Tag: มะเร็งรังไข่
-
ภัยจากการแพ้นมวัวในเด็กเล็ก
ภัยจากการแพ้นมวัวในเด็กเล็ก ส่วนใหญ่แล้วเด็กที่มีเด็กที่แพ้โปรตีนในนมวัวนั้น กว่าครึ่งจะแสดงอาการออกมาให้เห็นตั้งแต่อายุน้อยกว่า 1 เดือน โดยจะแสดงอาการเป็นผื่น รองลงมาเป็นอาการทางระบบทางเดินอาหาร ในจำนวนของเด็กที่กินนมวัวก่อนอายุครบหกเดือนนั้น ครึ่งหนึ่งจะแพ้นมวัว โดยจะมีอาการอย่างละเอียดดังต่อไปนี้ 1. แสดงอาการที่ระบบทางเดินอาหาร มักจะปวดท้อง ท้องอืด ท้องผูก ท้องเสีย โคลิก อาเจียน กรดไหลย้อน ถ่ายเป็นเลือดและน้ำหนักขึ้นน้อย 2. มีอาการผิวหนังอักเสบ มีผื่นคัน ชันตุ น้ำเหลืองเยิ้ม ลมพิษ ผิวแห้ง 3. มีปัญหาในระยะหายใจ ทั้งการนอนกรน คัดจมูก น้ำมูกไหล คันตาคันจมูก เลือดกำเดาไหล มีเสมหะในคอ หอบหืด กระแอมบ่อย ไซนัสอักเสบ ทอลซิลอักเสบ หูชั้นล่างอักเสบ ต่อมอดีนอยด์โต ต่อมน้ำเหลืองโต ตับและม้ามโต ภาวะหลับตายเนื่องจากแพ้โปรตีนนมวัว 4. มะเร็งในส่วนต่าง ๆ ทั้งต่อมน้ำเหลือง เต้านม รังไข่ ต่อมลูกหมาก ปอด ไต ตับ ลำไส้…
-
เฝ้าระวัง…โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
—
by
เฝ้าระวัง…โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ในประเทศไทยนั้นพบผู้ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ในผู้ชายมากเป็นอันดับสาม รอบจากมะเร็งตับและมะเร็งปอด ในส่วนผู้หญิงพบเป็นอันดับที่ห้า โรคนี้นั้นยังไม่พบสาเหตุที่ชัดเจนแต่มีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างได้แก่ – อายุมากกว่า 50 ปีขึ้น – มีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่มาก่อน – มีประวัติเคยเป็นมะเร็งรังไข่ มะเร็งปากมดลูก หรือมะเร็งเต้านมก่อน – ตรวจพบเคยมีติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่หรือโรคลำไส้ใหญ่อักเสบมาก่อน – มีภาวะโรคอ้วน สูบบุหรี่ – ฯลฯ ผู้ที่มีอาการดังต่อไปนี้ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่โดยด่วน ได้แก่ อุจจาระมีมูกเลือดหรือเป็นสีดำ หรือสีดำแดง หรือการขับถ่ายเปลี่ยนไป เช่น ท้องผูกสลับท้องเสีย หรือท้องผูกและท้องเสีย ขนาดของอุจจาระเล็กกว่าปกติ รู้สึกเหมือนถ่ายไม่สุด แน่นท้อง อึดอัดท้อง ปวดท้อง อาเจียน อ่อนเพลีย น้ำหนักลดโดยไม่รู้ตัว ฯลฯ การรักษานั้นสามารถทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับระยะของมะเร็งและตำแหน่งของโรค ทั้งการผ่าตัด การใช้เคมีบำบัด การรักษาด้วยรังสี การใช้หลายวิธีร่วมกัน เป็นต้น การปฏิบัติตัวเพื่อลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งได้แก่ การกินอาหารที่ปรุงสุกสะอาด กินผักและผลไม้มาก ๆ เพิ่มกากใยในลำไส้ เพื่ออุจจาระได้ง่าย หลีกเลี่ยงอาหารรสหวานจัด มีไขมันสูง รักษาน้ำหนักตัวให้ได้มากตรฐาน ออกกำลังกายสม่ำเสมอและงดการสูบบุหรี่…
