Tag: ระบบย่อยอาหาร
-
สังเกตอุจจาระของตัวเองบ่งบอกสุขภาพได้
สังเกตอุจจาระของตัวเองบ่งบอกสุขภาพได้ หลังการอุจจาระแต่ละครั้งเราควรสังเกตลักษณะของอุจจาระด้วยว่ามีลักษณะอย่างไร เพราะสามารถบ่งบอกถึงสุขภาพของตัวเราได้ ซึ่งอุจจาระปกตินั้นร้อยละ 25 จะแข็ง ส่วนที่เหลือจะเป็นน้ำ ลักษณะของอุจจาระจะขึ้นอยู่กับอาหารที่ทานเข้าไป รวมไปถึงระบบย่อยอาหารของแต่ละคน สามารถแบ่งออกเป็นสองลักษณะใหญ่ ๆ ได้ดังนี้ 1. อุจจาระปกติดี มีสีน้ำตาลอ่อนจนถึงน้ำตาลเข้ม มีความอ่อนนุ่ม และอาจมีสีเขียว เหลืองแซมบ้าง ตามแต่ว่าผู้นั้นจะบริโภค ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์อะไรเข้าไป จะมีลักษระกึ่งลอยกึ่งจมน้ำ 2. อุจจาระที่ไม่ปกติ จะแยกย่อยออกได้ดังนี้ 2.1 อุจจาระมีเลือดปน จะพบเมื่อมีอาการผิดปกติได้แก่ – มีเลือดสดปนออกมา ซึ่งอาจมีจำนวนเล็กน้อย เกิดจากการระคายเคืองบริเวณทวารหนักจากก้อนอุจจาระ การฉีกขาดของทวารหนัก เลือดจากแผลในกระเพาะอาหาร หรือลำไส้เล็กมีการระคายเคืองหรืออักเสบอย่างรุแรงจากลำไส้อักเสบ การอักเสบของส่วนผนังลำไส้ที่ยื่นออกมา รวมไปถึงมะเร็งและโรคอื่น ๆ ได้ด้วย – มีเลือดเก่าหรือเลือดแอบแฝงที่มองไม่เห็นออกมา สีของเลือดที่พบจะบ่งบอกถึงตำแหน่งของเลือดได้ หากเลือดออกจากทางเดินอาหารส่วนบนบริเวณกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก ลักษณะของอุจจาระจะเปลี่ยนไป จากสีน้ำตาล เป็นดำสนิท เหนียวมีกลิ่นเหม็นรุนแรง 2.2 อุจจาระมีลักษณะสีขาวซีด ซึ่งเกี่ยวข้องกับการไม่มีน้ำดีในลำไส้เล็ก เกิดจากการอุดกั้นของทางเดินน้ำดีที่ผลิตจากตับและถุงน้ำดี น้ำดีจึงไม่สามารถเข้าสู่ลำไส้ได้ 2.3 อุจจาระผิดปกติแบบอื่น…
-
6 พืชผักสมุนไพร ที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร
6 พืชผักสมุนไพร ที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร สำหรับคนที่มีมักจะมีปัญหาในเรื่องของการย่อยอาหาร และการดูดซึมอาหารอยู่บ่อย ๆ ทุกมื้อของอาหารลองทานผักหรือสมุนไพรเหล่านี้ ดูจะช่วยลดอาการในช่องท้องได้ดีเลยทีเดียวค่ะ 1. พริกขี้หนูสด ความเผ็ดร้อนของพริกช่วยให้ช่องปากหลั่งน้ำลายออกมามากขึ้น จึงทำให้แป้งถูกย่อยและดูดซึมในปากได้ดี กระเพาะและลำไส้จึงทำงานน้อยลง 2. กระเพรา แม้ผัดกระเพราะจะดูเป็นอาหารสิ้นคิดก็ตาม แต่สรรพคุณของผักชนิดนี้นั้น มีเหลือคณานับ เพราะช่วยให้กระเพาะอาหารขับน้ำดีออกมามากขึ้น จึงสามารถย่อยอาหารเราได้มากขึ้น ช่วยย่อยไขมัน และระบายแก๊สได้ จึงลดอาการจุกเสียดไปด้วยในตัว 3. กระเทียม การทานกระเทียมสด ๆ ทันทีหลังอาหารจะช่วยให้กระเพาะของคุณย่อยอาหารได้ดีขึ้น เหมาะมากสำหรับผู้ที่มีปัญหากระเพาะไม่ย่อยอาหาร แล้วยังช่วยแก้ท้องอืด ขับลมได้ด้วยนะ 4. แมงลัก เป็นยาช่วยย่อยชั้นเลิศเลยทีเดียว แถมยังช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ เพียงทานใบแมงลักสด ๆ มื้อละ 4-5 ใบก็พอ สบายท้องขึ้นเยอะเลยค่ะ 5. หอมแดง หอมแดงมีสารฟลาโวนอยด์ เพคติน ไกลโคไซด์ และกลูโคคินินอยู่สูงมาก ช่วยบำรุงลำไส้ และช่วยย่อยอาหาร ทำให้เจริญอาหารด้วย 6. ตะไคร้ หากการกินสด ๆ ทำให้รู้สึกว่ากินยาก…
-
พึงระวัง..อาหารบางชนิดทำระบบย่อยคุณมีปัญหา!
