Tag: ระบบประสาท
-
วิธีระวังป้องกันฟ้าผ่า จากฝนฟ้าคะนองในหน้าฝน
วิธีระวังป้องกันฟ้าผ่า จากฝนฟ้าคะนองในหน้าฝน ปรากฎการณ์ฟ้าผ่านั้น เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากความไม่สมดุลของอุณหภูมิในชั้นบรรยากาศโลก ทำให้เกิดไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงถึง 100 ล้านโวลต์ ซึ่งในแต่ละปีเกิดฟ้าผ่ากว่าแปดล้านครั้ง และมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากฟ้าผ่าถึงปีละประมาณห้าพันราย การเสียชีวิตและบาดเจ็บจากฟ้าผ่านี้เกิดจากความร้อนของประจุไฟฟ้าของฟ้าผ่า จะส่งผลต่อหัวใจและสมอง ทำให้หัวใจหยุดเต้น ก้านสมองไม่ทำงาน ซึ่งหนึ่งในสามคนของผู้ถูกฟ้าผ่าจะตายทันที ส่วนผู้ที่รอดชีวิตมากได้มักจะพิการถาวรจากระบบประสาทและไขสันหลังที่ถูกทำลาย ทำให้ตาบอด หูหนวก หรือเป็นอัมพาตได้ ดังนั้นหากเกิดฝนตกฟ้าคะนองขึ้น เพื่อให้รอดพ้นจากภัยฟ้าผ่าควรปฏิบัติดังนี้ 1. ถอดเครื่องประดับโลหะไว้ไกล ๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกา แหวน กำไล สร้อยคอ ฯลฯ 2. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง หรือกิจกรรมที่ทำกลางแจ้งทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ตีกอล์ฟ เตะฟุตบอลในสนาม การหาปลาหากลในทุ่งนา ฯลฯ เพื่อลดความเสี่ยง 3. อย่าหลบอยู่ใต้ต้นไม้กลางทุ่ง เสาไฟ ป้ายโฆษณา กำแพงหรือรั้วที่มีโลหะ หากจำเป็นต้องหลบใต้ต้นไม้ควรเลือกที่ไม่สูงมาก และเลือกต้นที่มีกิ่งใบแผ่ปกคลุมหนา อยู่ให้ห่างจากโคนต้นไม้ 2-3 เมตรขึ้นไป หรือหากหลบอยู่ในศาลาริมทาง ควรอยู่ให้ห่างเสาเพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าโคจรมาถึงตัว 4. หากอยู่ในรถควรปิดประตู กระจกหน้าต่างให้มิดชิด และอย่าให้ร่างกายสัมผัสกับตัวถังรถที่เป็นโลหะ…
-
ผู้ป่วย “ไมเกรน” ระวังอาหารดังต่อไปนี้
ผู้ป่วย “ไมเกรน” ระวังอาหารดังต่อไปนี้ คนที่มีโรคประจำตัว อย่างโรคไมเกรนนี่ จำเป็นต้องระวังการใช้ชีวิตประจำวันมากกว่าคนทั่วไป ยิ่งโดยเฉพาะอาหารแล้ว หากทานไม่ระวังอาจทำให้ร่างกายได้รับสารไทรามีน และ ไนไตรต์ เข้าไป เมื่อร่างกายได้รับปุ๊บก็จะทำให้ระบบประสาทและหลอดเลือดหดตัวทันที จึงปวดหัวจี๊ดขึ้นมาอย่างฉับพลัน ดังนั้นจึงควรระวังอาหาร 5 ชนิดนี้ไว้ค่ะ 1. กุนเชียงและเนื้อหรือหมูแดดเดียว เพราะสีแดง ๆ ของอาหารทั้งสองชนิดนี้จะเติมดินประสิวลงไปด้วย และในดินประสิวนี่แหล่ะมีสารไนไตรต์ผสมอยู่เยอะมาก ดังนั้นจึงทำให้คุณปวดหัวจี๊ดได้ทันที 2. ช็อกโกแลต คนเป็นไมเกรนทานแล้วปวดหัวทุกที แต่ทันทีสามารถทานช็อกโกแลตขาวได้ ซึ่งมีส่วนประกอบเป็นนมมากกว่านั่นเอง 3. แอสปาแทม หรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาล มีผลการสำรวจมากว่าคนที่เป็นไมเกรนมักจะปวดหัวเมื่อกินสารชนิดนี้เข้าไป 4. ไวน์แดง มีไทรามีและไนไตรต์สูงมาก ดังนั้นหลีกเลี่ยงจะดีกว่า 5. ลูกชิ้นเด้งดึ๋ง ก็มีมากเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ทุกร้านที่เติมสารบอแร็กซ์ที่ทำให้ลูกชิ้นเด้งดึ๋ง นอกจากทำห้ปวดศีรษะแล้ว ยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วยค่ะ ระวังไว้ก่อนจะดีกว่านะคะ จะได้ไม่ปวดหัวจี๊ดค่ะ
-
นักวิจัยอเมริกันพบว่า หากโปรตีนในรกของมารดาต่ำ อาจส่งผลต่อระบบประสาทของเด็กได้