-
หมั่นตรวจแพ็ปสเมียร์ เพื่อเฝ้าระวังมะเร็งปากมดลูก
หมั่นตรวจแพ็ปสเมียร์ เพื่อเฝ้าระวังมะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากมดลูกนั้น เป็นมะเร็งที่พบได้มากที่สุดในหญิงไทย ซึ่งรองลงมาก็คือมะเร็งโพรงมดลูก มะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่ สาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูกนั้น เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี ชนิด 16 และ 18 ผู้ที่มีความเสี่ยงก็ได้แก่ หญิงที่เปลี่ยนคู่นอนหลายคน มีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุยังน้อย มีสามีที่มีคู่นอนหลายคน จึงทำให้ได้รับเชื้อเอชพีวีจากการมีเพศสัมพันธ์ได้ รวมไปถึงผู้ที่มีประวัติเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น เอดส์ เริม หนองใน ซิฟิลิส ฯลฯ นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ การมีอนามัยที่ไม่ดี ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูกอีกด้วย โดยอาการของโรคมะเร็งปากมดลูกนี้ ได้แก่ มีเลือดออกจากช่องคลอดกะปริบกระปรอย มีตกขาวปนเลือด มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ และในระยะท้าย ๆ จะมีอาการขาบวม ปวดก้นกบ ปัสสาวะ อุจจาระเป็นเลือด ซึ่งหากรอจนถึงมีอาการระยะนี้แล้วอาจมีโอกาสในการรักษาให้หายได้เพียงร้อยละ 20-30 เท่านั้น มะเร็งปากมดลูกนี้ระยะแรกจะไม่มีอาการใดเลย แต่หากตรวจพบจะสามารถรักษาให้หายได้ถึงร้อยละ 70-80 เลยทีเดียว การตรวจว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกหรือไม่นั้น ใช้วิธีแพ็ปสเมียร์ ที่สามารถตรวจได้ง่าย รวมไปถึงการผ่าตัดที่มาพร้อมกับรักษาและวินิจฉัยระยะของโรคไปด้วยในตัว หากตรวจพบมะเร็งปากมดลูกในระยะแรกหากทำการผ่าตัดจะรักษาโรคได้ถึงร้อยละ 80 แต่หากพบว่ามีการกระจายตัวแล้วต้องใช้การฉายรังสีเพื่อรักษาด้วย…
-
วิธีเลือกทานผัก…ให้ปลอดจากสารเคมีทางการเกษตร
วิธีเลือกทานผัก…ให้ปลอดจากสารเคมีทางการเกษตร พิษจากสารเคมีทางการเกษตรนั้นทั่วทั้งโลกตระหนักดีกว่าก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บมากมายทั้งตัวของเกษตรกรผู้ผลิตเองและไล่ไปถึงผู้บริโภคด้วย ที่ว่าร้ายก็เป็นเพราะว่าสารเคมีทางการเกษตรนี้ก่อให้เกิดปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งกระเพาะ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งรังไข่และมะเร็งที่ไต เป็นต้น จากการสุ่มตรวจเลือดของประชาชนโดย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขนั้น ได้ดูระดับของเอนไซม์ อะเซทิล โคลิเนสเทอเรส ในเลือด ซึ่งหากลดต่ำลงหากได้รับสารในกลุ่มออร์แกโนฟอสเฟตและคาบาร์เมต พบว่ามีสัสดส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงถึงร้อยละ 