับอ่อน ปัจจุบันนี้การปลูกถ่ายอวัยวะเป็นการผ่าตัดที่แพทย์ไทยเรามีความชำนาญมากขึ้น จึงถูกนำมาใช้ในการรักษามากขึ้นด้วย แต่ปัญหากลับกลายเป็นว่ามีผู้บริจาคอวัยวะจำนวนน้อยลง ผู้ป่วยหลายรายจึงอาจต้องรอคอยนานบางท่านก็อาจต้องรอคอยทั้งชีวิต ผู้ป่วยรายใดได้รับบริจาคอวัยวะถือว่าเป็นความโชคดีเหมือนได้ชีวิตใหม่ สำหรับการปลูกถ่ายตับอ่อนนี้ก็เป็นวิธีการรักษาเบาหวานอีกวิธีหนึ่งเช่นกัน เพื่อการรักษาผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องพึ่งอินซูลินหรือเบาหวานประเภทที่หนึ่ง เพราะเซลล์ที่ผลิตอินซูลินในตับอ่อนโดนทำลาย จึงต้องฉีดอินซูนลินวันละหลายครั้งทุกวัน เคยมีผู้ปลูกถ่ายตับอ่อนสำเร็จมาแล้ว โดยผู้ป่วยรายนี้เป็นเบาหวานชนิดที่หนึ่งเรื้อรัง มีภาวะไตวายด้วย จึงต้องเปลี่ยนไตไปด้วย โดยมีการปลูกถ่ายไตก่อน เพราะผู้ป่วยรายนี้ต้องมาฟอกเลือดด้วยไตเทียมอาทิตย์ละสองครั้งมาตลอด การปลูกถ่ายไตได้ผลดีแต่ก็ยังคงต้องฉีดอินซูลินทุกวันเพื่อควบคุมระดับน้ำตาล ต่อมาไม่นานเป็นเรื่องโชคดีมากที่มีผู้บริจาคตับอ่อนให้ จึงทำการปลูกถ่ายตับอ่อนบริเวณอุ้งเชิงกรานด้านซ้ายแล้วต่อหลอดเลือดเข้ากับหลอดเลือดไปเลี้ยงขา และต่อท่อตับอ่อนเข้ากับลำไส้เล็ก ใช้เวลาผ่าตัดเพียงสามชั่วโมง หลังการผ่าตัดได้รับยากดภูมิเป็นเวลา 18 วันโดยไม่เกิดภาะแทรกซ้อน ตับอ่อนที่ปลูกถ่ายทำงานได้ดี สามารถผลิตอินซูลินได้ทันทีหลังจากการผ่าตัดเพียงวันเดียว มีระดับน้ำตาลในเลือดเป็นปกติ ไม่ต้องฉีดอินซูลินและไม่ต้องกินยาลดระดับน้ำตาลในเลือด การผ่าตัดปลูกถ่ายตับอ่อนหนนี้จึงเป็นความสำเร็จที่ช่วยรักษาชีวิตผู้ป่วยเบาหวานเอาไว้ได้ ต้องเรียกว่าเป็นความโชคดีซ้ำซ้อนที่ผู้ป่วยได้รับการบริจาคอวัยวะถึงสองชิ้น แล้วยังประสบความสำเร็จในการปลูกถ่ายทั้งสองครั้งด้วย คุณภาพชีวิตจึงดีกว่าเดิมมาก หากในประเทศไทยมีผู้ป่วยโชคดีมาก ๆ เช่นนี้ก็คงดี ซึ่งก็คงต้องสนับสนุนโครงการบริจาคอวัยวะให้เป็นที่ยอมรับให้มากกว่านี้ให้ได้ก่อนน่ะค่ะ