นักวิจัยอเมริกันพบว่า หากโปรตีนในรกของมารดาต่ำ อาจส่งผลต่อระบบประสาทของเด็กได้ นักวิจัยค้นพบว่า ในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ มีระดับโปรตีนในรกอยู่ในระดับต่ำ หรือมีความเครียด อาจส่งผลให้เด็กมีปัญหาทางระบบประสาท หรือสาเหตุของการเกิดโรคออทิสซึ่มและโรคจิตหลอนได้ ทีมนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยยูนิเวอร์ซิตี้ออฟเพนซิลเวเนีย รัฐฟิลลาเดลเฟีย เปิดเผยว่าผู้หญิงที่เครียดในขณะกำลังตั้งครรภ์จะส่งผ่านโปรตีนพิเศษชนิดหนึ่งไปสู่ทารกในครรภ์ในระดับต่ำกว่าปกติ ซึ่งมีผลให้เกิดความผิดปกติทางพัฒนาทางสมองในทารก ระดับโปรตีนชนิดนี้ในระดับต่ำที่สุดพบในสายรกของทารกเพศชาย เนื่องจากยีนที่ทำหน้าที่แตกต่างกันออกไป ยีนเหล่านี้จะปรับเปลี่ยนไปตามสภาวะเเวดล้อมในรกที่ตอบสนองต่อความเครียดที่เกิดขึ้นกับตัวมารดา อาหารที่มารดารับประทาน รวมถึงการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของมารดาและกิจกรรมอื่นๆ สำหรับโรคจิตหลอนเป็นอาการทางระบบประสาทที่ผู้ป่วยสร้างมโนภาพขึ้นมาเอง ส่วนผู้ป่วยโรคออทิสซึ่มมีความผิดปกติในด้านการสื่อสารและการเข้าสังคม ทีมนักวิจัยให้เหตุผลว่ายีนตัวที่มีบทบาทในการเกิดโรคด้อยพัฒนาทางสมองอาจจะเกี่ยวข้องกับโครโมโซมเอ็กซ์ซึ่งเป็นโครโมโซมเพศหญิง ทีมนักวิจัยค้นพบว่าเกิดระดับโปรตีนชนิดหนึ่งที่เรียกว่าโปรตีน OGT ในรกของลูกหนูตัวเมียสูงกว่าในรกของลูกหนูตัวผู้ นอกจากนี้ ระดับโปรตีนตัวนี้ยังมีระดับต่ำในรกของหนูตั้งท้องที่อยู่ในภาวะเครียดเมื่อเทียบกับหนูตั้งท้องที่ปลอดจากความเครียด หัวหน้าทีมวิจัยไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าโปรตีนโอจีทีมีผลกระทบต่อพัฒนาการทางสมองในมนุษย์ แต่ชี้ว่าการตรวจหาระดับของโปรตีนโอจีทีในรกทารกในครรภ์อาจจะช่วยให้ระบุได้ว่าทารกคนไหนมีความเสี่ยงสูงต่อโรคออทิสซึ่มและโรคจิตหลอนที่เป็นผลสืบเนื่องจากความเครียดของมารดาขณะตั้งครรภ์ และ โปรตีนตัวนี้จะช่วยให้แพทย์รู้ว่าทารกคนไหนที่ต้องติดตามดูพัฒนาการเป็นพิเศษ เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กมีความเสี่ยงสูงต่อความบกพร่องเหล่านี้และหาทางแก้ไขปัญหาแต่เนิ่นๆ และในกรณีของโรคออทิสซึ่ม นักวิจัยเเนะนำว่าการแก้ไขปัญหาแต่เนิ่นๆจะเป็นประโยชน์ในการช่วยปรับปรุงความสามารถในการสื่อสารของเด็ก
-
นักวิจัยค้นพบว่า คนตาบอดอาจมีประสาทสัมผัสในการฟังได้ดีกว่าคนปกติจริง
นักวิจัยค้นพบว่า คนตาบอดอาจมีประสาทสัมผัสในการฟังได้ดีกว่าคนปกติจริง นักวิจัยสหรัฐ ทำการวิจัยค้นหาคำตอบในเรื่อง คนที่พิการทางสายตามีประสาทสัมผัสด้านการได้ยินดีกว่าคนปกติจริงหรือไม่ โดยคณะนักวิจัยชุดนี้ใช้วิธีลดความสามารถทางการมองเห็นของหนูทดลอง ด้วยการปล่อยหนูทดลองที่มีประสาทสัมผัสปกติดีเข้าไปในห้องมืดและให้อาศัยอยู่ในนั้นเป็นเวลา 1 สัปดาห์เต็ม หลังจากครบ 1 สัปดาห์ นักวิจัยได้นำหนูทดลองตัวนั้น มาวัดความสามารถในการได้ยิน แล้วประมวลผล ซึ่งการทดสอบพบว่าหนูทดลองตัวนั้น มีประสาทสัมผัสด้านการได้ยินดีขึ้น และการเชื่อมโยงของวงจรควบคุมการได้ยินในสมองก็เปลี่ยนไปด้วย ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นน่าแปลกใจ เพราะแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวอย่างชัดเจนว่า หากความสามารถทางการมองเห็นลดลง ความสามารถทางการได้ยินจะเพิ่มขึ้น นักวิจัยระบุว่าหนูทดลองที่ผ่านประสบการณ์อยู่ในห้องมืดมานั้น มีพัฒนาด้านการเชื่อมโยงของระบบประสาทมากขึ้น สามารถแยกแยะเสียงระดับต่างๆ ได้ดีขึ้น และยังได้ยินเสียงเบาๆ ได้ดีขึ้นด้วย โดยเสียงที่หนูทดลองได้ยินนั้น เป็นเสียงซึ่งหนูที่เติบโตมาอย่างปกติ ไม่สามารถแยกแยะได้ จึงสามารถบอกได้ว่าหนูทดลองที่ถูกปล่อยให้อยู่ในห้องมืดนั้น สามารถจำแนกความถี่ของคลื่นเสียงได้ดีขึ้น และหากเป็นเช่นนั้นจริง การค้นพบครั้งนี้ก็จะเป็นประโยชน์สำคัญ สำหรับผู้มีปัญหาด้านการได้ยินราว 360 ล้านคนทั่วโลกอย่างแน่นอน