54 และจากการศึกษาของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่าผู้ที่มีระดับเอนไซม์อะเซทิล โคลิเนสเทอเรสต่ำนั้นมีความสัมพันธ์กับสภาวะดีเอ็นเอถูกทำลาย จนอาจกลายพันธุ์เป็นมะเร็งได้ในอนาคต ดังนั้นทั้งเราจึงต้องร่วมมือกันในการทำให้อาหารที่บริโภคนั้นปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากเกษตรกรผู้ปลูกจะต้องใส่ใจการผลิตอาหารที่ปลอดสารพิษ ด้วยการหันมาปลูกพืชเกษตรอินทรีย์ พืชผักปลอดสารพิษแล้ว ผู้บริโภคก็ต้องหันมาสนับสนุนอาหารเหล่านี้เช่นกัน ด้วยการเลือกผักมาประกอบอาหารดังต่อไปนี้ – ทานผักให้มีความหลากหลาย หมุนเวียนเปลี่ยนชนิดไปเรื่อย ๆ ยิ่งหากทานเป็นผักพื้นบ้านก็จะยิ่งปลอดภัยจากสารเคมีมากยิ่งขึ้น – เลือกอาหารหรือผักอินทรีย์จากแหล่งผลิตที่วางใจได้ – เมื่อนำมาปรุงควรลอกเปลือกชั้นนอกทิ้งไปก่อน เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดขาว เพราะใบชั้นนอกจะมีสารเคมีตกค้างมากกว่าใบชั้นใน – ล้างผักด้วยการแช่น้ำ เช่น เปิดน้ำจากก๊อกให้ไหลผ่านผักโดยตรง 2 นาที หรือจะใช้วิธีแช่ผักในน้ำปูนใส น้ำด่างทับทิม น้ำซาวข้าว…
-
โรคมะเร็งรังไข่.. ภัยคร่าชีวิตสตรีที่ต้องระวัง
โรคมะเร็งรังไข่.. ภัยคร่าชีวิตสตรีที่ต้องระวัง มะเร็งทางนรีเวชที่ตรวจพบบ่อยเป็นอันดับหนึ่งก็คงเป็นมะเร็งปากมดลูก แต่อันดับสองเป็นของมะเร็งรังไข่ที่ก็เป็นอันตรายไม่แพ้กัน หากตรวจพบต้องรีบรักษาในทันที สำหรับโรคมะเร็งรังไข่นี้จะเกิดขึ้นประมาณ 5 คน ต่อประชากรสตรี 1 แสนคนต่อปี มีผู้ป่วยมะเร็งรังไข่รายใหม่ประมาณ 1,500 คนต่อปี ยิ่งอายุมากก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้นไปด้วย มะเร็งรังไข่นั้น จะไม่ค่อยแสดงอาการนัก จะมีอาการแค่ท้องอืดท้องเฟ้อ จึงเข้าใจว่าเป็นโรคกระเพาะไป จึงทำให้คนไข้พบแพทย์ช้า โรคนี้หากวินิจฉันได้แต่เนิ่น ๆ ก็ยังสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่หากพบเจอในระยะท้าย ๆ แล้วก็คงหายได้ยาก ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เป็นโรคนี้ก็คือ มีญาติใกล้ชิดเป็นโรคนี้ หรือเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้หรืออื่น ๆ โดยเฉพาะหากมีอายุเกิน 40 ปีขึ้นไป หรือชอบรับประทานอาหารที่มีไขมันหรือนมเนยมาก ๆ โดยอาการของมะเร็งรังไข่ ก็คือ ท้องโตขึ้น เนื่องจากมีก้อนหรือน้ำในท้อง มีตั้งแต่น้ำน้อยจนถึงน้ำมาก มีลูกแตงโมในท้อง ส่วนของผู้ป่วยจะมีอาการของระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย ขัด เนื่องจากก้อนของรังไข่ไปกดเบียด ผู้ป่วยจะผอมลง เป็นอาการของมะเร็งทั่วไป อาจมีเลือดออกทางช่องคลอด ซึ่งจะเห็นได้ว่าอาการของมะเร็งรังไข่ไม่จำเพาะเจาะจงชัดเจน …
-
แพทย์เผย….โรคมะเร็งที่รักษาให้หายได้!