พึงระวัง..อาหารบางชนิดทำระบบย่อยคุณมีปัญหา! – อาหารที่มีรสเปรี้ยว หรือมีกรดมากอย่างน้ำอัดลม น้ำมะนาว น้ำส้ม ความเป็นกรดจะระคายเคืองหลอดอาหาร แล้วยังอาจทำให้เกิดปัญหาท้องอืดท้องเฟ้อด้วย – ช็อกโกแลตอาจทำให้คุณเกิดปัญหาโรคกรดไหลย้อนได้ หากทานเล็กน้อยก็อาจไม่มีปัญหาอะไร แต่เกิดปัญหาเพราะคุณทานช็อกโกแลตมากเกินไป เพราะช็อกโกแลตทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างคลายตัวออก กรดในกระเพาะจึงไหลย้อนกลับขึ้นมาที่หลอดอาหารได้ – กะหล่ำปลี และบร็อกโคลี่ดิบ ๆ ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารได้ แต่ผักสองชนิดนี้มีประโยชน์มาก และมีเส้นใยอาหารมากอีกด้วย แต่ควรปรุงให้สุกก่อนจะดีกว่า – มันบดและไอศกรีม ทำให้มีแก๊สในกระเพาะอาหารมาก ท้องอาจจะอืดหรือคุณอาจจะผายลมไม่หยุดได้ ซึ่งหมายความว่าร่างกายคุณอาจจะแพ้แลกโทส แต่แม้คุณจะไม่แพ้ อาหารทั้งสองอย่างนี้หากทานมากไปก็อาจอ้วนเพราะไขมันสูงได้ – นักเก็ตไก่ หรือไก่ชุบแป้งทอด หากเป็นเนื้อไก่ล้วนมันยังเป็นของที่ย่อยง่าย แต่เมื่อไรที่นำไปคลุกแป้ง มันจะกลายเป็นอาหารขยะ ย่อยยาก มีไขมันสูง สร้างปัญหาให้กับกระเพาะและระบบย่อยอาหารทั้งหมด ยังไม่รวมว่ากินมากแล้วอ้วนด้วยนะคะ – หัวหอมที่ไม่สุก เพราะในหัวหอมดิบนั้นมีไฟโตนิวเทรียนต์ จึงอาจทำให้ปวดท้องได้ แม้จะมีประโยชน์ต่อร่างกายและดีต่อหัวใจ ทางแก้ไขก็คือควรทานหัวหอมดิบและหัวหอมสุกผสมกันจะดีกว่า – หากคุณทานถั่วบ่อย ๆ ก็คงไม่ค่อยเป็นปัญหาอะไรนัก แต่หากคุณไม่ได้ทานบ่อย ๆ ร่างกายคุณก็อาจขาดเอนไซม์สำหรับการย่อยถั่ว ผลก็คือเมื่อทานเข้าไปแล้วจะเกิดแก๊สแล้วก็ท้องอืดได้ง่ายค่ะ – หมากฝรั่งปราศจากน้ำตาล…
-
ดับเบิ้ล “อาหาร” ชะลอความชรา
ดับเบิ้ล “อาหาร” ชะลอความชรา เราจะเป็นในอย่างที่เรากิน หรือ You are what you eat เป็นประโยคที่ช่วยให้เราได้หยุดคิดก่อนที่จะหยิบอาหารชนิดใดเข้าปาก ว่าอาหารชนิดนั้น ๆ จะให้ผลกับสุขภาพของเราอย่างไร ดังนั้นการกินอาหารจึงไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ หรือสักแต่กินตามท้องหิวหรือตามปากอยาก แต่ต้องมีเทคนิคการกินที่ดี รายการอาหารที่จะนำมาเสนอในตอนนี้จะเป็นคู่อาหารที่เมื่อจับคู่กันทานแล้ว จะช่วยชะลอความชราได้อย่างไม่น่าเชื่อ มาดูกันค่ะ คู่แรก ทานเนื้อปลา คู่กับ บร็อกโคลี่ อาหารคู่นี้เมื่อกินด้วยกันจะช่วยยับยั้งการก่อตัวและแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้ เนื่องจากซีลีเนียมและซัลโฟ ราเฟนที่อยู่ในอาหารทั้งคู่ จึงช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งลงมากกว่าเลือกกินเดี่ยว ๆ ถึง 13 เท่าเลยทีเดียวค่ะ คู่ที่สอง ทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติ กับกล้วย เมื่อทานคู่กันจะช่วยดูแลลำไส้ ด้วยพรีไบโอติก และโพรไบโอติก เหมือนการช่วยกันผสานพลังในการดูแลระบบย่อยอาหารให้มีประสิทธิภาพ ทำงานได้อย่างเต็มที่ คู่ที่สาม ทานถั่วฝักยาวคู่กับพริกหวานสีแดง ช่วยป้องกันโรคทางเลือดและโลหิตจาง เพราะถั่วฝักยาวเป็นอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง และเมื่อทานคู่กับอาหารที่มีวิตามินซีสูง ๆ จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้อย่างเต็มที่ ซึ่งหากไม่ได้ทานร่วมกันแล้วอาจทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กจากผักได้ไม่ถึงร้อยละ 10 ในส่วนของถั่วฝักยาวนั้น สามารถเปลี่ยนเป็นผักคะน้าหรือบร็อกโคลี่ก็ได้ผลเช่นเดียวกันค่ะ คู่ที่สี่ ทานแอปเปิ้ลร่วมกับองุ่น เป็นการผสานพลังกันระหว่างสารเควอซิตินในแอปเปิ้ล…