แพทย์เผย….โรคมะเร็งที่รักษาให้หายได้! แพทย์ที่รักษาโรคมะเร็งชี้ว่า ยังมีโรคมะเร็งหลายๆอย่างที่สามารถรักษาให้หายได้ หรือไม่ก็ช่วยให้ ผู้ป่วยมะเร็งมีชีวิตอยู่ได้เท่ากับคนปกติที่อยู่ในวัยเดียวกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับโรคมะเร็งที่พบ เพราะโรคมะเร็งแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันมาก และก็ขึ้นอยู่ที่การรักษา และระยะที่พบด้วย วันนี้เรามาดูชนิดของมะเร็ง ที่แพทย์ชี้ว่าสามารถรักษาให้หายได้กันค่ะ! – มะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบเฉียบพลันชนิดลิมป์โฟ ไซติค ลิวคีเมีย – มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอร์ดกิ้น – มะเร็งไตในเด็กชนิด วิมส์ ทูเมอร์ – มะเร็งลูกอัณฑะ – มะเร็งกระดูก ชนิด อ๊อสติโอเจนนิค ซาร์โคม่า – มะเร็งรังไข่ชนิดเนื้อเยื่อบุผิว – มะเร็งผิวหนังบางชนิดเช่น Basal cell carcinoma – มะเร็งเต้านม – มะเร็งปอดชนิด Small cell – มะเร็งหลังโพรงจมูก – มะเร็งชนิดเนื้อเยื่อ Germ cell ยังไงแล้ว ก็ขอให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งมีกำลังใจในการรักษา และต่อสู้กับโรคมะเร็งอย่างเข้มแข็งกันนะค๊ะ ^__^-
-
คณะแพทย์ รามา แนะนำวิธีป้องกันมะเร็งมดลูก และ มะเร็งไข่ในผู้หญิง ที่ยังไม่มีลูก
คณะแพทย์ รามา แนะนำวิธีป้องกันมะเร็งมดลูกและมะเร็งไข่ในผู้หญิง ที่ยังไม่มีลูก ในผู้หญิง เมื่อมีการเจริญเติบโตขึ้น ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงด้านสังคม ารพัฒนาของระบบเจริญพันธุ์ เกิดการตกไข่และมีประจำเดือน สามารถตั้งครรภ์และมีบุตรได้ กระบวนการเจริญสู่วัยสาว ทำให้เกิดอาการทางร่างกายที่เด็กหญิงไม่เคยประสบมาก่อน เช่น อาการคัดตึงของเต้านม จากการกระตุ้นของฮอร์โมนที่สร้างจากรังไข่ อาการปวดท้องน้อยข้างเดียวจากการตกไข่ อาการปวดหน่วงขณะมีประจำเดือนอันเกิดจากมดลูกบีบตัว ในแต่ละรอบเดือน รังไข่จะสร้างฮอร์โมนเพศหญิงปริมาณมหาศาล ฮอร์โมนเหล่านี้จะไปกระตุ้นอวัยวะของความเป็นหญิง เช่น เต้านม มดลูก ปีกมดลูก และอวัยวะในอุ้งเชิงกราน ในสตรีบางคนการกระตุ้นของฮอร์โมนเพศหญิง ทำให้เกิดภาวะบางอย่าง เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ซึ่งมักร่วมกับอาการปวดประจำเดือนอย่างมาก ฮอร์โมนอาจกระตุ้นการเจริญของเนื้องอกในตัวมดลูกและเต้านม ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกให้หนาขึ้นจนกลายเป็นมะเร็งได้ การกระตุ้นให้เนื้องอกในมดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้น หรือในรายที่เป็นมะเร็งเต้านม อาจกระตุ้นให้มะเร็งแพร่กระจาย สภาวะเหล่านี้จะลดน้อยลง หรือหายไปได้หากปราศจากการกระตุ้นของฮอร์โมนเพศหญิงในรายที่เป็นมะเร็งมดลูก หรือเต้านมจำเป็นต้องกำจัดแหล่งที่มาของฮอร์โมนเพศหญิงให้หมด และอาจจำเป็นต้องผ่าตัดรังไข่ออกทั้งสองข้างหรือให้ยาต่อต้านฮอร์โมนเพศหญิง ในสตรีโสดการทำงานของรังไข่ จะเป็นไปตามรอบเดือนอย่างต่อเนื่อง จึงมีความเสี่ยงจะเกิดภาวะอันเกิดจากฮอร์โมนเพศหญิงได้สูง เช่น เกิดภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เยื่อบุโพรงมดลูกหนา เป็นถุงน้ำหรือก้อนที่เต้านม ติ่งเนื้อหรือเนื้องอกของตัวมดลูก ซึ่งภาวะเหล่านี้จะพบมากขึ้นตามอายุ ในสตรีโสดที่อายุเกิน 40 ปี อาจตรวจพบเนื้องอกตัวมดลูกได้ถึงร้อยละ 30-50 มะเร็งสตรีที่ร้ายแรง คือ…